จินตนาการสำคัญกว่าความรู้


จินตนาการสำคัญกว่าความรู้

1.ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเราอยุ่เงียบๆ มองไปนอกหน้าต่าง สมการต่างๆจะวนเวียนอยู่ในหัวของเรา รอจนกระทั่งสมการสมบูรณ์ จึงค่อยนำมาเขียนลงใส่กระดาษ

2.เมื่อคุณพ่อให้เข็มทิศชี้ไปทางทิศเหนือคืนแล้วคืนเล่า จะจ้องมองแล้วจินตนาการ นึกเป็นภาพตลอดเวลา

3.อยากรู้ความคิดของพระเจ้าในวิถีของวิทยาศาสตร์ สมการเพียงหนึ่งนิ้วแต่ครอบคลุมทุกอย่างบนโลกใบนี้

4.เค้าเรียนไม่ได้เรื่อง จบไปก็ไม่มีงานทำและเคยคิดจะไปขายประกัน

5.สมัยเรียนไม่เคยมีใครพูดถึงชื่อไอน์สไตน์ และช่วงหนึ่งเคยทำงานเป็นเสมียนให้แก่รัฐบาลสวิตซ์ แต่นั้นทำให้มีเวลาฝันกลางวัน... และมีเวลาเขียนบทความที่เขียนในเวลาว่างตีพิมพ์ 4 ฉบับ ในวัย 26 ปี นั้นถือเป็นผลงานที่โดดเด่นมากในยุคฟิสิกส์ยุคนั้น ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะหยุดแค่นั้น แต่เค้าไม่หยุด...จนได้ E=mc2 

6.เมื่อวัยรุ่นชอบจินตนาการว่า...เค้าพุ่งไปพร้อมกับแสง

7.ถ้าเค้ามีความเร็วเท่าแสง จะได้ว่า จินตนาการ พบว่า...เข็มนาฬิกาจะหยุดเดินชั่วนิรันดร์ จนเกิดเป็นทฤษฎีสมรรถภาพพิเศษ และได้เขียนผลงานไปให้นักฟิสิกส์ทั่วไป แต่ไม่มีใครเข้าใจ จนกระทั่ง มักฟรั่ง ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในยุโรป

8. เมื่อไอสไตน์ได้รับ ศาสตราจารย์ และได้รับความยอมรับจากสังคมฟิสิกส์แล้ว แต่นั้นทำให้ภรรยาของเธอซึ่งเป็นนักฟิสิกส์เช่นกัน เกิดความรู้สึกว่าตนเองตัวเล็กลง และอิจฉาในสิ่งที่ไอสไตน์เป็น และช่วงเวลานั้นเองมีปัญหาเรื่องความรักเข้ามา คือ ญาติห่างๆคนนึงซึ่งรู้จักกันตั้งแต่เป็นเด็ก และเธอหย่าขาดจากสามีแล้ว ซึ่งเธอคอยดูแลไอสไตน์ตลอดเวลา และทำให้รู้สึกประทับใจเธอมาก และเมื่อเค้ากลับมาที่บ้าน ทั้งสองคนก็เขียนจดหมายรักหวานแหวกัน ...หากปัญหาเรื่องความรักทำให้เค้าสับสน แต่ปัญหาเรื่องจักรวาลกับสร้างเรื่องหนักใจกว่า... เค้าต้องจมความคิดถึง 4 ปี เพื่อสรุปเป็น "สัมพันธภาพทั่วไป" แต่เค้ายังหาทางสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจไม่ได้

9.จนเค้าสามารถคิดวิธีการได้ แต่ต้องอาศัยนักดาราศาสตร์ แต่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งเจอ "ฟอน ลิค" นักดาราศาสตร์วัยเพียง 20 ปี ซึ่งพร้อมจะช่วยเหลือ ซึ่งเค้าได้มาช่วยในช่วงที่เค้ามาฮันนีมูนกับแฟนสาว 

10.หลังจากนั้นได้รับเชิญชวนไปทำงานที่เบอลิน โดยใช้การตัดสินใจคือ...ถ้าเราเจอกันที่สถานีรถไฟ ถ้าผมถือดอกไม้สีแดง ผมจะไป แต่ถ้าสีขาว ผมจะไม่ได้

11.ไอสไตน์มีปัญหาเรื่อง "ความรัก" เพราะเมื่อไอสไตน์มาอยู่ที่เบอลิน ทำให้เค้ากลับไปคบกับญาติห่างๆ ที่เคยคบกันมาก่อนแล้ว ภายหลังไอสไตน์ก็ยอมรับต่อภรรยา และยื่อนยื่นข้อเสนอว่า ให้ภรรยาเสิร์ฟอาหารที่ห้องทำงาน จะพูดคุยได้กันเมื่อเค้าอยากจะคุย และต้องไม่เรียกร้องความรักจากเค้า... จนสุดท้ายต้องแยกทางกัน ไอสไตน์จึงยื่นข้อเสนอว่าถ้าเธอยอมหย่า จะยอมให้เงินซึ่งคาดว่าจะได้จากรางวัลโนเบล ซึ่งเค้ามั่นใจว่าตนเองจะต้องได้รางวัลแน่ๆ ซึ่งเค้าก็ได้ไปส่งลูกชายทั้งสองและภรรยาที่สถานีรถไฟ 

12.ปัญหายังไม่จบลง เมื่อนักดาราศาสตร์ต้องไปดูดาวที่รัสเซีย ซึ่งตอนนั้นมีปัญหาสงครามโลก ซึ่งทำให้นักดาราศาสตร์หนึ่งคนต้องโดนจับและโดนทำลายกล้องพังไม่เหลือซาก แต่ก็ยังมีอีกคนนึงที่สามารถดูได้ แต่ก็ล้มเหลวเรื่องการถ่ายรูป ทำให้ต้องหยุดการพิสูจน์ทฤษฎีไปชั่วขณะ

13.หัวหน้างานของเค้าได้นำผลงานวิชาการ เป็นสารเคมีที่จะทำลายล้างประชาชน ซึ่งทำให้คนตายเป็นหมื่น โดยหลักการคือ ของเหลวจะท่วมปอด ล้มลงบนดินแห้งๆ แต่รู้สึกเหมือนจมน้ำ... เค้าเขียนจดหมายถึงเพื่อนในสวิตซ์ว่า "ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พวกเราใฝ่ฝัน กับเป็นขวานในมือของคนสิ้นสติ" ซึ่งทำให้เค้าต้องถอนตัวออกมาจากหน่วยงานนั้น

14.เมื่อกลับมาใช้ชีวิตเช่นเดิม ซึ่งเค้าใช้สมาธิแก้ปัญหา โดยในห้องทำงานเล็กๆ นั่งคิด เดินคิด เล่นไวโอลิน แล้วค่อยเขียน ซึ่งพบว่า...ความคิดเดิมนั้นที่ให้นักดาราศาตร์ไปดูที่รัสเซียนั้นผิด ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีที่ตอนนั้นล้มเหลวเรื่องการดูดาว เพราะถ้าครั้งนั้นได้ภาพถ่ายมาจริงแล้วพบว่า ผิด เค้าอาจจะต้องหยุดอาชีพนักฟิสิกส์อย่างสิ้นเชิง

 

ติดตามชมต่อนะครับ...

หมายเลขบันทึก: 479939เขียนเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2012 14:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 13:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท