ก่อนหน้าที่มีทางสองแพร่ง เกิดขึ้นสำหรับผม ในการนั่งสมาธิ ทางสายหนึ่ง คือ จับความรู้สึกของลมหายใจที่ผ่านรูจมูกไว้ตลอดเวลา ทางอีกสาย คือ ปล่อยความรู้สึกของลมหายใจที่ผ่านรูจมูก โดยไม่ต้องไปจับ หรือติดตามตลอดเวลา ผมถามกูรูหลายท่าน ท่านแนะนำให้ผมทำไปเรื่อยๆ (แล้วจะรู้เอง) มันทำให้ผมอึดอัดใจเป็นอย่างยิ่ง
ศีล สมาธิ ปัญญา เกี่ยวเนื่องจนผมไม่เกิดความสงสัยเลย สมาธิที่เกิดย่อมมาจากศีลที่ปฏิบัติ เรานั่งสมาธิมากแค่ไหน ถ้าไม่ปฏิบัติศีล (ไม่ใช่ถือ) สมาธิย่อมอยู่ในระดับผิว สมาธิที่ระดับผิว ปัญญาย่อมไม่เกิด ในขณะเดียวกันถ้าสมาธิลึกเกินไป ปัญญาก็เกิดยาก
การกำหนดลมหายใจ ติดตามลมหายใจเข้าออกตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะจับไว้ที่ปลายจมูก เราจะมองเห็นความคิดที่ผุดขึ้นมา เป็นเรื่องๆ สมาธิดี ทำให้รู้เร็วว่าความคิดผุดขึ้นมาแล้ว และสามารถตัดความคิดนั้นได้เร็ว มาถึงจุดนี้เราก็รู้ว่า ความคิดและจิต แยกจากกันได้ เมื่อไหรที่ความคิดที่ผุดขึ้นมาน้อยลง จนถึงไม่มี เมื่อนั้นลมหายใจที่ปลายจมูกจะหายไป หรือแผ่วเบามาก (ลมหายใจละเอียด) แล้วมันก็ไม่ต้องจับความรู้สึกของลมหายใจที่ปลายจมูกอีกต่อไป เมื่อมาถึงจุดนี้ ความรู้สึกจะเปลี่ยนไป ความคิดที่ผุดขึ้นมาไม่มี มีแต่ความรู้สึกเป็นก้อนกลมๆ เหมือนเรานั่งในลูกโป่ง ลูกโป่งใหญ่เล็ก ขยายหดได้ตามจิตเรา มันทำให้เราไม่อยากออกจากสภาพนี้ ความสุขสงบเกิดขึ้นทันที
คำตอบอยู่ที่ตัวของมันเอง ดังคำที่กูรูแนะนำไว้ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
แล้วหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เราต้องค้นหา เดินทางต่อไป
นี้แหละ คือ หนทางท่องเที่ยงของผม
ไม่มีความเห็น