คุณภาพชีวิตกับไมเกรน(Migraine)


คุณเคยรู้สึกปวดหัวจนทำอะไรไม่ได้บ้างหรือไม่?

Migraine

เป็นคำภาษาฝรั่งเศสที่มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกว่า  hemicrania , ซึ่ง Galen (A.D.131 -2011) ได้เป็นคนแรกที่ใช้คำนี้เมื่อราว 2,000 ปีมาแล้ว โดยหมายความถึงอาการปวดศีรษะครึ่งซีกที่เกิดขึ้นทันทีทันใด , และเกิดขึ้นเป็นพักๆ นอกจากนี้ยังมีอาการอาเจียน , กลัวแสง และมักเกิดขึ้นซ้ำบ่อยๆในช่วงเวลาที่แน่นอนสม่ำเสมอ อาการปวดศีรษะเหล่านี้มักจะทะเลา , ถ้าอยู่ในห้องมืดหรือนอนหลับ 


อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของส่วนต่างๆภายในกะโหลกศีรษะ เช่น สมอง เยื่อหุ้มสมอง โพรงน้ำในสมอง หลอดเลือดสมอง หรืออาจจะเกิดจากความผิดปกติของกะโหลกศีรษะเอง รวมทั้งอวัยวะต่าง ๆ รอบกะโหลก ได้แก่ ตา หู จมูก โพรงอากาศหรือไซนัส คอ และกระดูกคอ

 

อาการของโรค

1. Prodrome phase (ระยะอาการนำ)

     พบราวๆ 50-80 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยทั้งหมด อาการนำนี้มักเกิดขึ้นทีละน้อยๆ อย่างช้าๆ หรือความผิดปกติของหลอดเลือดที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด และอาการนำส่วนใหญ่บ่งถึงสภาวะเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ , บุคลิกภาพ , และการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น เบื่ออาหาร , รู้สึกหนาว , มีอาการคิดช้า เป็นต้น

2. Aura phase (ระยะอาการเตือน) โดยปกติอาการเตือนนี้จะคงอยู่นาน 10 – 30 นาที อาการมีดังนี้

  • อาการผิดปกติของการเห็น
  • อาการผิดปกติของความรู้สึกสัมผัส ( sensory symptom )
  • อาการ dysphasia
  • อาการทางระบบกล้ามเนื้อ

3. Headache phase (ระยะอาการปวดศีรษะ)

     ปกติจะกินเวลานานราว 2 – 72 ชั่วโมง   ถ้าติดต่อกันนานเกิน   72 ชั่วโมง เรียกว่า status migrainosus

4. Headache termination phase (ระยะหายปวดศีรษะ)

     ปัจจัยที่ส่งเสริมทำให้อาการปวดศีรษะหายไปนั้นมีหลายประการ ได้แก่ การนอนหลับ , การกินยาแก้ปวด , การกินยาแก้อาเจียน และการอาเจียน 

     ในบรรดาปัจจัยต่างๆนี้ การนอนหลับ สำคัญที่สุด โดยปกติการนอนหลับสนิทเพียง 45 ถึง 3 ชั่วโมง ในช่วงเวลาที่ปวด มักจะเพียงพอที่จะทำให้การปวดศีรษะนั้นหายไปได้

5. Postdromes phase (ระยะอาการตาม)

     อาการในระยะ postdrome จะมีอาการที่แสดงตรงข้ามกับในระยะ prodrome อย่างชัดเจน ในผู้ป่วยบางราย


บทบาทของนักกิจกรรมบำบัด

•ตรวจประเมินถึงความสามารถในการทำงานเกี่ยวกับการรับความรู้สึก และตอบสนองของผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคไมเกรน
• ถ้าพบว่าผู้รับบริการมีอาการล้า หรือเครียด ต้องหาสาเหตุ สอบถามข้อมูล หรือคำวินิจฉัยแพทย์ว่ามาจากสาเหตุใด
• เกิดจากความเครียด ก็ให้เข้ารับการบำบัดทางจิตใจ เช่น ให้พักผ่อนในห้องผ่อนคลายความเครียด หรือบำบัดความล้า เป็นต้น
• เกิดจากความผิดปกติที่เส้นเลือดในสมอง ขั้นรุนแรงควรให้แนวทางป้องกัน เช่น แนะนำการออกกำลังกาย การพักผ่อน    หากิจกรรมที่ชอบให้ทำ เป็นต้น


นำเสนอโดยนายนฤบดี  ลาภมี นักศึกษากิจกรรมบำบัด ชั้นปีที่2 

หมายเลขบันทึก: 483526เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2012 12:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 23:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท