วงจรที่มีความโง่เป็นพลังขับเคลื่อนย่อมพังลงในที่สุด แม้ไม่ด้วยผู้อื่น ก็ด้วยตนเอง
ทุนนิยมธรรมก็มี แต่ส่วนใหญ่แล้ว มัก สามานย์ พอสามานย์ ก็โลภ พอโลภ ก็โง่
เช่น มันรวมหัวกันระหว่างทุนกับการเมือง ออกกฎหมายสามานย์ว่า กำไรจากการขายหุ้น ไม่ต้องเสียภาษี
เป็นข้ออ้างของคนบางคนว่า ขายหุ้นไปหลายหมื่นล้าน กำไรอื้อ แต่ไม่ต้องเสียภาษีสักบาท มันอาจไม่ผิดกฎหมายหรอก แต่ลึกๆ แล้วถามว่า คุณผู้ได้กำไรแบบนี้ไม่รู้สึกผิดบ้างเลยหรือ ที่หากินกำไรมากับสังคม แต่พอมีมากๆ กลับไม่จ่ายคืนสังคมสักบาทเดียว
ส่วนกำไรจากการขายก๋วยเตี๋ยว ขายแรงงาน ขับแท็กซี่ กว่าจะได้กำไรมาที่ละบาทในแต่ละชั่วโมง มันแสนเหนื่อยยาก ทั้งร้อน เหม็น ไอ ฝุ่น เสียงด่าจากลูกค้า ...กลับต้องถูกจิกแทะภาษีอย่างดุดันโหดเหี้ยม อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
นี่แสดงว่ากฎหมายบ้านเรามันเอื้อทุนนิยมสามานย์ส่วนน้อย แล้วมากดขี่รีดนาทาเร้นเอากับคนยากคนชั้นล่าง (ที่ส่วนใหญ่กลับบูชาพวกมันซะอีก หาว่าเป็นพระเจ้าไปโน่น..โอว)
แล้วพอไอ้พวกนายทุนสามานย์พวกนี้มันได้เงินกำไรมามากๆ แบบ ง่ายๆ มันก็เอาเงินมาซื้อนักการเมืองให้ยกมือออกกฎหมายให้พวกมันไม่ต้องเสียภาษี
ส่วนพวกชั้นล่างก็ทำงานกันไป งานหนักจนไม่มีเวลามาศึกษาหาความรู้ให้ฉลาดเท่าทันพวกมัน ก็เลยต้องรับเงินซื้อเสียงของพวกมัน ที่ได้กำไรไปจากหยาดเหงื่อแรงงานของเรานั่นเอง (กำขี้ดีกว่ากำตด) ส่งสส. เข้าไปยกมือให้มันปั่นวงจรชั่วให้หมุนวนต่อไป จนกว่า...
วงจรที่มีความโง่เป็นพลังขับเคลื่อนย่อมพังลงในที่สุด แม้ไม่ด้วยผู้อื่น ก็ด้วยตนเอง
..ถึงวันนั้นคนโง่ โลภ จน รวย ก็เท่าเทียมกัน (คือตายกันหมด) โสน้าน่า ก็เจือกง่าวเองนี่หว่า ทั้งที่พ่อแม่ครูพระสอนมาจากเหงือกหลุดก็ไม่ควัง (ไม่มี อิอิ ต่อท้าย)
...คนถางทาง (๒๙ มีนาคม ๒๕๕๕)
ความเห็น (1)
เขียนได้ตรงใจ แต่จะทำอย่างไรดีครับท่าน
สังคมนิยม ก็เกือบจะไม่มีแล้ว Union ก็เกือบจะหายไปหมดแล้ว