วันที่ 4 กุมภาพันธ์เป็นวันชาติศรีลังกา ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 64 แล้ว ศรีลังกาได้รับเอกราชจากอังกฤษหลังอินเดีย 1 ปี แม้ผมจะไม่ได้มีโอกาสร่วมฉลองวันชาติศรีลังกาที่กรุงเดลี แต่ก็ในวันนั้นผมก็ได้ไปฉลองในใจจากแดนของพระบิดา นั่นคือพุทธคยา อันเป็นแดนกำเนิดความเป็นพุทธะ ที่ทำให้โลกพบกับความสว่าง หลุดพ้นจากความมืดของความไม่รู้ ของอวิชชา ที่ปกคลุมจิตของมนุษย์มานาน
ในเร็วๆ นี้ ผมจะจากแดนของบิดาแห่งจิตไปสู่ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของมารดา ไปสู่อ้อมกอดของมารดาผู้เปรียบดังไข่มุกของเอเชีย พลันในใจก็คิดถึงเพลงชาติของศรีลังกาซึ่งกล่าวถึงมารดาคือศรีลังกามาตา อันจะขออ้างอิงคำแปลจากวิกิพีเดียที่อ้างต่อจาก http://www.nationalanthems.info/lk.htm ดังนี้
ศรีลังกามารดา เราขอคารวะท่าน
ขอท่านจงถึงพร้อมด้วยความเจริญรุ่งเรือง
จงงดงามด้วยความกรุณาและความรัก
จงอุดมไปด้วยข้าวโพดและไม้ผลอันหอมหวาน
และบุปผชาติหลากสีอันหอมกรุ่น
ท่านผู้มอบชีวิตและสิ่งดีงาม
แผ่นดินแห่งความปิติยินดีและชัยชนะของเรา
ขอจงรับคำภาวนาอันประเสริฐแห่งความกตัญญูของเราด้วยเถิด
ลังกาเอยเราขอบูชาท่าน
วันหนึ่งข้างหน้า ผมจะได้ไปใช้ชีวิตอยุ่บนดินแดนที่เปรียบเป็นมารดา ที่ยังคงรักษาพุทธศาสนามานับแต่แรกจากวันที่พระพุทธองค์ปรินิพพาน และพระพุทธงอค์ทรงตรัสว่า ศาสนาของพระองค์จะเจริญรุ่งเรืองในดินแดนนี้
ความหมายของเพลงชาติศรีลังกาข้างต้น ในวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อผมได้ไปสัมผัสกับดินแดนนี้แล้ว ผมจะแปลความหมายของเพลงชาติศรีลังกาด้วยความรู้สึกและความเข้าใจของตนเอง คงไม่นาน จากโคลัมโบไปแคนดี้ ไปอนุราธปุระไป สีคิริยาและ......อีกมากมาย จงรอบุตรคนนี้ด้วยเถิด
ณ วันนี้ ขอประทับไว้ในใจว่าดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์นี้มีความสำคัญและมีความหมายต่อพุทธศาสนาของโลกและเกี่ยวโยงกับความสัมพันธ์ระหว่างสยามและลังกาอย่างมาก โดยเฉพาะสยามวงศ์ อันมีพระอุบาลี มหาเถระเป็นตัวอย่างของพระธรรมทูตที่ยิ่งใหญ่และน่ายกย่องยิ่งนัก...ซึ่งผมจะนำมาเล่าสุ่กันฟังในโอกาสแรกต่อไป
ขอความรักของพระบิดาและมารดาที่ยิ่งใหญ่นี้ จงเป็นกำลังใจให้ข้าพเจ้าสามารถทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและระหว่างประเทศโดยรวม เป็นคำมั่นสัญญาของผม...สาธุ
ขอบคุณอจ.ญานภัทรครับ
จะได้นำเรื่องศรีลังกามาตามานำเสนอต่อไปครับ
พร้อมนี้ขอเชิญอจ.ไปศรีลังกาด้วยครับ เช่นไปทำสารคดีเพื่อเผยแพร่ทางโทรทัศน์พุทธศาสนา