รูปแบบการคิดแบบ Kite Model นี้ จะสามารถฝึกให้ผู้เรียน คิดแบบการมองปฏิสัมพันธ์โดยรวมระหว่างสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ดังคำถามข้อ 5 ถ้ามองว่า ยาบ้ามีผลกระทบเฉพาะทางด้านกายภาพ เพียงด้านเดียวก็จะแก้ปัญหาด้านเดียว แต่ถ้ามองให้เห็นภาพรวมทั้งด้านการปกครอง เศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ชีวภาพ และสังคมวัฒนธรรม จริยธรรม ก็จะเห็น ผล (Out comes) ที่มีปฏิสัมพันธ์โดยรวม จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาในรูปแบบองค์รวม อันจะเป็นการนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปได้
สำหรับการให้คำจำกัดความของคำว่า การปกครอง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ / ชีวภาพและสังคม / วัฒนธรรมจริยธรรมนั้น ผู้สอนต้องดูระดับชั้นเรียนด้วย ถ้าผู้เรียนเรียนอยู่ระดับประถม คำนิยามหรือคำจำกัดความก็ใช้แบบใกล้ ๆ ตัวที่ผู้เรียนสามารถมองเห็นได้ เช่น
1) การปกครอง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว ชุมชน ตำบล อำเภอ จังหวัด กลุ่มร่วมงาน หน่วยราชการในท้องถิ่น
2) เศรษฐกิจ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ การซื้อขายภายในชุมชน รายได้รายจ่ายในครอบครัวและของตนเอง การค้าขายภายในอำเภอ จังหวัด งบประมาณเงินของจังหวัด
3) สังคม วัฒนธรรมจริยธรรม เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ค่านิยมทางศาสนา ทางวัฒนธรรม การศึกษาเล่าเรียน บทบาทของคนในสถาบันครอบครัว ชุมชน กลุ่มสังคม
4) สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ระบบของสิ่งแวดล้อม ดิน พืชพรรณ ภูมิอากาศ น้ำ โรคภัยไข้เจ็บ ลักษณะทางกายภาพของบ้านเมือง
แต่ถ้าผู้เรียนเรียนอยู่ในระดับสูงขึ้นไปกว่าระดับประถมความคิด อ่าน ประสบการณ์ โลกทัศน์กว้างขวางขึ้น คำจำกัดความก็ย่อมขยายให้มากยิ่งขึ้น เช่น
1) การปกครอง ที่เกี่ยวกับสถาบันจำพวก พรรคการเมือง องค์กรในชุมชน หน่วยงานราชการในท้องถิ่น ในประเทศและระหว่างประเทศ
อำนาจ ระหว่างสถาบัน ระหว่างภายในประเทศและระหว่างประเทศ ระหว่างเพศ กลุ่ม เชื้อชาติและกลุ่มทางเศรษฐกิจและสังคม
2) เศรษฐกิจ เกี่ยวกับระบบการผลิต การอุตสาหกรรม โรงงานต่าง ๆ การเกษตร นโยบายเกี่ยวกับการควบคุมราคา
นั่นคือ ผู้สอนจะต้องคอยกระตุ้นความคิดของผู้เรียนให้ขยายวงความคิดของตนออกไปสู่ความเป็นสากลให้จงได้
อีกอย่างหนึ่งลองย้อนกลับไปดูคำตอบ ที่ผู้เรียนตอบว่า “ผู้เสพยามีปัญหาในตนเอง” ผู้สอนต้องพยายามถามให้ผู้เรียนตอบให้เห็นภาพชัดเจนว่า
มีปัญหาอะไร
ปรากฏภาพออกมาเป็นอย่างไร
ทำไม ( เขาจึงติดยาเสพติด )
ผลที่ปรากฏออกมาเป็นอย่างไร
คิดว่าต่อไปน่าจะทำอย่างไร ผลจะเป็นอย่างไร
ผู้เรียนจะต้องตอบแบบคำตอบมองเห็นภาพของผู้เสพยาบ้า (คนนั้น) ให้ชัดเจนแบบว่า เวลาต้องการยาบ้า มีความทรมานแบบใด เหตุที่ติดยาบ้าเพราะแรก ๆ เพื่อนชวนให้ลอง ต่อมาก็ซื้อเอง ผลที่ได้รับคือ ขโมยเงิน พ่อแม่ หรือ สิ่งของไปขายเพื่อซื้อยาบ้า ต่อไปอาจจะรวมกลุ่มเป็นโจรปล้นก็ได้
คำตอบที่ตอบคำถาม ทำไม ผลปรากฏ – อย่างไร จะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับผู้เรียน ผู้สอนจะต้องเน้นย้ำให้มาก ไม่ว่าเรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับยาบ้า เป็นเรื่องอื่น ๆ ก็ตามแต่ ทำไม ผลที่ปรากฏ นี่แหละคือ บทเรียนที่ดีที่สามารถสอดแทรก แนวคิด คุณธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนฉุกคิดได้ เมื่อผู้เรียนได้คิดว่า เหตุที่เกิดปัญหา ผลที่ปรากฏตามมา เป็นไปในรูปแบบใดแล้ว ผู้สอนควรเน้นให้ผู้เรียนค้นหาวิธีการแก้ปัญหา พร้อมคาดคะเนผลที่ปรากฏต่อไป คือ “คิดว่าต่อไปน่าจะทำอย่างไร หรือจะเกิดอะไรขึ้น ผลจะเป็นอย่างไร โดยเป็นการคิดเมื่อผู้เรียนค้นหาคำตอบทั้ง 4 ทิศทางของ Kite Model แล้ว เพราะจะให้ภาพสรุปโดยรวมง่ายต่อการคิดคาดคะเน ล่วงหน้าที่เรียกว่า เรียนรู้ถึงปัญหาอนาคต
การสอนให้ผู้เรียนคิดนั้น สิ่งที่สำคัญผู้สอนพึงสำเหนียกไว้เสมอว่า เมื่อไรที่ผู้เรียนรู้วิธีการคิด และนำวิธีคิดนั้นมาใช้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนได้แล้ว นั่นคือผลแห่งความสำเร็จของการสอนให้คิด
ก่อนปิดเล่มขอบอกกล่าวว่า วิธีการคิดที่นำเสนอทั้งหมดในเล่มนี้ เป็นเพียงวิธีการคิดเบื้องต้น คิดเชิง Logic เท่านั้น เมื่อไรที่ผู้เรียนมีความคล่องต่อวิธีการคิดทั้งหมดนี้แล้วก็จะฝึกฝนวิธีการคิดที่สูงกว่าขึ้นได้ คือ
ระดับสูงสุด
คิดเชิงอนาคต
- คิดวิสัยทัศน์ - และคิดโดยรู้ว่า คิดอะไร |
ระดับสูง
การคิดเชิง Greate
- คิดวิเคราะห์ - คิดสังเคราะห์ - คิดมโนทัศน์ - คิดวิจารณญาณ |
- จินตนาการและคิดสร้างสรรค์ |
ระดับต้น คิดเชิงLogic
(ดูรูปใน https://sites.google.com/site/chatreesamran/hnangsux/-doc-13 ครับ)
เมื่อไรที่ผู้สอนและผู้เรียนสามารถฝึกฝนพัฒนาการคิดของตนจนรู้ได้ว่า กำลังคิดอะไรอยู่ได้ ถือว่าเป็นสุดยอดของการคิด และเป็นการพัฒนาการคิดที่ยั่งยืน.......ครับ
อ่านเป็นเล่มได้ที่ https://docs.google.com/docume...
ไม่มีความเห็น