เรียนรู้จากเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ R2R


         ดังที่ผมได้บันทึกไว้แล้วใน http://gotoknow.org/blog/thaikm/46102 ว่า มสช. และศิริราชจัดประชุม ลปรร. ประสบการณ์การทำ R2R เมื่อวันที่ 1 - 2 ก.ย.49  และจากการประชุมก็ได้เกิดชุมชน R2R ขึ้นแล้ว   เข้าไปอ่านเรื่องราวได้ที่แพลนเน็ต cop-r2r ดังนี้ http://gotoknow.org/planet/cop-r2r   โดยมี ดร. กะปุ๋มเป็น planet admin

         เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งนี้ให้ความสุขและอิ่มเอมใจแก่ผมมาก   ผมเชื่อมั่นว่าชุมชน R2R จะมีความคึกคัก  เข้มแข็ง  และทำประโยชน์ให้แก่สังคมไทยได้อย่างมากมาย   เป็นการทำประโยชน์หลายชั้น

         ผมสุขใจเพราะได้เห็น KM เข้าไปส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยอย่างตรงตัว   อย่างน้อย ๆ ก็ในการวิจัยแบบวิจัยในงานประจำ

         ผมฝันเห็นชุมชน R2R แพร่กระจายไปทั่วประเทศ

         ผมฝันเห็น "มหกรรม R2R ประจำปี"

ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากเวที ลปรร. ครั้งนี้
      - การทำ R2R ด้านสุขภาพ   เป็นการเริ่มจากคุณค่า  การทำความดี  คือการแสวงหาวิธีการให้บริการสุขภาพที่ดีกว่าเดิม
      - R2R ด้านสุขภาพส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการทำ HA/CQI
      - "ภูเขา" แห่งวิถี R2R คือ research methodology  ซึ่งหมายความว่าคนทำ R2R ในโรงพยาบาลมักเป็นคนหน้างานที่ทำงานประจำ   ไม่ใช่นักวิชาการหรือนักวิจัย   จึงมักโดน R Methodology ปิดกั้นให้ไม่กล้าทำ R2R   มอง R2R เป็นของสูงเกินเอื้อม  ดังนั้นในการส่งเสริม R2R จึงต้องอย่าเริ่มที่ R Methodology   อย่าเอา R Methodology เป็นตัวตั้ง
      - ให้เอา "ปัญหาเล็ก ๆ" เป็นตัวตั้ง   ที่เป็นปัญหาหน้างาน   คิดหาทางแก้ปัญหาหรือหาทางพัฒนางานให้ดีขึ้น   หรือเอาผลงาน CQI ที่มีอยู่แล้วนั่นแหละ   เอามาทำมาตรฐาน (SOP) ใหม่โดยใส่ evidence เข้าไป   SOP (Standard Operating Procedure) ที่มีลักษณะ evidence - based นั่นแหละคือผลงาน R2R ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ได้
      - สุดยอด R2R คือ R2R ที่เป็นไปตามธรรมชาติ   โดยมีการประยุกต์ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเพื่อให้ข้อสรุปมีความแม่นยำน่าเชื่อถืออย่าง "เนียนอยู่ในกระบวนการ"  อย่าแยกระเบียบวิธีออกมาให้ดูน่ากลัว
      - ทักษะที่ต้องเอาใจใส่ฝึกฝนและเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดคือ  ทักษะในการตั้งคำถาม   ซึ่งมากับนิสัยช่างสังเกต  ช่างสงสัย   อยากลองปรับปรุง   อยากลองหาวิธีใหม่
      - อย่าคาดหวังในเบื้องต้นว่าผู้ปฏิบัติงานทุกคนจะทำ R2R ให้เริ่มจากคนที่ "มีใจ" ก่อน   อย่าไปบังคับคนที่มีภาระส่วนตัวมากในขณะนั้น   แต่เมื่อทำกันไปจนคล่อง   ทุกคนจะเห็นว่าการทำ R2R ไม่จำเป็นต้องเรียกร้องเวลานอกมากนัก
      - บรรยากาศของการทำ R2R ควรมีลักษณะ "ทำด้วยความพึงใจ"  คือไม่มีการบังคับหรือทำแบบอาสาสมัคร   รวมตัวกันทำไม่ใช่ทำตามคำสั่ง
      - ทักษะสำคัญที่ต้องพัฒนาขึ้นอีก 2 อย่างคือ
           (1) การจดบันทึก
           (2) การเผยแพร่ผลงานแบบ ลปรร. แล้วนำไปสู่การตีพิมพ์แบบเป็นทางการทีหลัง
      - โรงพยาบาลหรือหน่วยงานขนาดเล็ก   ไม่จำเป็นต้องมีหน่วย R2R แบบศิริราชคือ structure สำคัญน้อยกว่า function  รูปแบบการรวมตัวกันเอง   แล้ว ผอ. เข้าไปหนุนแบบ รพ.ยโสธร ดูจะได้ผลกว่า   แล้วหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ช่วยกันคิดว่าจำเป็นต้องมีโครงสร้างแบบไหน   สิ่งที่พึงตระหนักคืองานวิจัยเป็นงานสร้างสรรค์   ต้องการความเป็นอิสระในความคิดและทดลอง   โครงสร้างเชิงบังคับบัญชาหรือสั่งการแบบราชการจะใช้ไม่ได้ผล

                       

บรรยากาศในห้องประชุมระหว่าง ศ. นพ. ประเวศ วะสี กล่าวสัมโมทนียกถา

                       

                            ประชุมกลุ่มผู้จัดการโครงการ

                      

                                  ประชุมกลุ่มผู้บริหาร

                      

                                  ประชุมกลุ่ม คุณกิจ

                      

         ดร. กะปุ๋ม กำลังแนะนำ บล็อก Gotoknow.org

                      

ตกลงกันว่า ให้จัดตั้ง planet cop-r2r มี ดร. กะปุ๋ม เป็น planet admin.

วิจารณ์  พานิช
 4 ก.ย.49

หมายเลขบันทึก: 48335เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2006 10:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อาจารย์หมอวิจารณ์คะ...

ในกลุ่มครูที่เขาต้องทำวิจัยในชั้นเรียน หากเรานำแนวคิดการทำ R2R ที่คุณชายขอบกับกะปุ๋มพยายามผลักดันแนวคิดที่ว่าทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย และเนียนเนื้อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต...นั้น ก็น่าจะขยายวงได้กว้างขึ้น...ซึ่งตอนที่ไป CoP ครูภาษาอังกฤษ สพท.เขต 1 หนองคายนั้น...กะปุ๋มพยายามชี้ให้ครูเขาเห็นอยู่คะว่า...ปัญหาเด็ก หรือปัญหาเกี่ยวกับการเรียนการสอนของครูนั้น..สามารถนำมาเป็นวิจัยในชั้นเรียนได้...

...

ตอนนี้กะปุ๋มก็พยายามเชียร์ๆๆ...ผู้รับผิดชอบและผู้ประสานทาง สพท.เขต 1 หนองคายคะ...แต่อาจช้าเพราะถูกจำกัดด้วยโครงสร้างการทำงานและการบริหาร..การเสนอทำอะไรสักอย่างจึงอาจไม่รื่นไหล..และรวดเร็ว...

...

สำหรับการขับเคลื่อน CoP R2R กะปุ๋มเชื่อว่าจะเหมือน snow ball ที่รวมตัวเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ๆๆ....เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ....ทางโซนภาคใต้...มีท่านปารมีกับทีมที่แข็งขัน...จับตาเป็น..."โครงการตาวิเศษตามหา R2R จากไอเดียพี่เม่ย"....ทางโซนภาคเหนือกะปุ๋มกะว่าจะลองๆ...ชวนเชิญท่าน ดร.สง่า...ช่วยเป็นแรงผลักและประสาน...กันอีกแรงคะ...และที่สำคัญพี่ใหญ่แห่งวงการ R2R ต้องอาศัยแรงของท่านอัครินทร์และทีมศิริราช...ประสานการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเวทีเสมือนแห่งนี้น่ะคะ...วาดหวังไว้อย่างนี้น่ะคะ

ขอบพระคุณคะ

กะปุ๋ม

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท