โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

(6) เที่ยวเชียงรายในสามวัน


รถตู้ 5 คันออกเดินทางมุ่งหน้าสู่วัดถ้ำป่าอาชาทองเพื่อนทำบุญตักบาตรกับพระขี่ม้า

ขากลับเราแวะชมตลาดแถวหอนาฬิกาและเดินเที่ยวชมในท์บาซ่า หลายคนซื้อผ้า สร้อยแหวนนาฬิกาของฝากเล็กๆ น้อยๆ กันจนเมื่อยจึงชวนกันกลับขึ้นรถเดินทางกลับไปพักผ่อนที่ลักษณวรรณรีสอร์ท ต่างหลับฝันถึงการท่องเที่ยวชมเชียงรายในวันรุ่งขึ้น

 

เช้าหลังมื้ออาหารเราขึ้นรถตู้ 5 คัน ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่วัดถ้ำป่าอาชาทองเพื่อทำบุญตักบาตรกับพระขี่ม้า รถตู้แล่นตามกันไปจากถนนใหญ่เข้าถนนสายเล็กในชุมชนหลายชุมชน เห็นต้นหมากรากไม้เรียงรายสวยงามเงียบสงบ ข้ามสายน้ำเล็กหนึ่งสาย ก่อนรถแล่นเข้าสู่บริเวณวัด ที่แทรกอยู่ระหว่างภูเขา แมกไม้ใหญ่น้อยมากมาย หลาคนเตรียมอาหารกระป๋องของแห้งมาตั้งแต่เมื่อคืนตอนเดินเที่ยวตลาด หลายคนหาซื้อหาข้าวสารอาหารแห้งเอาบริเวรหน้าวัด แล้วขึ้นไปหน้าวัดเพื่อรอพระเดินทางกลับจากขี่ม้าบิณฑบาตจากที่ไกล

 

คณะของเราพร้อมด้วยคณะอื่นต่างเตรียมของใส่บาตรเข้าแถวยืนบ้างนั่งบ้างรอพระด้วยจิตใจเป็นกุศล เก้าโมงกว่าพระขี่ม้ากลับวัด ผ่านลานที่คณะของเรารออยู่ต่างถวายจตุปัจจัยไทยทานผ้าไตรจีวรข้าวสารอาหารแห้งเสร็จแล้วพระคุณเจ้ารูปหนึ่งทำหน้าที่อนุโมทนาบุญให้พร นำคณะของเรากรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลบุพชน เปตชนอย่างยาวนาน พร้อมกับการแนะนำหลักธรรมในการปฏิบัติ ตามแนวทางของหลวงปู่วัดปากน้ำ บวกกับแนวทางของหลวงปู่วัดท่าซุง คณาจารย์ทั้งสองมีศิษยานุศิษย์จำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ

 

พระเล่าให้ฟังว่า พระอาจารย์เจ้าอาวาสรวมปัจจัยไทยธรรมที่รับจากญาติโยมศรัทธาสาธุชนแล้วนำไปแจกจ่ายถวายวัดเล็กวัดน้อยตามชายแดนอีก 12 สาขา ที่แฝงตัวอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน สั่งสอนธรรมให้ความร่มเย็นดุจไม้ใหญ่ในไพรกว้าง ให้ความร่มเย็นแก่ส่ำสัตว์ เวลานอกจากนั้นหมดไปกับการเจริญสติสมาธิภาวนา

 

ขณะพระอาจารย์นั่งหลังม้าบิณฑบาตเสร็จแล้ววกกลับออกมาให้พร นำญาติโยมกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลคำนวณเวลากว่าชั่วโมง อาจเกิดความสงสัยได้ว่า ม้าจะให้ความร่วมมือกับพระหรือไม่ ม้าแสนรู้ทำหน้าที่ผู้ช่วยพระโดยไม่บอกเลย เพียงแค่มีศิษย์พระหนึ่งคน ถือถังเล็กใส่ข้าวโพดให้ม้ากินไปเรื่อยๆ ข้าวโพดไม่หมด ม้าไม่หนีแน่ เรียกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่สมดุล พระสอนไป ม้ากินข้าวโพดไป กัดเสียงดังกร๊อบๆ ไม่หยุดปากเลย อิ่มบุญกันแล้วต่างชักชวนกันลงจากลานหน้าวัดไปที่จอดรถ

 

รวมพลกันที่วัดจนครบขึ้นรถตู้มุ่งหน้าสู่ดอยตุง เพื่อเยี่ยมเยือนบ้าน “สมเด็จย่า” ผู้เป็นที่รักของชาวไทย ความงามของพระตำหนักกลางดอยหนาวอยู่ในความทรงจำเนิ่นนานมา ครั้งเยือนดอยตุงหลายปีก่อน รถวิ่งขึ้นเขาบนเส้นทางแคบๆ รวดเร็วไม่น้อย จนผมนึกนิยมในฝีมือพลขับ ไม่ชำนาญทางอย่าริทำแบบนี้เด็ดขาด วนไปวนมาโค้งไปโค้งมาได้สักครู่ หลายคนเอนหลังพิงเบาะหลับตาลง ทำทีว่าง่วง ปกปิดอาการผะอืดผะอมที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในความรู้สึก

 

แต่เหมือนฟ้าดินเป็นใจ เราถึงลานจอดรถบนดอยตุง ก่อนที่ใครจะตัดสินใจเสียสละอาหารมื้อเช้าที่บรรจุไว้เป็นเสบียงในท้อง รวมพลกันเสร็จเดินตามหลังมัคคุเทศก์ไปรอหน้าอาคารร้านค้า กลิ่นกาแฟลอยกรุ่นอยู่ในบรรยากาศยามสายจากร้านกาแฟใกล้เคียง หลายคนหมายตาว่า กลับออกมาจะแวะจิบกาแฟเสียหน่อย รับบัตรผ่านประตูทางเข้าแล้วนัดหมายเวลาชมรอบบริเวณดอยตุงแห่งนี้ชั่วโมงกว่า ต่างคนต่างเดินออกกำลังกายสู่พระตำหนัก แว่วเสียงหมีกินผึ้งเล็กน้อยพอเป็นพิธีของใครบางคนที่ไม่ค่อยสันทัดกิจกรรมทางขา

 

ส่วนผมเองรู้สึกขอบคุณกิจกรรมที่มักจะทำเป็นประจำคือออกเดินตอนหลังเลิกงาน ทำให้คุ้นชินการเดิน เหมือนว่าเป็นเพื่อนสนิทที่พบกันเป็นประจำ การเดินในระยะที่พอกับกำลังของแต่ละคนเป็นประจำ มีประโยชน์อย่างนี้เอง ทัศนคติต่อการเดินเปลี่ยนไปในด้านบวก เพราะเดินแล้วเพลินไม่เหนื่อยมากนัก อีกประการหนึ่ง การเดินไปคุยกันไป ถ่ายรูปไป มองดอกไม้พันธุ์ไม้หลากหลายช่วยบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยได้ไม่น้อย

 

ยืนรวมตัวอยู่หน้าพระตำหนักดอยตุง “บ้านสมเด็จย่า” สักครู่ เมื่อพร้อมกันดีแล้ว รับเครื่องเสียงพร้อมหูฟังจากเจ้าหน้าที่ ฟังวิธีการใช้พร้อมขั้นตอนแล้วทดสอบฟังดู มีคำบรรยายจุดสำคัญต่างๆ ภายในพระตำหนักจำนวนมาก โดยใช้หมายเลขเป็นตัวกำกับ เดินถึงมุมใดตัวเลขใดเปิดฟังเสียงบรรยายได้ทันที โดยไม่ต้องรอผู้บรรยายคนใดมาช่วย เราก็รู้ได้เองอย่างแจ่มแจ้ง แต่เป็นที่น่าเสียดาย หลายคนเดินเร็วนำหน้าโดยฟังบ้างไม่ฟังบ้าง คนตามหลังเห็นท่าว่าจะไม่ทันเลยเร่งติดตามไป กลายเป็นว่าคณะของเราส่วนมากฟัง และชมไม่จบ มายืนฟังบรรยายโดยชมภาพทิวทัศน์ภายนอกประกอบการบรรยายแทนภาพด้านใน

 

ออกจากพระตำหนักรวมตัวกันถ่ายภาพหมู่ไว้เป็นที่ระลึกแล้วจึงเดินชมอาณาบริเวณอันร่มรื่น ดอกไม้ ต้นไม้ ภูเขา ทัศนียภาพสิ่งแวดล้อมตื่นตาเย็นใจกับธรรมชาติ สุนทรียภาพอันสวยงามสะท้อนกลับสู่ดวงใจ ชีวิตของคนหนึ่งคนจะมีโอกาสได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมอันสงบเช่นนี้บ้างหรือไม่ บางคนเกิดคำถามในใจว่า จะมีสักกี่ครั้งที่ได้เยี่ยมชมสถานที่อันซาบซึ้งใจเช่นนี้ เพราะชีวิตคร่ำเคร่งอยู่กับการเลี้ยงชีพตามวิถีอันสับสนซับซ้อนยิ่งขึ้นทุกที (โปรดติดตาม)

หมายเลขบันทึก: 475352เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2012 22:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2014 21:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

ลุยแม่สลองสว่างแล้ว เรียมเอย
ฉันนี่ยังไม่เคย สักครั้ง 
ทางรถแล่นมักเลย ไกลถิ่น ที่นา
มาเที่ยวคราวนี้ยั้ง อยู่ได้หลายวัน

เดินไป จับภาพไป เผลอแป๊บๆ ก็ปาไปชม. หรือไม่ก็ แบตหมด ทุกทีเลยเช่นกันค่ะอาจารย์

เห็นภาพทุ่งชา แล้วก็ ใช่เลย เจียงฮาย เสียดายตอนไป ไม่มีโอกาสได้จับภาพ เพราะมีแขก

ขอบคุณได้รำลึกนะคะ

  • สวัสดีครับท่านอาจารย์
  • ทริปนี้อิ่มบุญด้วยเลยนะครับ
  • ดีจังเลยครับ ตรงที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสนำปัจจัยไปถวายแด่วัดตามตะเข็บชายแดนอีกที สาธุด้วยครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

ได้อาหารตา อาหารใจ ออกกำลังกาย ออกกำลังใจด้วย น่าเที่ยวชมค่ะ

ขอบคุณที่นำมาฝากค่ะ

        ***... ตนเองก็ไม่ค่อยละทิ้งโอกาสในการเติมเต็มสิ่งดีๆให้กับชีวิตเช่นกันค่ะ...สุขสันต์วันขึ้นปีใหม่จีนนะคะ ! ... ***

 
                                                                 china-new-year

เรียนคุณอักขณิชครับ

  • ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวไร่ชาแถวดอยแม่สลอง
  • ก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจ
  • อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเมืองเราก็มีไร่ชา
  • ไม่ไม่เท่าศรีลังกาก็ตาม 
  • และแวะดื่มชาที่ อนุสรณ์สถาน กองพล53 (?)
  • ยุคต่อต้านคอมมิวนิสต์

Ico48เรียนคุณปูครับ

สวยงามครับ เมืองเหนือยังอยู่ในความทรงจำ

ไร่ชากำลังพัฒนาครับ

ผมมีโอกาสได้นั่งจิบชาคุยกับฝรั่งสองคน

บนยอดเขาสูงแห่งนั้นด้วยครับ

 

Ico48เรียนคุณหมอครับ

ขอบคุณมาก พักนี้ผมบันทึกน้อยลงหน่อย

ว่าจะเขียนกวีก็เขียนไม่ค่อยจะออก

เขียนเรื่องราว ก็ยังไม่ค่อยไหลลื่นเท่าใด

ไปเชียงใหม่ ไม่ได้ไปดื่มชา เพราะความหนาว เกิดอาการ ชาที่เข่า เสียก่อน

Ico48เรียนน้องวศินครับ

ทำบุญด้วย เที่ยวด้วย

ถือว่าได้สองอย่างในคราวเดียวกัน

kill two birds with one stone. เลยนะครับ

ขอเรียนเชิญท่านผู้ เป็นกลาง
เรียนเร่งเป็นแนวทาง เร่งรู้
การเมืองใช่ละวาง เหมือนว่าง เทียวนา
เรียนเก่งแล้วกอบกู้ ปราบผู้โกงเมือง

ขอตามไปท่องเที่ยว..ด้วยคนค่ะ

Ico48เรียนคุณถาวรครับ

  • การเดินทางให้ความรู้สึกดีเสมอ
  • บางครั้งตื่นเต้นบางครั้งเหนื่อยหน่อย
  • เก็บกำประสบการณ์
  • การเดินทางบนป่าอักษร
  • ก็แทบไม่ต่างกัน
  • ขอเรียนเชิญท่านผู้ เป็นกลาง
  • เรียนเร่งเป็นแนวทาง เร่งรู้
  • การเมืองใช่ละวาง เหมือนว่าง เทียวนา
  • เรียนเก่งแล้วกอบกู้ ปราบผู้โกงเมือง

Ico48เรียนคุณ K. Pually ครับ

  • หลายคนชอบการเดินทางแต่ไม่ได้เดินทาง
  • หลายคนเบื่อการเดินทาง แต่ยังต้องเดินทาง
  • บางครั้งโลกก็ไม่เป็นไปตามที่เราอยากให้เป็น

Ico48เรียนท่านผู้เฒ่าครับ

เพราะเข่าชาทำให้อดจิบชา

คราวหน้าต้องทนหน่อย

จะได้จิบไปชาไป นะครับ อิอิ

......................นำภาพต้นกล้วยบนยอดดอยแม่สลองมาฝากด้วยครับ.................

นำ

Ico48เรียนครูป.1ครับ

  • การเดินทางในแผ่นดินห่างไกล
  • ย่อมได้รับประสบการณ์
  • แต่บางครั้งก็ทำให้กระเป๋าบางลงเล็กน้อย

ระหว่างทางอันยาวไกล บนดอยแม่สลอง 

  • ฟังดีดีย่อมได้ ปัญญา
  • ฟังเพื่อตามเนื้อหา ที่ให้
  • และหากว่าเสียเวลา เขาไม่ ฟังแม่
  • บังคับอาจทำได้ ชั่วครั้งบางคราว 
  • เมืองกรุงเทพแน่นแล้ว    มานาน
  • โปรดเร่งคิดกลการ        ค่างหน้า
  • ปัญหายิ่งประจาน         มีมาก นาพ่อ
  • ควรสดับคำของข้า        ร่ำร้องพิไร

  • ยามวัยเยาว์ผิดพลั้ง ควรตี
  • โตใหญ่กฏหมายมี ครอบไว้
  • ทำเพื่อประพฤติดี ตามกรอบ กันนา
  • หากไม่ยึดถือไร้ สงบร้างมลายเอย
  • ร่องรอยทุจริตร้าย รายเรียง
  • ดีไม่เห็นแม้เพียง สักครั้ง
  • ประโยชน์ชาติเทียบเคียง ดูมั่ง เถิดนา
  • เห็นแค่ตนเป็นตัวตั้ง เดือดร้อนทุรน

ชอบ ชอบ...ธรรมดา ธรรมชาติ ...ทำอย่างไร ยากจัง แผ่นดินนี้

Ico48เรียนคุณวิระยะหนอครับ

ชอบธรรมดาธรรมชาติเป็นเรื่องถูกต้องครับ

ทุกคนย่อมต้องการธรรมชาติสักวัน

แม้บางวันอาจไม่ชอบ นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท