โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

บริหารชีวิต


เหมือนว่าบรรยากาศมีอิทธิพลต่อจิตใจของคนไม่น้อย อากาศครึ้มๆจิตใจหมองหม่น หากทุกข์เศร้าเกิขึ้นในจิตใจของคนได้.....

บริหารชีวิต

โสภณ เปียสนิท

........................................

 

            เก้าโมงเช้าของวันนี้ที่หัวหิน อากาศครึ้มๆ เหมือนความหม่นหมองครอบคลุมบรรยากาศไปทั่ว ยังไม่เห็นดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าอย่างเป็นทางการเหมือนเคยเป็น หรือว่าแอบไปเที่ยว เพราะเบื่องานในความรับผิดชอบ นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ท่องไปภายในโลกของเครือข่ายใยพิภพ (อินเตอร์เน็ท) จนร่างกายเมื่อยขบ สายตาอ่อนล้า แอบมองลอดบานเกล็ดออกไปริมระเบียงหน้าบ้านพัก แมวสีเหลืองสลับขาวเดินอยู่บนขอบระเบียงอย่างสบายโดยไม่ต้องกลัวตกกระดูกแตกแม้สักนิด

 

            แมวน้อยหมอบลงบนสันปูนขอบระเบียงนิ่งมองผ่านบานเกล็ดเข้ามา สายตาของเราสบกัน ผมมองนิ่ง เพื่อดูว่าแมวจะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่าผมกำลังจ้องมอง แมวนิ่ง ผมนิ่ง สายตายังคงสบกันเหมือนหนังกำลังภายในขณะจะลงมือฆ่าแกงกัน สักครู่ แมวคงเห็นว่า “เสียเวลาจ้องมองคน” ค่อยๆ ขยับก้นโด่งขึ้น สองขาหน้าเหยียดเตี้ยเรี่ยขอบปูน ก้นโด่งหางชี้ไปด้านหลัง “แมวกำลังเล่นโยคะ” ผมคิดไปเรื่อยโดยไม่ต้องถามแมว สักครู่เขาก็เดินนวยนาดจากไป

 

            เหมือนว่าบรรยากาศมีอิทธิพลต่อจิตใจของคนไม่น้อย อากาศครึ้มๆจิตใจหมองหม่น หากทุกข์เศร้าเกิดขึ้นในจิตใจของคนได้เพราะสิ่งแวดล้อม สุขสันติ์ย่อมเกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ความคิดนี้นำผมกลับไปสู่สมัยเก่ายามผมยังอยู่ช่วงวัยรุ่นเคยอ่านบทกวี อ่านแล้วก็ท่องจำไว้ เพราะความประทับใจ ความประทับใจนี่เองทำให้ผมไม่เคยลืม

 

            “รู้ทางโลกเหมือนอย่างรู้ทางซ้าย ทางขวาหมายรู้ธรรมนำสร้างสรรค์ โลกและธรรมสำหรับรองรับกัน ดีสองขั้นสองฝ่ายคือสายกลาง” จำไม่ได้ว่า บทกวีบทนี้อยู่ในความทรงจำของผมนานเท่าใด แม้กระทั่งใครเขียนก็จำไม่ได้ ต้องขออภัยผู้เขียนไว้ ณ ที่นี่ด้วย แต่จำได้ว่า เป็นบทกวีชนะเลิศ รวมอยู่ในหนังสือกวี “เพชรคำกรอง” หน้าปกสีเขียว ผมได้รับหนังสือเล่มนี้มาจากการเขียนกวีส่งประกวดที่ใดที่หนึ่ง คณะกรรมการเมตตามอบให้มาเป็นรางวัลปลอบใจ

 

            กวีบทนี้เป็นเข็มทิศนำชีวิตของผมก้าวเดินมาถึงวันนี้ วันที่ผมมีวิชาพอหาเลี้ยงชีพได้พอสมควร มีความรู้ทางธรรมพอคุ้มครองจิตใจ สรุปสารัดถะเอาเองว่า คนเราต้องเรียนรู้สองด้าน ทั้งโลกและธรรม นักปราชญ์ชาวตะวันเคยกล่าวไว้ว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” คนเกือบทั่วโลกเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ วันก่อนพบพระเถระรูปหนึ่ง ท่านกล่าวว่า “อาตมาก็เชื่อเช่นนั้น ในตอนแรก” ท่านหยุดเว้นระยะรอดูท่าทีว่าผมจะพูดอย่างไร แต่ผมรอฟังท่านสักครู่ท่านจึงกล่าวต่อเอง “ตอนนี้ความคิดของอาตมาเปลี่ยนไปแล้ว” “เพราะเหตุใดขอรับ” ในที่สุดผมก็หลุดปากจนได้ “เพราะธรรมะของพระพุทธองค์” พระท่านตอบยิ้มๆ เหมือนท่านพบอะไรบ้างอย่างจากหลักธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ตอนที่2

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/482215

ตอนจบ 

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/482651

หมายเลขบันทึก: 481880เขียนเมื่อ 13 มีนาคม 2012 19:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 13:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (31)
  • “รู้ทางโลกเหมือนอย่างรู้ทางซ้าย
  • ทางขวาหมายรู้ธรรมนำสร้างสรรค์
  • โลกและธรรมสำหรับรองรับกัน
  • ดีสองขั้นสองฝ่ายคือสายกลาง” 

นำกวีของนักเขียนดังท่านหนึ่งมาวางไว้ ณ ตรงนี้

ขอบคุณแง่คิดดีดีค่ะ...เป็นบทเขียนที่สละสลวยจริงๆค่ะ

“เพราะธรรมะของพระพุทธองค์”

ผมเห็นจริงด้วยครับอาจารย์ อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจเยอะมากครับ ขอบพระคุณอาจารย์ที่นั่งเขียนงานให้ผู้ผ่านทางมาพบ ครับ

ตามมาเก็บเกร็ดชีวิต ประดับใจ ...

เรียนคุณ Tamtam ครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม

ระยะหลังห่างหายไปนิดหรือเปล่าครับ

เป็นบันทึกที่งามครับ สัมผัสด้วยใจโดยการอ่านแล้วมีกำลังใจ

หากมีเวลาไปจาริกแสวงบุญที่ศรีลังกานะครับ

Ico48เรียนคุณเนิ่มครับ

ขอบคุณที่ผ่านทางมาแวะอ่าน

ข้อคิดคำเขียนที่วางไว้

หวังว่าจะผ่านไปมาอยู่แถวนี้อีกนาน นะครับ

Ico48เรียนคุณอุ้มบุญครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยือน

พร้อมคำวิพากษ์

เรียนคุณIco48ครับ

ศรีลังกาน่าสนใจมากครับ

แต่ยังไม่ได้ศึกษาเรื่องค่าใช้จ่ายเลยครับ 

เรียนคุณIco128ครับ

ขอบคุณสำหรับการมาเยี่ยมเยือนนะครับ

สวัสดีค่ะมาชมผลงาน กำไลของชีวิตกับการได้อ่านบทความที่ดี รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

Ico48เรียนคุณมะลิครับ

ยินดีที่แวะมา แถมเจือน้ำตาลมาด้วย

อีกนิดหน่อยนะครับ

Ico24ขอบคุณครับ อ.นุ

ที่แวะมาให้กำลังใจ

แวะมารับฟังแนวคิดดีๆ และแวะมาทักทายครับอาจารย์ หลังจากไม่ได้แวะมาบ้านหลังนี้หลายเพลาแล้ว

Ico48เรียนคุณ ปีเตอร์ พีครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยือน

หลังจากดูเหมือนว่าจะหายไป

ว่างก็แวะมาอีกนะครับ

 แมวนิ่ง ผมนิ่ง 

เป็นการลองเชิงกันอยู่ในที......

ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว......

 

ห่างหายไปนานค่ะ..ช่วงนี้จะปิดเทอมเริ่มมีเวลาค่ะ

Ico48เรียนคุณกระติกครับ

ผมว่าตาแมวเหมือนตาเสือ

ยามจ้องมองกันเหมือนการสื่อสารทางใจ

เรียนคุณIco48ครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือน

ขอบคุณที่กลับมาเวลาว่าง

สำหรับชาวเราครับ

เรียนคุณIco128ครับ

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจ

ครูครับ

ได้มาเรียนรู้ชีวิตของครู

ทำให้ผมว่า ได้เห็นความจริงบางอย่าง

ที่ชีวิตของผม ได้หลงลืมมันไปนานมากแล้ว

ทั้งที่ผมก็มีสิ่งนี้ติดตัวอยู่เสมอครับ

หมั่นเรียนรู้-หมั่นมอง และพินิจ

มีความสุขเสมอ

และคงจะเดินทางตามรอยครูนะครับ

Ico48เรียนครูอ้อยครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยือน

เป็นกำลังใจในครั้งนี้

Ico48เรียนคุณหมอครับ

  • เรื่องที่คุณหมอว่าลืมนั้น
  • อาจไม่ได้ลืมดอกครับ
  • เพียงแต่อาจอยู่ในใจ
  • รอคอยเวลาที่เบ่งบาน
  • เหมือนดอกไม้ในหน้าฝน นั่นแล

Ico48เรียนคุณหมอครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยือน

เป็นกำลังใจ 

<h3>นักปราชญ์ชาวตะวันเคยกล่าวไว้ว่า &ldquo;มนุษย์เป็นสัตว์สังคม&rdquo;&nbsp;</h3>

Ico48ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยือน

เพื่อเป็นกำลังใจ

ได้ข้อคิดดีมากๆค่ะ ขอติดตามอ่านต่อไปค่ะ

Ico48เรียนคุณวรรณาครับ

ขอบคุณมากที่แวะมาเป็นกำลังใจ

เรียน อาจาย์โสภณครับ ผมขอบขอบคุณอาจารย์ที่ให้กำลังใจผมมาตลอด สิ่งต่างๆ ที่บันทึกไว้ใน GoToKnow นี้ ผมอยากให้ทุกคนมีความสุข เหมือนดังเช่นอาจารย์ได้ทำครับ ผมขอเป็นคนหนึ่งที่ขอให้กำลังใจอาจารย์ทำงานด้วยความสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บนะครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

สุขใจกับบันทึกนี้ ชื่นชมในการใช้ชีวิตค่ะ

Ico48เรียนคุณแดงครับ

ขอบคุณสำหรับการแวะเยี่ยม

และเห็นว่าข้อเขียนอาจเป็นประโยชน์แก่ชาวเรา

ทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท