สวัสดีค่ะ วันนี้หนึ่งขอมาเล่าต่อจาก "เมื่อเป็นมะเร็งปอดระยะ๔" ตอนที่๒ กันเลยนะคะ สำหรับในตอนที่๒ ผู้ป่วยได้เล่าถึงประสบการณ์ในการฟังธรรม และการทำสมาธิมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ทำให้เมื่อผู้ป่วยต้องเผชิญกับปัญหา การรับรู้ข่าวร้าย(ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะ๔) นั้น ผู้ป่วยสามารถปรับตัวปรับใจได้ในระดับหนึ่ง มีสติที่จะคิดและสู้ต่อไปค่ะ มาดูกันต่อในตอนที่๓ นี้ว่าผู้ป่วยสามารถนำธรรมะมาช่วยในการลดความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยได้อย่างไร
ตอนที่๓ ช่วงที่ทรมานที่สุด
๒ กุมภาพันธ์ ๕๕
หลังให้เคมีบำบัดครั้งที่ ๖ ไป ๒ วัน เริ่มมีอาการปวดไหล่ ตั้งแต่ไหล่ลงไปถึงเอว ปวดร้าวลงมาถึงช่วงขา ทรมานมาก กระดิกตัว พลิกตัว ต้องค่อยทำ เหมือนเด็กหัดคว่ำ หัดเดิน เวลาเดินจะเจ็บแปล๊บที่ฝ่าเท้า ต้องใช้ไม้เท้าช่วย เวลาจะลุกก็ต้องมัดเชือกไว้ปลายเตียงเพื่อดึงตัวขึ้นจากที่นอน อยู่ในท่าไหนก็ไม่สบายเลย
อีกครั้งหนึ่งเมื่อ ๗ กุมภาพันธ์ ๕๕ หลังกลับจากวัด มีอาการเหนื่อย หมดแรงเอาดื้อๆ พอกลับถึงบ้าน(ในสวน) มีอาการปวดสะโพกร้าวลงขาขวาด้านนอก ปวดออกร้อน ครั้งนี้ปวดหนักยิ่งกว่าช่วงให้เคมีบำบัด นอนดูความเจ็บปวดอย่างทรมาน
๑๓ กุมภาพันธ์ ๕๕
ตัดสินใจย้ายออกจากบ้าน(ในสวน) มานอนอยู่บ้าน(ในหมู่บ้าน) เผื่อถ้าตายจะได้ไม่เป็นภาระในการขนย้าย แต่คงไม่ตาย เพราะสังเกตดูตัวเองก็หายใจเป็นปกติดีอยู่
ปวดครั้งนี้สุดๆ ปวดสะโพกร้าวลงขาขวา ดนขึ้นหลัง เสียดทรวงอก นอนอยู่ท่าไหนก็ไม่ดี คุดคู้ ตะแคง นอนหงาย คว่ำหน้า ก็ไม่บรรเทา ยาที่หมอให้ไปกินก็ไม่ดีขึ้น
แต่สิ่งที่บรรเทาได้ พอลืมปวดบ้างคือ คำภาวนาว่า "ปวดหนอ ปวดหนอ" พรอมทั้งการสูดลมหายใจเข้า ออก ลึกๆ ยาวๆ ช้าๆ บ่อยๆ ก็พอบรรเทาได้บ้าง
๑๔-๑๕ กุมภาพันธ์ ๕๕
อาการเริ่มซาลง และหายปวด แต่ก็เหนื่อย หมดแรงเพราะช่วงที่ปวด กินอะไรไม่ได้
ช่วงที่ปวดอยู่นอนน้อย เผลอหลับไปตอนกลางวัน ฝันดีว่า "เห็นเด็กลากบังโคลนรถมอเตอร์ไซค์สีแดงผ่านมา เลยร้องถามว่าเลขออกอะไร เด็กเลยเอาถ่านไฟเขียนเลขใส่บังโคลนโยนมาให้ดู หยิบมาดูคือ ๘๔" บอกแม่ เมีย น้อง และซื้อเองด้วย
๑๖ กุมภาพันธ์ ๕๕
อาการยังคงตัว แต่โชคดีหวยออก ๘๔ ได้กันคนละพอสมควรตามกำลังของแต่ละคน
***
สำหรับตอนที่๓ ช่วงที่ทรมานที่สุด หนึ่งขอพักไว้ที่ตรงนี้ก่อนนะคะ จะเห็นได้ว่าถึงแม้จะเป็นช่วงที่ทุกข์ทรมานที่สุด ยาอะไรก็ไม่สามารถช่วยให้ทุเลาอาการปวดที่เกิดขึ้นนี้ได้เลย แต่ผู้ป่วยใจยังสู้ สามารถนำธรรมะมาใช้และบรรเทาอาการปวดไปได้บ้าง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวของผู้ป่วยจะเป็นประโยชน์และต่อเติมกำลังใจให้ทุกท่านนะคะ ^^ ทุกข์บ้างสุขบ้างปะปนกันไป อยู่ที่มุมมองของเรา
ทุกข์ที่กาย ถ้ายังแก้ที่กายยังไม่ได้ แก้ที่ใจก่อน กายก็จะค่อยทุเลาไป ทุกข์ที่ใจ แก้ที่ใจ กายจะได้ไม่ทุกข์ค่ะ
ขอขอบคุณ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณอดุลย์ค่ะ
ขณะกายป่วย ใจป่วย จิตจะตก บางครั้งต้องอาศัยคนนำพา เืพื่อพาสติกลับมาอยู่กับตัวเอง ครอบครัวคนใกล้ชิด และทีมสุขภาพมีส่วนสำคัญมาก
ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยและคนทำงานทุกท่านค่ะ