ลมหายใจ...เครื่องมือมหัศจรรย์


ฝึกหายใจเพื่อลดอารมณ์เชิงลบ

    "ลมหายใจ"  ระบบอัตโนมัติของร่างกาย  ที่ธรรมชาติให้มา อาจกล่าวได้ว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่มีสติปัญญามากพอที่จะบริหารลมหายใจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการดำเนินชีวิต  เช่น ในวิถีของโยคะ ที่มีการฝึกลมหายในที่เรียกว่า ปราณายามะ  สำหรับชาวไทเก๊ก ก็มีการฝึกปราณ เช่นกัน  ซึ่งการฝึกเหล่านี้ให้ผลระยะยาวคือ ทำให้มีระบบการหายใจที่มีประสิทธิภาพ  (มีการแลกเปลี่ยนก๊าชดีขึ้น ระบบการไหลเวียนดีขึ้น)

     ในภาวะปกติ จังหวะการหายใจของคนเราจะเป็นจังหวะสม่ำเสมอ  แต่เมื่อเครียด ทุกข์ใจ อยู่ในสถานการณ์ยุ่งยากหรือวิกฤต คนเรามักหายใจเร็วขึ้น ถี่ขึ้น นั่นก็คือระบบอัตโนมัติของร่างกาย ที่เขาพยายามปรับสมดุลของตนเอง  หากอยู่ในภาวะเช่นนี้นานๆ อาจนำมาสู่อาการที่เรียกว่า หายใจไม่อิ่ม หายใม่พอ เหนื่อย แน่นหน้าอก จนหลายคนเข้าใจผิดว่าตนเป็นโรคหัวใจ แต่เมื่อไปตรวจแล้วก็พบว่าทุกอย่างปกติ

       ในทางสุขภาพจิตและจิตเวช เมื่อเราพบว่าใครมีลักษณะการหายใจที่เป็นทุกขภาวะดังกล่าวข้างต้น เราจะแนะนำให้ฝึกหายใจอย่างเป็นธรรมชาติ คือ หายใจเข้าท้องพอง หายใจออกท้องยุบ ทั้งนี้การหายใจดังกล่าวต้องเป็นการค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าทางจมูกช้า ไม่ยกไหล่ ไม่ตั้งใจสูดลมหายใจแรงๆ เมื่อลมหายใจเข้าไปจนสุดแล้ว ระบบธรรมชาติของร่างกายจะกำหนดให้เราหยุดหายใจช่วงระยะสั้นๆ จนบางคนแทบสังเกตไม่เห็น จากนั้นร่างกายจะกำหนดให้เราหายใจออก เวลาหายใจออกนี้ ทำได้ด้วยการค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกทางจมูกช้าๆ จนลมออกจนหมด

    แต่สำหรับคนที่อารมณ์กำลังรุนแรง  เช่น โกรธมาก  กดดันมาก เครียดมาก การหายใจด้วยวิธีธรรมดาข้างต้นอาจเอาไม่อยู่ ก็มีเทคนิคคือ หายใจเข้าทางจมูกลึกๆๆๆๆ แล้วผ่อนลมหายใจออกทางปากช้าๆๆๆๆๆ  จนกว่าลมหายใจจะหมด จึงหายใจเข้าไปใหม่  (การหายใจแบบนี้ต่างจากการถอนหายใจคือ ถ้าถอนหายใจจะเป็นการหายใจสั้น หน้ายก ไหล่ยกขึ้น โดยที่ลมไม่เข้าไปในปอดมากพอ พอหายใจออก ก็เป็นเพียงการพ่นลมออกมา) 

     ให้หายใจแบบนี้ต่อเนื่องกัน 5-10 รอบ ขณะหายใจก็ให้ความสนใจกับลมหายใจเข้า-ออก  สักพักอารมณ์ที่กำลังพุ่งกระฉูดก็จะทุเลาลง บางคนพอฝึกไประยะหนึ่งจะอยากหายใจเข้า-ออกทางจมูก ก็ให้ทำตามที่ร่างกายต้องการ  วิธีการนี้มีผู้ป่วยหลายคนที่ฉันดูแลอยู่ฝึกแล้วได้ผลดี  ซึ่งจะเห็นผลต่อเมื่อฝึกสม่ำเสมอ ประจำ ทุกวัน อย่างน้อย 30 รอบต่อวัน (หายใจเข้า - หายใจออก นับเป็น 1 รอบ) ประมาณ 1 เดือน   บางคนต่อยอดทักษะด้วยการฝึกทุกครั้งที่มีเวลาว่าง หรือฟุ้งซ่าน ผลพลอยได้ที่ตามมาคือ จิตใจสงบ สติว่องไว

  

หมายเลขบันทึก: 484026เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2012 14:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 07:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • ขอบคุณที่แวะไปให้คำแนะนำเรื่องการทำสมาธิ
  • แวะมาศึกษาเรื่องการหายใจค่ะ

 

เมื่อวานลองสอนเทคนิคการหายใจด้วยทรวงอกให้คนหมู่มาก. เทคนิคที่ใช้คือแทนที่จะนั่ง ก็ให้ยืนในท่าทานาสนะ(ท่าภูเขา). พบว่าคนที่ไม่คุ้นเคยปฏิบัติได้ง่ายขึ้น. การฃหายใจด้วยทรวงอกนี้หากหายใจได้ลึกพอ ความรู้สึกนิ่งเบาสบายจะเกิดอย่างเด่นชัด

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท