บันทึกของคนเคยตกงาน - ๓


โตนี่ - ฟาง. GotoKnow.

* นี่เป็นครั้งแรกของผม..ที่ต้องมาสัมภาษณ์งานก่อนจะได้งานทำ..แม้จะมิใช่งานถาวร..เอาเข้าจริง..หมูกว่าที่คิดไว้มาก..

 

แต่ที่จั๊สแมคนั้นผมได้แต่รอครับ !  และทุกครั้งที่มีรถฮอนด้าเข้ามาในลานจอดรถผมจะเดินมาดูหน้าคนขับรถแต่ผิดหวังครับ.ม่ใช่เธอ.  ความจริงการที่ได้เป็นทหารอาชีพนั้นก็ดีน๊ะครับ.เพราะทางครูฝึกเขาได้พยายามปลูกฝังนิสัยต่างๆให้กับผม  อย่างน้อยก็เรื่องการตรงต่อเวลาไงล่ะครับ !ทำให้ผมติดเป็นนิสัย.แต่มีบ่อยครั้งที่ต้องมาพบกับคนที่ไม่รักษาเวลา.เมื่อไรจึงจะเจริญล่ะครับ ? สมัยที่เป็นจ่าใหม่นั้นผมรับราชการอยู่ที่กองพันทหารปืนใหญ่ ยุคนั้นยังเป็นพันป.ผส.นย.อยู่เลยครับเขาสอนให้ทหารทุกคน  ต้องรักษาเวลาและต้องตรงต่อเวลา รท.ประเสริฐ ประจงจัด รน.รองผบ.ร้อย ในสมัยนั้น.เสียชีวิตแล้วหลังเกษียณอายุได้ไม่นาน. ท่านอธิบายให้ฟังเสมอๆว่า ถ้าเรา หมายถึงบรรดาทหารราบ หรือบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง.  ข้ามไปยังแดนข้าศึกเพื่อปฎิบัติภารกิจใดๆก็ตาม  พอถึงเวลาที่ปืนใหญ่จะยิงสนับสนุน ให้ทุกคนถอนตัวออกมาให้พ้นบริเวณนั้นๆ ตรงตามเวลาที่กำหนดมิฉะนั้นปืนใหญ่ก็จะยิงทันทีซึ่งถ้าถอนตัวออกมาไม่ทัน...ก็ต้องตายสถานเดียว.

๒๑. ปืนใหญ่ยิงสนับสนุนแนวหน้า. - ถ้าถอนตัวออกมาไม่ทัน..ตายสิครับ. ขอบคุณภาพจากเน็ทสอ.รฝ.

ผมคงเป็นลูกศิษย์ที่ดี เพราะปกติผมมักจะตรงเวลาเสมอ  ไม่ว่าเรื่องใดใด ? รถแล่นเข้ามาอีก ๓-๔ คัน.ตรงตามที่บอกทุกอย่าง แต่ก็ยังไม่ใช่เธอ? ผมยังพยายามอดทนรอต่อไปอีกเพราะหวังว่าจะได้งานทำ  ที่ผ่านมานั้นต้องว่างงาน เกือบสี่เดือนเต็มๆ. ประมาณ ๐๘๒๐ น. มีรถและคนขับซึ่งมีลักษณะตรงกับที่พี่ติ๋มได้บอกผมไว้ตั้งแต่แรก  แน่นอนครับผมรีบเดินตรงมาที่จอดรถทันที  นางสาวแนนซี่ กำลังจะถูกผมบี้.เธอค่อยๆนำรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ  แล้วจึงค่อยๆเลื้อยลงมาจากรถ หล่อนมิได้สนใจผม แม้แต่น้อย. อาจเป็นเพราะหล่อนคือลูกสาวนายจ้างนั่นเอง !จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องมาสนใจลูกจ้างแต่อย่างใด ?ผมว่าหล่อนคิดผิดเพราะผมไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ผมถามว่าชื่อแนนซี่หรือเปล่า ?เธอรู้ไหมว่าฉันมาจากสัตหีบน๊ะทำไมฉันมาทันเจ็ดโมงล่ะ!    พอเราได้ประจันหน้ากัน  ผมถามเธอว่า   :

ผู้เขียน      :   ขอโทษครับ..ชื่อแนนซี่รึเปล่าครับ ?              

แนนซี่      :   ใช่ค่ะ !  

ผู้เขียน     :   ไหนบอกว่า..เจอกันเจ็ดโมงไงล่ะ!  นี่มันกี่โมงแล้ว ?

                  เกลียดจริงๆ  ไอ้พวกที่ไม่เคยตรงนัด.     

ผมยังไม่หายโมโหจึงพูดด้วยเสียงดังว่า..ไปจะไปสัมภาษณ์ที่ไหนก็ไป..เธอเดินนำหน้าผมไปที่ชั้นบน  ผมตามไปพร้อมกับชายอีกสองคนซึ่งจะมาเป็นล่ามด้วย ปกติผมไม่ค่อยจะดูถูกใครง่ายๆหรอกครับ.  สองคนนี้ผมมองว่า..น่าจะเป็นพวกไก๊ด์ผีมากกว่า..อะไรกันมาสอบสัมภาษณ์ไม่มีปากกา ดินสอ หรืออะไรมาเลยสักอย่าง ผมต้องแจกกระดาษให้เผื่อจะได้จดอะไรบ้าง  ในช่วงสัมภาษณ์. หนอย ! พี่ไม่ยอมลงทุนเลยนี่หว่า. ผมขึ้นมาพบกับนายทหารนย.อม.หนุ่มคนหนึ่งมียศเรือโท. ยังดูเด็กๆอยู่เลยครับ.

 

๒๒. นย.ไทย อเมริกัน เกาหลี.- แค๊มป์เพ็นเดิลตั้น. ปี ๒๕๓๑              

ผมได้ทักทายและคุยกันหลายเรื่อง.ท่านมาจากแค๊มป์เพ็นเดิลตั้น Camp Pendleton.  แคลิฟอร์เนียโน่น ! พอผมบอกไปว่า..ผมเคยไปเรียนเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงรถสายพานสะเทินน้ำสะเทินบก ที่ค่ายเดลม่า Delma. ดูผู้หมวดแกดีใจครับที่รู้ว่าผมก็เป็นศิษย์เก่าที่นั่น เราคุยกันไปสักพักใหญ่จนผมต้องบอกว่าผมพร้อมที่จะทำการสอบสัมภาษณ์แล้วน๊ะ..พร้อมเมื่อไรก็เริ่มได้เลยครับ.เรือโทคนนั้นบอกว่า..พูดคล่องขนาดนี้ไม่ต้องสัมภาษณ์หรอก เริ่มงานได้เลย. เราสามคนเดินออกมาข้างนอก หลังจากที่ผู้หมวดหนุ่มบอกว่า   ต้องการหนึ่งคนไปทำงานที่สัตหีบในวันนี้ ผมอาสาไปเองเพราะอยู่ที่นั่น ! ผมคิดว่าสองคนนั้นก็คงจะไม่อยากไปหรอกครับ..ไม่ว่ากัน..บ้านใครบ้านมัน

Writer.      :   Morning sir , Where were you from sir. ?

Lt.            :   Morning , How are you. ? From Camp Pendleton.   

Writer.     :   Good , I  went up there for AAV. school sir.

                   Anytime  , I  am ready for interview sir.  

Lt.            :  You speak good English , we do not need to interview.

                   Let start working.

สักครู่ลูกสาวนายจ้างแอบส่งเงินให้ผม ๕๐๐ บาท และ กระซิบเบาๆว่า..ป๋าบอกว่าให้เป็นค่ารถ. ส่วนใหญ่จะมีแต่คนดีใจที่ได้รับเงินแต่ผมไม่ดีใจเลยจริงๆครับ..เพราะว่าได้เท่ากัน.. คิดดูสิ..สองคนนี้มาจากส่วนไหนของกรุงเทพฯก็ไม่ทราบ ? อาจจะเสียค่ารถเมล์มาไม่เกินห้าบาทก็เป็นได้  ผมมาจากสัตหีบครับจ่ายค่ารถไปจริงเกือบร้อยบาท และผมนี่แหละที่เป็นคนคุยกับฝรั่งได้โดยไม่ต้องทำการสอบสัมภาษณ์ใดใด ?  ถ้ามีการสัมภาษณ์จริงสองคนนั้นอาจจะไม่รอดก็ได้.ใครจะรู้ แต่ที่ผ่านมาได้นั้นน่ะ ฝีมือผมทั้งนั้นครับ !แถมช่วงที่ผมคุยกับนายทหารเด็กๆนั้น   ถ้าพี่ทั้งสองพูดได้ก็น่าจะช่วยกันคุยเพื่อแสดงความสามารถของตนเองบ้าง  ผมเห็นพี่ทั้งสองนั่งนิ่งเฉยครับ..ทำไมเวลาเขาจ่ายเงินค่ารถ..พี่แกรับเท่าผมล่ะครับ  ?

                                                                                                                               

 ๒๓.ขนยุทโธปกรณ์มาวางหน้าท่า - ที่ท่าเรือจุกเสม็ด. ปี ๒๕๔๑ ภาพโดยผู้เขียน.

ผมช่วยคนขับรถ และคนงานจัดน้ำดื่มขึ้นรถสิบล้อทันทีจะได้เร็วขึ้น.ทหารนย.อม.ได้นำอาหารมาให้ผมกินช่วงพักเที่ยง เพราะพี่แกคงชอบใจว่าขนาดผมทำหน้าที่ล่ามแท้ๆ  ยังมีน้ำใจช่วยยกน้ำขึ้นรถเป็นอย่างดี.เรารีบออกจากกรุงเทพฯก่อนที่รถจะติดเวลา.รถที่ผมนั่งมานั้นมาถึงสนามบินอู่ตะเภาบ่ายมากแล้ว.  ตอนนำน้ำลงจากรถผมไม่ได้มีส่วนด้วยเพราะหมดหน้าที่แล้วครับ  ปล่อยให้ทหารนย.อม. ที่สนามบินอู่ตะเภา ขนกันเอง. วันรุ่งขึ้นผมจึงว่าง ๑ วัน เพราะเจ้านายโดยตรงของผม จะมาพบกับผมใน วันมะรืน ผมจึงจะได้เริ่มงานหลังจากที่ตกงานมาเกือบสี่เดือนแล้ว..โดยมิได้ตั้งใจ. ผมขอพักก่อนน๊ะครับ.เป็นอันว่าผมได้เริ่มงานทันที ตอนนั้นผมยังต้องขี่คู่ชีพมาทำงาน.คาวาซากิ ๑๔๐ - ดี โดยนำมาจอดไว้ในพื้นที่ของทหารเรือ งานของผมภายในท่าเรือนี้...ผมต้องคอยเดินตามมิสเตอร์เฟรดคนเดียวเท่านั้น ! Mr. Fred.  เขามาทำหน้าที่นี้ทุกปีจนมาได้ภรรยาไว้ที่นี่อีกหนึ่งคน เขาเคยบอกผมว่าเมืองไทย  เป็นบ้านที่สองของเขา. ผมเองมีเพื่อนทหารอเมริกันหลายสิบคน. คนล่าสุดนี้เป็นอดีตทหารอากาศอเมริกันเคยทำที่บริษัทเดียวกันมาก่อน.เขามีภรรยาไทยหนึ่งคนอยู่ที่บางเสร่ เขากระซิบบอกผมว่าตัวเอง ไม่เคยมานอนที่บ้านหลายเดือนแล้วพอกลับมาอีกครั้งเอ้า !.ภรรยาท้องเสียแล้วครับ.น่าสงสารจริงๆสงสัยจะท้องลมกระมัง ! ต่อมาจึงได้เลิกกันไป...น่าเศร้าครับ ! เรื่องแบบนี้น่าแปลกครับผมพบเสมอๆว่า ยังมีสาวไทยอีกหลายๆคน  พอมาอยู่กินกับคนต่างชาติแล้วยังไม่ยอมทิ้งผัวเก่าคนไทย  เออ..แล้วทำไมหล่อนจึงทิ้งเขามาตั้งแต่แรกล่ะ ? หรือว่าแวปมาหาเงินไปเลี้ยงผัวคนไทย เวรกรรมมีจริงน๊ะหล่อนเพราะหล่อนไปหลอกฝรั่งมาปรนเปรอเขา  ทีนี้เขาก็นำเงินนั้นไปปรนเปรอเด็กสาวๆ  กงกรรมกงเกวียน. เอ้า ! หมุนเวียนกันต่อไป.

๒๔. ผู้เขียน. -  งานค๊อบบร้าโกลด์ที่ท่าเรือสัตหีบ. ปี ๒๕๔๑

เพื่อนคนนี้เป็นคนผิวดำชื่อว่า Mr.Dan Generate.นายแดน เจนเนอร์เรท พี่แกพูดภาษาไทยได้ดีกว่าคนไทยอีกหลายๆคน  ผมอยากจะบอกท่านผู้อ่านเสียหน่อย จะได้ไม่เกิดเรื่องไม่ดี   ขึ้นกับตัวเอง. แต่ท่านต้องนำไปใช้น๊ะครับ..ถ้าเราจำเป็นที่จะต้องพูดกับคนต่างชาติล่ะก็ ?  ควรทักด้วยคำว่า.สวัสดีครับ - ค่ะไปก่อน. หลังจากนั้นเราจะรู้เองว่าเขาพูดไทยได้หรือไม่ ?  วันหนึ่งเขานั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่บางเสร่  มีสาวไทยสองคนเดินเข้ามาที่ร้าน  เพื่อจะสั่งก๋วยเตี๋ยวกินกับเขาบ้าง. แต่ไม่รู้ว่าเขาพูดภาษาไทยได้  สองสาวจึงได้พูดออกมาดังๆ. นายแดนเพื่อนของผู้เขียน  กำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่เพียงคนเดียว.  คราวหน้าคราวหลัง..น้องต้องดูให้ดีดีน๊ะจะได้ไม่เปิ่นแบบนี้  สงสัยน้องคงจะไม่เคยรู้มาก่อนแนๆว่า  มีคนต่างชาติพูดภาษาไทยได้เป็นอย่างดีทีเดียว  เขาจะพูดหรือไม่ ? เท่านั้นเอง !               

สาวไทย   : นั่งรอจะสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วคุยกัน..เฮ้ย ! ดูไอ้ดำนั่นสิ  กินคนเดียวสองชามเลยว่ะ !  

แดน         : ได้ยินแล้วคงโกรธ  จึงพูดดังดัง..ผมชื่อแดน  ไม่ใช่ชื่อดำ    

สาวไทย   : คงจะอายครับแล้วรีบลุกหนีไป  โดยยังไม่ทันได้สั่งอะไรสักอย่าง...               

นายเฟรดคนนี้  เคยเป็นทหารอเมริกันมาก่อนแต่ได้เกษียณอายุมาแล้วเช่นกัน เราจึงทำงานร่วมกันโดยราบรื่นเพราะต่างคนต่างเป็นทหารเก่า. จึงมีวินัยและตรงเวลา.งานของผมก็ไม่ได้ยากเย็นนัก เพียงแต่ต้องคอยเดินตามนายเฟรดให้ทันเป็นใช้ได้  ที่จริงเขาตัวเตี้ยกว่าผม  แต่แปลกที่พี่แกเดินเร็วครับ. เพื่อผมจะต้องคอยบอกกับคนงาน - ลูกจ้างของการท่าเรือฯเพื่อให้ขับรถลงมาจากเรือ , จัด หรือทำการหยิบยกอุปกรณ์ต่างๆด้วยเครื่องมือหนัก ซึ่งทางจัสแมคเช่าจากการท่าเรือฯ  แล้วนำของต่างๆมาวางเรียงบนพื้นที่หน้าท่าเรือฯ.

๒๕.. ผู้เขียน.- ริคริชเตอร์ที่บ้านกุมภวาปี  อุดรธานี. ปี ๒๕๔๑

๐๘๐๐ น.เราเริ่มงานกันเลย กว่าจะเสร็จอย่างเร็วที่สุดก็สี่ทุ่มโน่นล่ะ !วันแรกทีกลับมาบ้านผมเดินแทบไม่เป็นเลยทีเดียว ! สาเหตุที่ว่างงานมาเกือบสี่เดือน  ดีว่าแฟนต้มน้ำอุ่นให้แช่เท้าก่อนนอนทุกวัน.มิฉะนั้นคงจะเดินไม่เป็นแน่ๆ.  ช่วงที่เรือลำแรกเข้าเทียบผมมีโอกาสมาทำงานตรงนี้เพียง ๙ วัน. รวมทั้งต้องทำโอที OT. = Overtime. หรืองานนอกเวลานั่นเอง !  เผอิญผู้จัดการของบริษัท พี จี ลอยีสติคส์  ได้โทรมาหาผมที่บ้าน  ช่วงที่ไปทำงานในท่าเรือแล้ว แต่ได้ฝากเบอร์โทรกลับไว้ เราเคยร่วมงานของบริษัทดอยแท๊กซ์    ที่กม.สิบ.  เพื่อไปทำการ ขุด - เจาะ น้ำมันที่ประเทศบังคลาเทศมาแล้ว  และเคยพบกันในแค๊มป์ เมืองซิเลท ที่บังคลาเทศโน่น ! เขาโทรมาชวนผมไปทำงานด้วยที่แท่นขุดเจาะน้ำมันบนบก อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี. เจ้านายคนใหม่เสนอเงินเดือนให้ผม ๑๕,๐๐๐ บาท นอนห้องแอร์ - มีค่าอาหารให้วันละ ๑๕๐ บาท. ซึ่งผมคิดว่าอาจจะเป็นงานสั้นๆเพราะปกติแล้วการขุด - เจาะเพื่อสำรวจน้ำมันนั้น  ไม่น่าจะเกินสามเดือนหรอกครับ  ถ้าขุดพบน้ำมันหรือแก๊ส  ค่อยว่ากันใหม่ครับ.  จังหวะที่เรือเปลี่ยนลำผมก็ได้เปลี่ยนงานตามไปด้วยครับ  !  ก่อนที่จะลาจากกันนั้น นายเฟรดยังได้อวยพรให้ผมได้งานถาวรด้วย. 

Writer.     :   Hey ! I  am leaving , I  got a new job longer than

                   here. Nice to work with you.

Mr.Fred.  :   OK , Pong I hope you have a permanent job.

                   I ’ ll see you later.  Bye - bye.

เรานัดพบกันที่ท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์  Sriracha Habour. โดยเริ่มงานกันเลยในวันนั้น ผมได้นำของส่วนตัวเพื่อไปทำงานหนึ่งกระเป๋า  ตั้งใจว่าขนของขึ้นรถเสร็จ ก็จะออกเดินทางกันเลย.มีรถเทรลเลอร์หลายคันจากหลายๆบริษัท. กำลังทำการบรรทุกอุปกรณ์ขุด-เจาะน้ำมันอยู่อย่างรีบร้อน.เพราะต้องการให้เสร็จงานก่อนที่จะมืด.

๒๖. ผู้เขียนกับเพื่อนร่วมงานต่างชาติ. - มื้อเที่ยงที่ก.ม.สิบ. ปี ๒๕๓๙

ประมาณห้าโมงเย็น  เราออกเดินทางกันเลยจากท่าเรือศรีราชาฮาร์เบอร์  ซึ่งต่างคนต่างไปโดยมีปลายทางอยู่ที่บ้านศรีธาตุ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี     คนขับจอดรถเพื่อกินข้าวแล้วแวะอาบน้ำที่ปั๊มตามทาง จอดนอนบ้างเป็นบางช่วงและเรามาถึงปลายทางอย่างปลอดภัย ประมาณสิบโมงเช้าของวันใหม่. ผมมีโอกาสพบกับ นายสุวิทย์  ตีถัน. เพื่อนร่วมงานคนใหม่  เห็นครั้งแรกก็พอทราบว่า..หมอนี่คงไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าใดนัก ?  มารู้ภายหลังว่าเขาเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน..มิน่าล่ะ ! พอเข้าพื้นที่แล้วผมรีบขนของลงทันทีเพื่อจะปล่อยรถกลับไปยังต้นทาง. มิฉะนั้นเขาจะคิดค่ารออีกหนึ่งวัน. ตกลงเรื่องงานเก่าจากท่าเรือสัตหีบนั้น  ภรรยาผมแจ้งมาว่าพี่สาวคนที่มาชวนไปทำงานด้วย  นำเงินมาให้ครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์ ยกเว้นเงินโอทีครับ..สงสัยจะถูกหัก เป็นค่าหัวคิวไปเสียแล้ว.มาทราบภายหลังว่าพี่สาวคนนั้นสิ้นลมเสียแล้วเลยต้องยกยอดให้เธอไปเสียเลย  เศร้า..เศร้าจนหายแล้วล่ะ !รถคันสุดท้ายสำหรับวันนี้  ได้ออกจากพื้นที่นี้ไปเมื่อประมาณห้าโมงเย็นแล้ว. และผมได้โทรแจ้งผู้จัดการ บริหารงานอยู่ ที่กรุงเทพฯ.โดยได้รายงานสถานะภาพของงาน ตลอดจนความเรียบร้อยต่างๆ ให้เจ้านายคนใหม่ทราบ..จนเป็นที่พอใจ  ที่จริงแล้วงานนี้ผมมาทำในตำแหน่งจัดซื้อครับ Procurement. ช่วงแรกนั้น ต้องเป็นลูกมือของ  นายสุวิทย์พี่แกไม่เคยคิดจะสอนงานให้ผมเลย คนที่ทำเช่นนี้คงคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าใคร.ที่จริงแล้วผิดถนัด.  เขาพิสูจน์แล้ว และยอมรับว่าการทำเช่นนี้..คนโง่เท่านั้นที่จะทำกัน  อ๋อ ! หรือว่าเขาคงไม่อยากให้ผมโง่ตามกระมัง ! จึงไม่ยอมสอนอะไรเลย ขอบคุณน๊ะครับ ที่อุตส่าห์กลัวว่าผมจะโง่ตาม.. ผมต้องศึกษางานเอาเองครับ !  พี่แกทำงานตรงนี้อยู่ราวๆ ๑๐ วันเท่านั้น ! เพราะแกมาพักจากแท่นขุดเจาะเบญจมาศซึ่งทำอยู่ในตำแหน่งพยาบาล Medic. โดยได้ซัพงานให้กับบริษัทเชฟร่อน   ต่อมาได้พบกับผมที่โรงแรมบ้านฉางพาเลซ  ในช่วงที่ผมมาทำให้กับ บริษัทอมฤต ฯโดยซัพงานให้กับ บริษัทซานตาเฟ่  Subcontract - Santafe. ช่วงนั้นผู้โดยสาร ยังเดินทางด้วยเรือเร็ว. ต่อมาพนักงานเดินทางด้วยเฮลิคอร์ปเตอร์  ลูกค้าจากบริษัทต่างๆได้แยกกันไปพักต่างโรงแรม และต่างพื้นที่. เพราะช่วงนั้นทางรร.บ้านฉางพาเลซ  Banchang Palace Hotel.ชื่อเสียงตกลงไปมากด้านการให้บริการที่ห่วยกับลูกค้า หลังจากนั้น  เราจึงไม่ค่อยได้พบกันอีกเลย. ประมาณสองอาทิตย์ต่อมา  พี่แกจึงกลับไปทำงานต่อที่แท่นขุดเจาะ.

 

๒๗. ผู้เขียนเองครับ. - คุมการทำสมอเรือ. - ที่แหลมฉบัง.ปี ๒๕๓๙

ช่วงนี้เอง ผมจึงมีโอกาสบริหารงานด้วยตนเองอย่างเต็มความสามารถ. ผมมีเจ้านายเพียงคนเดียวอยู่ที่กรุงเทพฯ เราติดต่อกันทางโทรศัพท์เท่านั้น !  ฝรั่งออสเตรเลียที่ร่วมงานกันก็ชอบการทำงานของผมครับเพราะจะสั่งอะไร ?  ถ้ามีภายในจังหวัดอุดร. มักจะได้เร็วทันใจครับ. เวลาผมเอาเอกสารไปให้เซ็นต์พี่แกก็เซ็นต์ให้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผมสามารถรวบรวมเอกสารและส่งเข้ากรุงเทพฯได้เร็วขึ้นตามลำดับ  ถูกใจนายครับเพราะสามารถทำเบิกเงินได้เร็ว  ตามไปด้วยนั่นเอง !ที่ซ่อนตัวของผมเป็นรีสอร์ตเงียบๆอยู่นอกเมือง ชื่อตรงๆว่ากุมภวาปี  รีสอร์ต Koom - pawapee Resort.พอนายสุวิทย์กลับไปแล้วผมถือโอกาสย้ายจากห้องพัดลม  มาอยู่ที่ห้องแอร์เดิมของนายสุวิทย์เสียเลย  ทีนี้ล่ะเย็นฉ่ำทีเดียว !  สถานที่นี้ดำเนินงานโดยข้าราชการบำนาญท่านหนึ่ง  เป็นอดีตปลัดอำเภอ.ท่านคุยกับผมดีครับ เพราะผมเองก็เป็นข้าราชการบำนาญกองทัพเรือ.  ส่วนนายสุวิทย์นั้นไม่มีใครชอบพี่แกเลยจริงๆ   ผมทราบจากคนงานภายหลังว่าเขาดูถูกผมไว้โดยบอกคนงานว่า..มันพูดอังกฤษได้ก็จริง  แต่มันจะเขียนได้เหรอ  ? วันหนึ่งผมได้เขียนเบิกค่าของ  ซึ่งจะต้องให้นายฝรั่งเซ็นต์  ชาวออสเตรเลีย.เผอิญคนงานคนเดิมมาเห็นเข้าแล้วพูดว่าเอ๊ะ.! หัวหน้าก็เขียนได้นี่นาทำไมหัวหน้าสุวิทย์เขาบอกว่า..มันจะเขียนได้รึเปล่าไม่รู้ ? ผมเลยบอกไปว่า..เขาคงไม่รู้หรอกว่าตอนที่ผมรับราชการอยู่นั้น..ผมโชคดีครับเพราะเคยได้ทุนกองทัพเรือ ไปศึกษาและ ดูงานที่สหรัฐอเมริกามาแล้ว ถึงห้าหลักสูตร.  จะให้บอกไหมล่ะ ? ว่าหลักสูตรใดบ้าง ? 

๒๘. ครอบครัวผู้เขียน - ที่บ้านหลังใหม่. ปี ๒๕๓๙             

ช่วงที่ทำงานที่นี่    ผมอยู่อย่างอิสระครับ  ตื่นเช้าก็ขับรถมาทำงานที่ในแค้มป์  ระยะทางประมาณ  ๒๕ กม.  เวลานายฝรั่งโทรมาปลุกตอนเช้า I  am on the way sir , about two minutes. ผมก็จะบอกว่ากำลังเดินทางบ้าง   เกือบถึงแล้วบ้าง..พูดไปตามที่จะนึกออก  อย่างน้อยก็ให้เขารู้ว่าเรากำลังมา. งานขุด - เจาะ  น้ำมันนั้นปกติเขาจะทำกันตลอด ๒๔ ชม.เพื่อแข่งกับเวลา.  สำหรับผมนั้นไม่ต้องแข่งกับใคร ?  เพียงแต่ต้องพร้อมทันทีที่ลูกค้าต้องการ  มิฉะนั้นเขาโทรไปแจ้งที่สำนักงานใหญ่ ที่กรุงเทพฯล่ะก็  ! เป็นเรื่องทันที. ผมมักจะพร้อมเสมอครับเพราะลูกค้ายังไม่เคยฟ้องผมเลยสักครั้ง  ดีแล้วอย่าฟ้องเลยน๊ะ !ถ้าว่างผมก็ถือโอกาสเดินดูภายในแค้มป์นั่นแหละว่า   ที่แท่นเจาะน้ำมันบนบกนั้นพนักงานเขาทำอะไรกันบ้าง ?เพื่อประดับความรู้ครับ.ในสถานที่พักของพนักงานขุดเจาะน้ำมันนั้น  บนบกส่วนใหญ่ยังเรียกกันว่าแค๊มป์  Camp.ถ้าเป็นที่แท่นเจาะในทะเลผมไม่แน่ใจว่าเขาเรียกอย่างไร ? แต่ที่ผมได้คลุกคลีอยู่ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Living Quarters. ส่วนที่พักอาศัย.ที่นี่เขาพักกันในตู้คอนเทนเนอร์  Shelter Container. ห้องหนึ่งจัดให้มีสี่เตียง. ปกติพนักงานจะทำงานกะละสองคน อีกสองคนก็นอนพักอยู่   หมายถึงห้องหนึ่งๆจะต้องมี พนักงานนอนอยู่สองคนตลอดเวลา.ช่วงใดที่ผมแอบเมาแล้วไปไม่ไหวผมก็มักจะค้างคืนในแค้มป์นี่แหละครับ ! ใครจะมาว่าผมล่ะครับ ? ผมรู้จักเกือบทุกคนในแค๊มป์นี้ เพราะเราพบหน้ากันทุกวัน.ที่จริงแล้วระเบียบที่เข้มงวดของงานขุด-เจาะน้ำมันนั้น  ห้ามพนักงานดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ครับ. ผมว่าผู้ที่ทำในอ่าวไทยนั้นคงจะห้ามได้ครับ เพราะมักมีการตรวจเข้ม บนบกนั้นทำได้ยาก. และการห้ามดื่มในพื้นที่ทำงานบนบกนั้น  สามารถทำได้เพราะเขามีจนท.เซฟตี้คอยตรวจอยู่เสมอๆ อย่างไรก็ดีถ้าดื่มแล้วไม่เสียกริยาก็คงไม่มีใครรู้ ? เหมือนกันไหมกับที่เราทำผิด..แต่ถ้ายังจับไม่ได้  ก็ถือว่ายังไม่ผิด. ที่สำคัญต้องไม่เสียงานด้วย. แต่ถ้าพนักงานเข้าไปดื่มในตัวเมืองจริงๆล่ะก็ห้ามได้ยากครับ.

๒๙. ผู้เขียนกับเพื่อนร่วมงาน.- ดื่มกันหน่อยไหม ?

ที่ผมพูดเช่นนี้เพราะคืนหนึ่ง..มีพนักงานคนไทยจากแค๊มป์มาปลุกผมเพื่อให้ไปชวนพนักงานต่างชาติกลับเข้าแค๊มป์ ที่จริงเขาเป็นผู้พามาเองแต่พอฝรั่งเมาจึงคุยกันไม่รู้เรื่อง เออ..พี่แกไม่รู้จะทำอย่างไร ?    ดันมาปลุกผมเพื่อไปเจรจาแทนเขา เหลวสิครับ..นายฝรั่งนั่งเมาแล้วหลับคาโต๊ะกันอยู่สาม-สี่คนที่ร้านเล็กๆในเมือง. พอพี่แกรู้ว่าผมมา..แกยังพยายามทักทายผมตามมารยาทแล้วไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น  ก้มหน้าก้มตาหลับต่อไปแบบว่าไม่มีผมอยู่ตรงนั้น.เออ..แล้วผมจะนั่งอยู่ทำไมล่ะ ? ผมจึงกลับห้องพักเพื่อมานอนเอาแรงไว้สู้ต่อตอนเช้า  คนพวกนี้เขามีความรับผิดชอบสูงครับ. ผมว่าอย่าไปห่วงเขาเลยดีกว่า. เช้ามาพี่แกตาแข็งจริงๆทำงานกันแบบปกติ..นี่ถ้าเป็นพี่ไทยล่ะก็ ! คงต้องตามหากัน ให้วุ่น  ไม่รู้ว่า แอบไปนอนอยู่ที่ใด ? แต่ถ้างดเสียบ้างน่าจะดีน๊ะแล้วค่อยมาดื่มเอาตอนช่วงพักดีกว่า  ตู้พักนอนของพนักงานไทยนั้น ต่างกับของชาวต่างชาติราวฟ้ากับดินครับ เพราะตู้ของไทยเป็นตู้เก่าส่วนตู้ของต่างชาตินั้นใหม่เอี่ยมยังได้กลิ่นสีอยู่เลยถ้าไม่เชื่อ. ไปถามนายติ๊กดู.  แต่ผมว่าในเรื่องความเย็นนั้น  เย็นพอๆกันครับ. ผมมีโอกาสเข้ามาสัมผัสแล้วทั้งไทย และเทศ.   เขาว่ากันว่าพนักงานขุด-เจาะน้ำมันนั้น  คบกันผิวเผินพอได้ครับ  อย่าถึงกับให้หยิบยืมเงินกันเป็นอันขาด  เพราะอะไรน่ะเหรอ ? ก็เพราะจะไม่ค่อยได้คืนน่ะสิ !เป็นเช่นนี้เสมอๆครับ. ในโลกนี้ไม่มีใครแน่กว่าใครหรอกครับ  เพราะผมเองยังโดนมากับตัวเองเลยครับ ! วันหนึ่งหัวหน้างานอมฤตฯ ได้มาคุยกับผมในเรื่องสัพเพเหระ  และมาลงท้ายที่ว่าแหม !ผมไม่อยากเอาแหวนของตระกูลไปจำนำเลย ถ้างั้น..ผมขอยืมสัก ๘๐๐ บาทก่อนเถอะน๊ะเดี๋ยวสิ้นเดือนค่อยเอา.   ผมมาทำงานตรงนี้ใหม่ๆ จึงไม่เคยรู้ว่าพอถึงคราวพัก..ถ้าใครทำงานไม่ดีเขาจะไม่เรียกกลับมาอีกในงวดถัดไป  จึงได้ให้เขายืมไปตามต้องการ ช่วงก่อนพักนั้นผมรู้ว่า   น่าจะไม่ได้คืนแน่ๆ.

 ๓๐. ถ้าว่างก็ค่อยๆพาเขาไปปลูกฝังงานบ้าง..- ที่ยาร์ดอยแท๊ค..ลูกชายผมเองครับ. ปี ๒๕๓๙

* ขณะเขียนเรื่องเขาโตแล้วและทำงานที่ท่าเรือมาบตาพุด..ได้ประสบการณ์จากผมไปพอสมควร.

หลังจากที่หัวหน้างานคนนี้ไปพักแล้ว  ก็มิได้กลับมาให้ผมเห็นหน้าอีกเลย  เรื่องเงินที่ยืมผมนั้นกรุณาลืมได้เลยน๊ะพี่น๊ะ ! เพราะพี่แกเปลี่ยนสภาพจากหัวหน้าแผนกเป็นนักดาบไปแล้ว. งวดหน้าถ้าลงแข่งที่สนามไหน ?  อย่าลืมส่งข่าวน๊ะ. พ่อจะแทงให้ทะลุเลยล่ะ! ผมคิดว่า..เรื่องนี้น่าจะหมดอายุความไปแล้วใครเป็นเจ้ากรรมนายเวรก็ให้เลิกแล้วต่อกันเถิดน๊ะ.สาธุ. ระหว่างทำงานอยู่ที่นี่   ผมมีโอกาสรู้จักและสนิทกับเพื่อนต่างบริษัทคนหนึ่งครับ  ชื่อว่านาย เอ็ม แต่ไม่ใช่  เอ็ม ๑๖ หรอกครับ.  นายคนนี้..คงชอบนิสัยผมมากเพราะอยู่ๆพี่แกก็มักจะมาชวนผมไปดื่มเสมอๆ  บ่อยครั้งที่ผมได้ปฎิเสธไปเพราะผมอยากจะเก็บเงินนั่นเอง. มิใช่อุตส่าห์มาทำงานตั้ง ๑ - ๒ เดือน พอจบงานไม่ได้อะไรติดตัวมาเลย  นอกจากหนี้ใหม่.  ที่จริงผมไม่ใช่คนเช่นนั้นครับ ขณะนั้น..นายเอ็มน่าจะมีรายได้มากกว่าสามหมื่นบาทต่อเดือน ปีพ.ศ.๒๕๔๑นั้น   ถือว่าระดับราชาทีเดียวครับ. ผมไปดื่มด้วยไม่กี่ครั้งและเกิดผมสงสารนายเอ็มขึ้นมาทันทีครับ   เพราะการเที่ยวแบบนายเอ็มนั้นมีเท่าไรก็หมดครับ !กินเองประมาณ ๕๐๐ -๖๐๐ บาท.น้องๆเด็กเสริฟบ้าง กะเทย ที่ร่วมวงบ้างกินครั้งละกว่า ๒,๐๐๐ บาท  แบบนี้นี่เองที่นายเอ็มทำงานมาตั้งนานแล้วพองานหมดเงินจึงหมดตามไปด้วยครั้งสุดท้ายเราพบกันที่พัทยา   ผมได้เลี้ยงนายเอ็มตอบแทนด้วยความเต็มใจครับ แม้ว่าจะเป็นมื้อเล็กๆก็ถือได้ว่าเต็มใจครับ   หลังจากที่ผมกลับมาที่สัตหีบแล้ว เราก็มีโอกาสคุยกันทางโทรศัพท์บางครั้ง เขายังคงหากินอยู่กับแท่นขุดเจาะน้ำมันจากประเทศจีนบ้างจากเยอรมันบ้าง.  ตามสถานการณ์น้ำมัน. เย็นนี้ผมเลิกงานมาเร็วกว่าปกติเพราะได้รับแจ้งจากทางกรุงเทพฯว่า..พรุ่งนี้ให้ผมขับรถไปรับพนักงานหนึ่งคนที่สถานีรถบัสในเมือง เวลาประมาณตีสี่. เขาจะมาทำในตำแหน่งเอ - ดี. AD. = Assistant Driller.  ชื่อนาย ปรีชา  เร่งเจริญ.

 ๓๑. แวะมาชมเรือสำราญ. - ที่ท่าเรือแหลมฉบัง. ปี ๒๕๔๓

เมื่อพบกันแล้วให้รับไปทำงานที่แท่นเจาะได้เลย   นายปรีชาทำงานอยู่ที่แท่นเจาะแห่งหนึ่ง  พอดีตรงกับช่วงพัก จึงได้มาเป็นมือปืนที่นี่. เช้าวันนี้ ผมมาติดต่องานในเมือง หลังจากที่ได้นำนายปรีชา  ส่งตรงไปยังแท่นเจาะเรียบร้อยแล้ว พอถ่ายเอกสารเสร็จจึงรีบขับรถเข้าไปยังแท่นเจาะ เพื่อดำเนินการด้านเอกสาร.ร้านแห่งนี้ผมมาจนเป็นลูกค้าประจำแล้ว เพราะเมืองเล็กๆแบบนี้  ไม่มีร้านให้เลือกมากนัก.  ลุงเจ้าของร้านก็นำพระมาส่องดูกันในหมู่เพื่อนฝูง..ใกล้ๆกับเครื่องถ่ายเอกสารนั่นเอง ! ก่อนที่ผมจะขับรถออกไปราวๆ ๒๐ นาที  ผมมาถึงแค้มป์และต้องแปลกใจครับ ! เพราะปกติโทรศัพท์มือถือของผม มักจะดังตลอดเวลา. ผมเอื้อมมือไปควานหาแถวๆบริเวณหน้าคอนโซลรถ  ผมพยายามหาเท่าไร.เท่าไร ?  ก็ไม่พบ..พอนึกได้ว่าลืมไว้บนเครื่องถ่ายเอกสารที่ร้านลุง   จึงรีบขับรถกลับไปทันที   ตลอดทางก็หายใจไม่ทั่วท้องเลย  ผมจำได้ว่าก่อนที่จะออกจากร้านมานั้น...

หมายเลขบันทึก: 483603เขียนเมื่อ 29 มีนาคม 2012 10:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 23:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท