Acquired Immune Deficiency Syndrome
หรือที่เรารู้จักกันสั้นๆว่า AIDS คือโรคกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่อง เกิดจากเชื้อไวรัส HIV เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปทำลายเม็ดเลือดขาว ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเสื่อมลง เป็นผลทำให้เป็นโรคติดเชื้อต่างๆ(มักเรียกว่าโรคติดเชื้อฉวยโอกาส) หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ อาการมักรุนแรง เรื้อรัง และเสียชีวิตในที่สุด
เชื้อ HIV เป็นไวรัสในกลุ่มที่ขึ้นชื่อในด้านการมีระยะแฝง การทำให้มีเชื้อไวรัสในกระแสเลือดนาน การติดเชื้อในระบบประสาท การทำให้ภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้ออ่อนแอลง
มีสาเหตุหลักๆจาก
1.การมีเพศสัมพันธ์
2.การรับเลือดและองค์ประกอบของเลือด
3.การใช้เข็มหรือกระบอกฉีดยาเสพติดร่วมกัน
4.จากมารดาสู่ทารก
WHO(องค์การอนามัยโลก)ได้แบ่งระยะของโรคAIDSได้ออกเป็น4 ระยะ
• ระดับที่1
= ระยะติดเชื้อHIV ไม่มีอาการ ไม่จัดเป็นโรคเอดส์
• ระดับที่2
น้ำหนักลดลง 10% มีการติดเชื้อทางเดินหายใจซ้ำๆ งูสวัด ปากนกกระจอก แผลในปากเป็นซ้ำ ผื่นที่ผิวหนัง เชื้อราที่เล็บ
• ระดับที่3
น้ำหนักลดลง > 10% เป็นวัณโรคปอด ท้องร่วง/ ไข้เรื้อรังนานกว่า 1 เดือน เชื้อรา หรือมะเร็งในช่องปาก ติดเชื้อแบคทีเรียชนิดรุนแรง
• ระดับที่4
ปอดบวมรุนแรงซ้ำ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง / ปากมดลูก การติดเชื้อราในหลอดอาหาร หลอดลมหรือปอด
คนที่ติดเชื้อ HIV สามารถอยู่ร่วมกับสังคมและครอบครัวได้ สามารถทำงานได้เหมือนคนทั่วไป เพราะเชื้อ HIV ไม่ได้ติดต่อกันโดยการสัมผัส การกอดจูบ การรับประทานอาหาร(แต่ถ้ามีแผลภายในช่องปาก หรือทางเข้าของเชื้อไวรัส ก็อาจไม่ปลอดภัย100%) ไม่ต้องแยกห้องนอน ห้องน้ำ อุปกรณ์ของใช้ต่างๆหรือห้องทำงาน ทำให้มีความสุขที่จะใช้ชีวิตต่อไป ไม่คิดว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่น มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข
นำเสนอโดยนายนฤเบศ เสาร์แก้ว นักศึกษากิจกรรมบำบัด ชั้นปีที่2