การสอนนักเรียนตัวเล็กๆ ให้สามารถใช้ภาษาเขียนสื่อสารความเข้าใจของตนออกมานั้นเป็นเรื่องยากที่ท้าทายความสามารถของคุณครูแอน – สุธนา สิริธนดีพันธ์ และคุณครูจอย – อนุสรา คงกระพันธ์ ที่รับอาสามาสอนหน่วยวิชาภูมิปัญญาภาษาไทยให้กับนักเรียนชั้นประถม ๑ มาก
คุณครูจึงมานั่งคิดหาวิธีการรวมทั้งกระบวนการต่างๆ ที่จะนำพานักเรียนไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเริ่มเรื่องที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด นั่นก็คือ นำเอาความเป็นตัวเองเชื่อมออกไปหาเรื่องอื่นๆ
ในชั่วโมงที่เรียนการเขียนเรื่องโรงเรียนของฉัน คุณครูพาเด็กๆ ให้เดินดูโรงเรียนในมุมต่างๆ ในเวลาที่แตกต่างจากที่นักเรียนเคยพบเห็นในแต่ละวัน แล้วให้นักเรียนชมเรื่องราวของโรงเรียนชาวเขาจากภาพประกอบเพลง “โรงเรียนของหนู” จากนั้นก็มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันว่า “ความสุขของนักเรียนโรงเรียนเพลินพัฒนา กับ โรงเรียนชาวเขาแตกต่างกันอย่างไร ” นักเรียนตอบว่า
โรงเรียนเพลินพัฒนา
โรงเรียนชาวเขา
เมื่อครูเห็นว่าถ้อยคำที่หลั่งไหลออกมาสะท้อนความเข้าใจได้ชัดเจนดีแล้ว ครูจึงถามนักเรียนต่อไปว่า “ถ้าเป็นนักเรียน นักเรียนจะเลือกความสุขแบบไหน ระหว่างความสุขของโรงเรียนเพลินพัฒนากับความสุขของโรงเรียนชาวเขา เพราะเหตุใด ”
นักเรียนส่วนใหญ่ยกมือและเลือกความสุขของโรงเรียนชาวเขาแบบไม่ต้องลังเล พร้อมกับบอกเหตุผลว่า “เพราะความสุขแบบเพลินพัฒนาไม่นานก็หมดไป” เพื่อนอีกคนจึงช่วยเสริมว่า “เพราะความสุขแบบโรงเรียนเราเป็นความสุขที่หนูหาซื้อได้” ในขณะที่นักเรียนอีกกลุ่มให้แรงสนับสนุนว่า “ความสุขของโรงเรียนชาวเขาจะมีความสุขได้นานกว่า เพราะหาซื้อไม่ได้” และเพื่อนอีกหนึ่งคนช่วยสรุปส่งท้ายว่า “ความสุขของโรงเรียนชาวเขาเกิดขึ้นที่ใจของเราเอง”
จากนั้นครูจึงเปิดโจทย์ให้เด็กๆ ได้คิดต่อว่า “ นักเรียนจะใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนนี้อย่างไรให้มีความสุขเหมือนที่โรงเรียนชาวเขา ” คำตอบที่ได้คือ
“เราต้องรู้จักพอเพียง”
“พอใจในสิ่งที่มีอยู่”
“หยุดความอยากได้ของตนเอง ”
“แบ่งปันให้กับเพื่อน”
“ละกิเลส ความอยากได้ ความโกรธ ความอิจฉา”
และอีกหลายเหตุผลที่ถูกกลั่นกรองมาจากความคิดของนักเรียน ทำให้คุณครูแอนที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียนแอบอมยิ้มไม่ได้
จากนั้นก็ให้นักเรียนเขียนเล่าวิธีการสร้างความสุขของตนเองลงในสมุด และอ่านให้เพื่อนๆ ฟังหน้าชั้นเรียน ดังเช่น
โรงเรียนของฉัน (ของขวัญ ชั้น ๑/๒)
ฉันชื่อ ด.ญ. ทองกร พนมธนศักดิ์ (ของขวัญ) ฉันอยู่โรงเรียนเพลินพัฒนา ซึ่งมีของกินของใช้และมีการปิดเทอม มีความสะดวกสบาย มีครูเยอะ มีเครื่องเล่น มีพัดลมเย็นๆ มีวิชาดีๆ ให้เรียน ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเพราะมีความสะดวกสบาย เป็นอิสระ และมีอาหารดี ส่วนโรงเรียนชาวเขาทำงานกันเอง อาหารเลือกไม่ได้ แต่โรงเรียนของเรามีของกินดีๆ แต่ไม่รู้จักคุณค่าอาหาร กินทิ้งกินขว้าง ฉันคิดว่าการที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนให้มีความสุขเราควรจะมีการแบ่งปัน มีความพอเพียง และการเสียสละ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้จากใจของเรา ซึ่งไม่มีวันหมดไป และจะก่อให้เกิดความสุขที่แท้จริงตามมา
โรงเรียนของฉัน (แพรแพร ชั้น ๑/๒)
ฉันชื่อ ด.ญ. ภัทริดา เขียวเม่น ฉันอยู่โรงเรียนเพลินพัฒนา ซึ่งมีของที่ต้องการและมีของใช้ คือ ดินสอและยางลบ โรงเรียนของฉันมีของที่ต้องการมากมาย และมีชมรมคือแสนภาษาที่ทำให้เราพัฒนาตนเองในการวาด ฉันโชคดีเพราะได้มีทุกอย่างที่ตนเองต้องการ ไม่เหมือนที่โรงเรียนอื่นที่ไม่มีอะไรที่ตนเองต้องการเลย แต่เขามีความสุขขึ้นได้อย่างไรฉันไม่รู้ แต่ฉันจะพัฒนาตนเองขึ้นให้ได้ ฉันคิดว่าการที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนให้มีความสุข เราควรจะไม่โลภ และหันมาใช้ชีวิตแบบคนที่ไม่โลภ เช่นเรามี เราใช้เท่าที่มีและหาได้ ความสุขก็จะเกิดขึ้น
ก่อนจบการเรียนในชั่วโมงนี้คุณครูจึงให้นักเรียนทบทวนตัวเองว่าอะไรสำคัญที่สุดในชีวิตเรา คำตอบที่ได้แตกต่างกันไป ทั้งการรู้จักพอเพียง การพอใจในสิ่งที่มีอยู่ การมีน้ำใจกับผู้อื่น มีความรักให้แก่กัน แต่คำตอบสุดท้ายที่ทำให้ครูแอนสามารถจบชั่วโมงเรียนนี้ได้อย่างสวยงามและมีความสุข คือ “ สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตผม คือใจ ”
ครูแอนเดินออกมาจากห้องเรียนในวันนั้น ด้วยความอิ่มเอมใจที่ได้สอนภาษาไทย เพื่อให้ภาษาได้พัฒนาความเป็นตัวตนของมนุษย์ตัวเล็กๆ ให้งอกงามขึ้นเป็นคนได้อย่างสมบูรณ์ และความสุขที่ครูแอนได้รับในวันนั้นเป็นความสุขที่แท้จริง ที่เกิดขึ้นจากใจของเรา ไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้ เพียงแค่การเปิดใจฟังสิ่งที่นักเรียนคิด และคำพูดของนักเรียนก็จะเป็นความสุขที่ย้อนสะท้อนกลับมาหาเราได้อย่างรวดเร็ว
งานเขียนของนักเรียนหลายคนสามารถเรียบเรียงเรื่องราวที่ตนเองต้องการสื่อสารได้เป็นอย่างดี มีวิธีการสร้างความสุขที่แตกต่างกันออกไป เมื่อครูแอนได้อ่านงานจนครบทุกชิ้นก็ได้พบกับเป็นความสุขที่ได้อ่านเรื่องราวดีๆ จากการได้เห็นนักเรียนมีความเติบโตทางด้านทักษะภาษา และที่สำคัญคือได้ความสุขจากการเห็นความงดงามในตัวนักเรียนปรากฏขึ้นบนกระบวนการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ให้ผู้เรียนได้พบกับการเรียนรู้ที่แท้จริง
ครูคือ..ผู้สร้างโลก ด้วยการสร้างศิษย์
ถ้าเราสามารถพัฒนาครู ให้เป็น "ครูเพื่อศิษย์" ได้
การปฏิรูปการศึกษาของประเทศเรา ก็จะได้นับหนึ่ง..เริ่มพัฒนาสักทีนะครับ
เป็นวิธีการสอนที่ดีมากค่ะขอนำไปใช้นะคะ
ด้วยความยินดีค่ะ หากได้ผลอย่างไรเขียนมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
คาบนี้ของครูแอน ครูอ้อได้เข้าสังเกตการสอนด้วยรู้สึกประทับใจเด็กๆ มาก และมีอีกหลายคำตอบที่น่าประทับใจที่ครูอ้อจดเอาไว้จึงอยากเอามาแบ่งปันเพิ่มเติมจากข้อเขียนของครูแอน เช่น
"โรงเรียนชาวเขามีความสุขแบบนั้นได้ ชาวเพลินก็มีความสุขแบบนั้นได้ ถ้าเรารู้จักแบ่งปันและไม่มีกิเลส"
"ความสุขมันไม่ได้อยู่ที่ของ มันอยู่ที่ใจ"
"แม้จะมีของเพียงหนึ่งอย่างแต่รู้จักเอาไปใช้อย่างคุ้มค่าก็มีประโยชน์กว่ามีของเยอะๆแต่ใช้ไม่เป็น"
(มีต่อ)
"การมีของมากเกินไป ก็ทำให้ใช้แบบไม่รู้ค่าและอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย เช่นใช้ห้องเลอะเทอะพี่แม่บ้านก็ต้องเหนื่อย"
"ต้องมีความอดทน ความสุขก็จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีความสุข ความสุขจะเป็นของเรา"
"ความสุขที่แต่ละคนสร้าง จะกลายเป็นความสุขของทุกคน และของโรงเรียน"
ครูอ้อนั่งฟังอยู่หลังห้องก็รู้สึกปลาบปลื้มจริงๆ