ฤาว่า ไทยจะต้องเสียแชมป์ส่งออกข้าวจริงๆ


ภาครัฐยังไม่สามารถที่จะแก้ไขและพัฒนาวิชาชีพกสิกรให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยะประเทศได้ทั้งๆที่ประเทศไทยเป็นแชมป์การส่งออกข้าวมาหลายสิบปี

 

มีข่าวหนาหูขึ้นเรื่อยๆว่าไทยจะเสียแชมป์ส่งออกข้าวไล่มาตั้งแต่แรกๆเลยคือแข่งกับเวียดนาม และตามมาด้วยอินเดียที่ปีนี้มีแผนการขายข้าวในปริมาณที่มากกว่าไทย ต่อไปด้วยด้วยพม่าที่ประกวดได้ที่หนึ่งในตำแหน่งข้าวพันธุ์ที่ดีที่สุดในโลก "Pearl Paw San" โดยเฉือนชนะข้าวหอมมะลิของไทยที่เป็นแชมป์ติดต่อกันมาสองปี  ซึ่งข่าวนี้อาจสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้แก่ผู้ที่ไม่ได้ปลูกข้าวจริงๆ แต่เป็นเพียงบางกลุ่มบางพวกที่อาจมีความรู้สึกนึกคิดในด้านการรับข้อมูลข่าวสารด้านลบด้วยความห่วงใยประเทศชาติที่จะมีสถิติด้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านลงไปเรื่อยๆ แต่ชาวไร่ชาวนาตัวจริงเสียงจริงอาจจะไม่ได้ตื่นเต้นตกใจอะไรมากนัก เพราะไม่ว่าจะได้เป็นแชมป์หรือสูญเสียแชมป์ชีวิตความเป็นอยู่ก็ไม่ได้ผิดแผกแตกต่างไปจากเดิม ส่วนใหญ่ยังจนเหมือนเดิม รูปแบบเทคโนโลยี นวัตกรรมในอาชีพทำไร่ทำนาก็เหมือนเดิม ขาดการดูแลเอาใจใส่ที่จริงจังจากภาครัฐเหมือนเดิม การทำนายังคงมีการเผาตอซังฟางข้าวโดยอ้างเหตุผลการเร่งรีบให้ทันต่อระบบชลประทานเหมือนเดิม ยังคงแปะโป้งหรือเชื่อปุ๋ยยาเคมีจากร้านเคมีเกษตรเอาไปใส่ก่อนผ่อนจ่ายทีหลังในราคาที่ยังคงสูงกว่าราคาปรกติเหมือนเดิม ขายข้าวได้ก็ต้องหมดเปลืองไปกับค่าปุ๋ยค่ายาที่บรรจงใส่อย่างไม่บันยะบันยังเพราะปัญหาดินขาดความอุดมสมบูรณ์จากการเผาหญ้าเผาฟางหรือขาดความสมดุลย์จากการจัดการด้านสารอาหาร
 
ภาครัฐยังไม่สามารถที่จะแก้ไขและพัฒนาวิชาชีพกสิกรให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยะประเทศได้ทั้งๆที่ประเทศไทยเป็นแชมป์การส่งออกข้าวมาหลายสิบปี เกษตรกรไทยและลูกหลานยังขาดความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และทัศนคติต่ออาชีพของตนเองหันไปมองอาชีพอื่นแทนโดยเฉพาะอาชีพขายแรงงานตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆที่เพิ่งจะถูกน้ำท่วมไป และมีแนวโน้มว่าจะย้ายถิ่นฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านที่มีทั้งทรัพยากรและค่าแรงที่ถูกกว่า บริหารจัดการน้ำท่วมได้ดีกว่า จนลูกหลานชาวไร่ชาวนาต้องหันหน้าไปตั้งหลักกลับบ้านนอกไปฟืื้นฟูพัฒนาอาชีพเดิมอย่างเก้ๆกังๆ เพราะขาดความต่อเนื่องสืบสานจากรุ่นสู่รุ่นขาดความรู้ที่แท้จริงขาดความต่อเนื่องเพราะมองไม่เห็นคุณค่าในสาขาอาชีพที่ดำรงเผ่าพันธุ์ความเป็นไทยมาเนิ่นนานว่ามีดีมีเด่นอย่างไร เพราะไม่ว่าจะผลิตหรือทำนาปลูกข้าวมากี่ชั่วอายุคน รัฐบาลก็ไม่สามารถพัฒนาอาชีพนี้ให้ทัดเทียมอาชีพอื่นๆได้ ลูกหลานชาวไร่ชาวนาจึงต้องมุ่งหน้าสู่เมืองไปหางานทำ เพื่อไปหาเงินตราค่าตอบแทนที่สูงกว่าอาชีพ "ชาวนา"
 
ความจริงการจะได้แชมป์หรือไม่ได้แชมป์ไม่ใช่สิ่งสำคัญแต่สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องส่งเสริมสนับสนุนให้อาชีพ "ชาวนา" สามารถลืมตาอ้าปากได้และมีความทัดเทียมกับอาชีพอื่นๆในสังคม ต้องช่วยเข้ามาเสริมเติมแต่งระบบที่พิกลพิการให้กลับเข้าที่เข้าทางอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ราคาข้าวเปลือกสูงขึ้น ราคาปุ๋ย ราคาข้าวสารก็ขึ้นตามมาติดๆแบบไม่ตั้งใจ แล้วชาวนาชาวไร่จะได้อะไรเพราะมีส่วนต่างและต้นทุนที่เกือบคงเดิม แต่ส่วนต่างจำนวนมหาศาลไปอยู่ที่โรงสีและผู้ส่งออก อันนี้สำคัญ! ในเมื่อรัฐบาลมีนโยบายเรื่องราคาที่จะช่วยเหลือชาวไร่ชาวนาให้ดีขึ้นไม่ว่าจะจำนำหรือประกัน แต่ควรดูแลและปรับปรุงแก้ไขระบบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้วงจรอุบาทว์เหล่านี้ออกไปให้ห่างไกลอาชีพชาวนาอย่างสิ้นเชิงเพราะพวกเขาเป็นกระดูกสันหลังและส้นตีนที่คอยค้ำจุลเกื้อหนุนประเทศทุกครั้งที่บ้านเมืองมีภัย
 
มนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
หมายเลขบันทึก: 481018เขียนเมื่อ 5 มีนาคม 2012 08:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มีนาคม 2012 16:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

What I hear about Thailand rice production:

-- output per area is lower (than Burma, Cambodia, Vietnam, India,...)

-- cost of production per ton is higher

-- growers' profit margin is low but resellers' profit margin is high

-- many varying factors are not under control so risk is very high

...

You are right about farmers first.

#1 in rice export but last in farmers' livelihood does not sound good.

It must have been 'true Thai tradition' that keep Thailand's rice farmers growing year after year.

Soon they will lose out to mechanised/automated farming technologies and agri-companies (from overseas).

[We want to help. But we can't buy direct from farmers.

-- we need a home-electricity or hand-operated rice mill (does anyone know of such rice mill?)

-- we need to measure chemical residues in rice (does anyone know how to do this?)

-- we don't have Internet rice shops (does anyone know of paddy rice shops?)

...]

I agree with you something. and for your question. I think the government should have a better answer.

Thank you very much for you opinion.

หากนักการเมืองยังมีแต่คนโกงภาษีประชาชน

แล้วจะหวังชนะใครในโลกนี้ได้เล่าครับ 

เสียแชมป์ข้าว ไม่น่ากลัวเท่ากับ ขายข้าวไม่ได้ รัฐซื้อแพง เอาเงินทุ่มลงไป

โดยไม่พัฒนาศักยภาพชาวนา และ ข้าวเหลือ เสียเงินในการจัดเก็บจัดการ

สุดท้าย ข้าวเหล่านี้ ต้องถูกขายโละออกไปราคาถูกๆ นายหน้า ก็ซื้อเอาไปทำ

กำไรได้อีก นี่คือ วงจรอุบาทว์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท