พระพุทธเจ้าทรงมีพระนามเดิมว่า "เจ้าชายสิทธัตถะ" พระองค์เป็นพระราชโอรสของ"พระเจ้าสุทโธทนะ" และ "พระนางสิริมหามายา" แห่งเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย (ปัจจุบันอยู่ในประเทศเนปาล)
พระองค์ประสูติที่สวนลุมพินี หลังจากที่ประสูติได้ 7 วัน พระราชมารดาคือพระนางสิริมหามายาเสด็จสวรรคต โดยมี "พระนางปชาบดีโคตมี" เป็นผู้ทำหน้าที่ในการอภิบาลเลี้ยงดูอย่างรักใคร่ทะนุถนอม
เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับ "เจ้าหญิงยโสธรา" หรือ "พระนางพิมพา" แห่งกรุงเทวทหะ พระองค์ทรงครองชีวิตอย่างมีความสุขตลอดเวลา
เมื่อพระองค์ทรงมีอายุ 29 พรรษา พระนางยโสธราทรงประสูติพระโอรสอันเป็นที่รักยิ่งปานดวงใจ พระนามว่า "ราหุล" และไม่นานหลังจากนั้น เจ้าชายสิทธัตถะก็ได้ตัดสินพระทัยเสด็จออกผนวช เพื่อแสวงหาหนทางแห่งการดับทุกข์ให้กับชีวิต
ภายหลังจากที่พระองค์ทรงใช้เวลาในการแสวงหาโมกขธรรมเป็นเวลา 6 ปี พระองค์ได้ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในขณะที่ทรงมีพระชนมายุได้ 35 พรรษา และทรงใช้เวลาในการเดินทางประกาศเผยแผ่พระศาสนาอยู่เป็นเวลา 45 ปี
ต่อมาพระองค์ได้ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา ในขณะที่ทรงมีพระชนมายุได้ 80 พรรษา
หากมองในแง่ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ เราจะพบว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นมนุษย์ที่มีความเป็นอัจฉริยะ เป็นยอดแห่งมนุษย์ทั้งหลาย เป็นมนุษย์ผู้ที่มีความประเสริฐอย่างสมบูรณ์แบบ และทรงมีความยิ่งใหญ่อย่างยากที่จะหาคนมาเปรียบเทียบได้
ในวัยเยาว์ ...... พระองค์ทรงเป็นเจ้าชายที่ทรงมีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ ทรงรักในการศึกษา เป็นคนว่านอนสอนง่าย มีความกตัญญูกตเวที และทรงมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อยู่ตลอดเวลา
ในวัยหนุ่ม....... พระองค์ทรงเป็นเจ้าชายที่ทรงมีความอัจฉริยะ ทรงสำเร็จการศึกษา 18 ศาสตร์ ในขณะที่ทรงมีพระชนมายุได้ 16 ปีเท่านั้น ทรงเป็นพระสวามีที่แสนดีและน่ารักของพระนางยโสธรา และเป็นเจ้าชายที่รักใคร่ของปวงประชาราษฎร์
ในวัยชรา...... พระองค์ทรงเป็นพระศาสดาที่มีพระหฤทัยเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ เป็นพระศาสดาที่ทรงทำงานอย่างหนักเพื่อประกาศแนวทางแห่งความดีงามและความถูกต้องให้ประชาชนได้ประพฤติปฏิบัติตามเพื่อนำชีวิตไปสู่ความเป็นอิสระภาพจากมวลกิเลสาสวะ และหลุดพ้นจากปัญหาหรือความทุกข์ทั้งปวง
พระพุทธจริยาวัตรที่พระองค์ทรงปฏิบัติ เป็นแบบอย่างแห่งความดีงาม ที่ทุกคนควรจะยึดถือและปฏิบัติตามมากที่สุด ทั้งในแง่ของการใช้ชีวิต การคิด การพูด การกระทำ และการทำงานด้วยอุดมการณ์อันมั่นคง
ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงเป็นพระศาสดาที่ทรงทำงานหนักเพื่อประโยชน์สุขของปวงชน
พระองค์จึงได้ชื่อว่าเป็นมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่และเป็นพระศาสดาที่โลกไม่มีวันลืม
สวัสดีครับ คุณเอื้องแซะ
-ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับคำอวยพรอันแสนประเสริฐที่มอบให้
-ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง เบิกบานใจ และประสบแต่สิ่งที่ดีงามตลอดไปนะครับ
- ขอบคุณมากค่ะ.....ที่ท่านนำความรู้มาให้อ่าน....เพิ่มความรู้...
ในวัยเยาว์ ...... พระองค์ทรงเป็นเจ้าชายที่ทรงมีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ ทรงรักในการศึกษา เป็นคนว่านอนสอนง่าย มีความกตัญญูกตเวที และทรงมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อยู่ตลอดเวลา
ในวัยหนุ่ม....... พระองค์ ทรงเป็นเจ้าชายที่ทรงมีความอัจฉริยะ ทรงสำเร็จการศึกษา 18 ศาสตร์ ในขณะที่ทรงมีพระชนมายุได้ 16 ปีเท่านั้น ทรงเป็นพระสวามีที่แสนดีและน่ารักของพระนางยโสธรา และเป็นเจ้าชายที่รักใคร่ของปวงประชาราษฎร์
ในวัยชรา...... พระองค์ ทรงเป็นพระศาสดาที่มีพระหฤทัยเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความปรารถนาดีต่อสรรพ สัตว์ เป็นพระศาสดาที่ทรงทำงานอย่างหนัก...เพื่อประกาศ...แนวทางแห่งความดีงามและความถูก ต้องให้ประชาชนได้ประพฤติปฏิบัติตาม....เพื่อนำชีวิตไปสู่ความเป็นอิสระภาพจาก มวลกิเลสาสวะ และหลุดพ้นจากปัญหาหรือความทุกข์ทั้งปวง
----- ทำอย่างไร...ที่มนุษย์..เดินดินอย่าเราๆๆ...จะทำได้ 1ใน100ของพระองค์นะคะ
สวัสดีครับ คุณ Somsri
-การตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองให้ดีและสมบูรณ์ที่สุด(ในทุกขั้นตอนของชีวิต) ไม่ว่าเราจะเป็นหรือทำอะไรก็ตาม..... เท่ากับเราได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วนะครับ
-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมเยือน
ท่านเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบ่งบาน จริง ๆ ครับ
สวัสดีครับ คุณหมออดิเรก(ทิมดาบ)
ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและช่วยเพิ่มเติมความเห็นให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งๆ ขึ้น
ขอบคุณ..กับเรื่องราวที่เป็นอมตะ...คู่กับธรรมชาติ..อัน..ยิ่งใหญ่..เจ้าค่ะ "สิทธารถะ"...(ยายธี)
สวัสดีครับ คุณยายธี
-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและคอยให้กำลังใจ
-ขอให้คุณยายธีมีความสุข สุขภาพแข็งแรง อายุมั่นขวัญยืน เบิกบานใจ และประสบแต่สิ่งที่ดีๆ ตลอดเวลานะครับ