พวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ (Puangrat Patomsirirak)
นางสาว พวงรัตน์ ปฐมสิริรักษ์ (Puangrat Patomsirirak) Cherry ปฐมสิริรักษ์

บันทึก(5) :กว่าจะถึงฮ่องกง สมบูรณ์และกิติยา คนไร้สัญชาติกับกระบวนการขอ Visa เข้าฮ่องกง และการประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง


กว่าจะถึงฮ่องกง : บันทึกการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย กับ ด.ช.สมบูรณ์ ริมพู และด.ญ.กิติยา ริมพู กรณีการเดินทางไปต่างประเทศ ของคนไร้สัญชาติในประเทศไทย ตอน สมบูรณ์ และกิติยาขอสิทธิเดินทางเข้าเขตการปกครองพิเศษฮ่องกงต่อสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

กว่าจะถึงฮ่องกง : บันทึกการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย

กับ ด.ช.สมบูรณ์ ริมพู และด.ญ.กิติยา ริมพู

กรณีการเดินทางไปต่างประเทศ ของคนไร้สัญชาติในประเทศไทย

 

 

วันที่ 20-23 ธันวาคม 2554

ตอน สมบูรณ์ และกิติยาขอสิทธิเดินทางเข้าเขตการปกครองพิเศษฮ่องกงต่อสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

ดำเนินการขั้นตอนที่ 1

  • เช้าวันที่ 21 ธันวาคม 2554 สมบูรณ์ กิติยา อาจารย์โรงเรียนสวนลุมพินี และข้าพเจ้าได้เดินทางไปยังสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อขอสิทธิเดินทางเข้าเขตการปกครองพิเศษฮ่องกง (ขอ Visa เข้าฮ่องกง) โดยเราได้ยื่นเอกสารเพื่อให้เจ้าหน้าที่สถานทูตตรวจสอบ พร้อมทั้งจดหมายจากบางกอกคลินิกฯ ฉบับภาษาอังกฤา ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้รับเอกสารได้ปรึกษากับหัวหน้าระดับที่สูงกว่า และได้ผลสรุปว่า เอกสารที่แต่ละคนจำเป็นต้องใช้สำหรับการขอวีซ่ามีดังต่อไปนี้
  1. เอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าว (T.D.) และแสดง Re-entry Visa
  2. สำเนาบัตรประจำตัวนักเรียน
  3. หนังสือรับรองของโรงเรียนสวนลุมพินี ซึ่งระบุรายละเอียดการไปแข่งขันวงโยธวาทิต พร้อมทั้งระบุชื่อของสมบูรณ์ ริมพู และกิติยา ริมพู (ฉบับภาษาอังกฤษ)
  4. สำเนาหนังสือเชิญเข้าร่วมการแข่งขันวงโยธวาทิตจาก Hong Kong Marching Band & Drum Corps Association ซึ่งระบุชัดเจนว่าเชิญ สมบูรณ์ ริมพู และกิติยา ริมพู เข้าร่วมการแข่งขัน (ฉบับภาษาอังกฤษ)
  5. 5.      เอกสารแสดงการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกง พร้อมทั้งที่พัก (ฉบับภาษาอังกฤษ)
  6. รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน คนละ 2 รูป
  7. แบบฟอร์มการขอ Visa เข้าฮ่องกง (Application for Entry for Visit/Transit in Hong Kong) ซึ่งกรอกรายละเอียดครบถ้วน
  • การขอวีซ่าเข้าฮ่องกง มีแบบชนิดหนึ่งวันได้เลย หากเอกสารที่นำมาครบถ้วน โดยจะรับคำขอวีซ่าตั้งแต่ 9.00-11.30 น.เท่านั้น
  • การยื่นขอวีซ่าครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สถานทูตชี้แจงชัดเจนว่าจะขาดเอกสารใดๆ ตาม 1-7 มิได้
  • การยื่นขอวีซ่าเข้าฮ่องกงนั้น สมบูรณ์ และกิติยา แม้เป็นผู้เยาว์ก็สามารถกรอกคำขอวีซ่า และยื่นเรื่องได้เอง

 

ดำเนินการขั้นตอนที่ 2

  • อย่างไรก็ตาม การมาสถานทูตครั้งนี้ข้าพเจ้า คาดการณ์อยู่บางส่วนว่าเราอาจจะเกิดปัญหาติดขัดบางประการ เพราะก่อนหน้านี้เราไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์กับสถานทูตได้เลย จึงไม่ได้สอบถามล่วงหน้าถึงเอกสารที่จำเป็นต้องยื่น ครั้นจะเดินทางมาก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเวลาเพราะต้องติดต่อกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศอยู่ตลอด แต่ทั้งนี้ก็ได้วางแผนเร่งทำเอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าว (T.D.) และ Re-entry Visa ให้เสร็จเร็วที่สุด เผื่อเวลาไว้สำหรับขอ Visa
  • เป็นตามที่คาด สมบูรณ์ และกิติยา ขาดเอกสารตามข้อ 3-5 กล่าวคือ
    • หนังสือรับรองของโรงเรียนสวนลุมพินี ซึ่งระบุรายละเอียดการไปแข่งขันวงโยธวาทิต พร้อมทั้งระบุชื่อของสมบูรณ์ ริมพู และกิติยา ริมพู และเลขที่ของเอกสารเดินทางจากกระทรวงการต่างประเทศ โดยเรามีเฉพาะภาษาไทย จึงจำเป็นต้องนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ และให้ผู้อำนวยการโรงเรียนลงนาม
    • สำเนาหนังสือเชิญเข้าร่วมการแข่งขันวงโยธวาทิตจาก Hong Kong Marching Band & Drum Corps Association ซึ่งระบุชัดเจนว่าเชิญ สมบูรณ์ ริมพู และกิติยา ริมพู เข้าร่วมการแข่งขัน หนังสือเชิญฉบับภาษาอังกฤษที่ทางโรงเรียนสวนลุมพินีมีอยู่ระบุแค่ชื่อโรงเรียนสวนลุมพินี แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเชิญสมบูรณ์ และกิติยา ทำให้สถานทูตกังวลว่าจะเป็นการเดินทางไปเพื่อประกวดวงโยธวาทิตจริงหรือไม่ หากมีการระบุเชิญโดยเฉพาะเจาะจง สถานทูตก็ไม่ปฏิเสธที่จะออกวีซ่าให้
    • เอกสารแสดงการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกง พร้อมทั้งที่พัก (ฉบับภาษาอังกฤษ)
  • “ปัญหามีไว้ก้าวข้ามไป”  “เมื่อเรามาได้ไกลขนาดนี้ ด่านนี้เราก็ต้องอย่างไม่ท้ออีกครั้ง” ขาดเอกสารเพียงแค่ 3 ชิ้นเท่านั้น โดย 2 ชิ้น คือ หนังสือรับรองของโรงเรียนสวนลุมพินีระบุชื่อสมบูรณ์ และกิติยาในฐานะสมาชิกวงโยธวาทิต ฉบับภาษาอังกฤษ และเอกสารแสดงการจองตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่พัก  เราได้มาไม่ยากภายในวันนี้ แต่หนังสือเชิญจากฮ่องกงฉบับใหม่ เราต้องติดต่อหน่วยงานนี้ในฮ่องกงให้ได้...ซึ่งคงไม่ทันในวันนี้

ดำเนินการขั้นตอนที่ 3

  • แม้ว่าวันนี้สัญญานโทรศัพท์มือถือจะล่มและไม่เอื้อให้เราติดต่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆได้เท่าใดนัก แต่ด้วยเรายังพอมีโอกาส!!! ข้าพเจ้าสามารถติดต่อไปยัง อาจารย์นารีรัตน์ มวลมิตรอีกคนซึ่งศึกษาต่อ ณ ประเทศจีน และสามารถพูดภาษาจีนได้ อาจารนารีรัตน์ทราบเรื่องของน้องทั้งสองอยู่ก่อนแล้ว เพราะทีมบางกอกคลินิกฯ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ ก็ได้ติดต่อไปยังอาจารย์นารีรัตน์ไว้ก่อนล่วงหน้า เผื่อว่าเราต้องการความช่วยเหลือจากท่าน
  • ข้าพเจ้าขอให้อาจารย์นารีรัตน์ ช่วยโทรประสานไปยังหน่วยงานในฮ่องกง คือ Hong Kong Marching Band & Drum Corps Association เพื่อแจ้งเรื่องขอ ให้ออกหนังสือเชิญที่ระบุเชิญเด็กทั้งสองคน หลังจากอาจารย์นารีรัตน์ประสานให้ ข้าพเจ้าจึงร่างจดหมายชี้แจงถึงปัญหาของเด็กทั้งสองคร่าวๆกับหน่วยงานดังกล่าวและส่งทางอีเมล พร้อมทั้ง ร่างหนังสือเชิญฉบับใหม่ที่มีรายละเอียดของเด็กทั้งสองคน เพื่อขอให้หน่วยงานดังกล่าว ปรับเปลี่ยนเข้าแบบฟอร์มและลงลายมือชื่อ แล้วจึงส่งกลับมา
  • คาดว่าทาง Hong Kong Marching Band & Drum Corps Association เข้าใจสถานการณ์ความไร้สัญชาติของเด็กทั้งสอง แต่ก็ไม่ปฏิเสธในความสามารถที่ไม่มีข้อแม้ในเรื่องสัญชาติ เพราะทางหน่วยงานได้ส่งหนังสือเชิญฉบับใหม่มาให้ในวันรุ่งขึ้น (วันที่ 22 ธันวาคม 2554)
  • เราเตรียมกรอกคำร้องขอทำวีซ่าของสมบูรณ์ และกิติยาเป็นภาษาอังกฤษไว้เรียบร้อย แต่ไปไม่ทันวันที่ 22 ธันวาคม 2554 เราจึงเร่งออกเดินทางในเช้าของวันที่ 23 ธันวาคม 2554
  • เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารครบถ้วน แต่ก็ยังไม่รับปาก 100% ว่าจะออกวีซ่าเข้าฮ่องกงให้ได้หรือไม่ เพราะต้องให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่าพิจารณาอีกที แต่ถ้าไม่ผ่าน หรือต้องการเอกสารใดอีกจริง ก็จะรีบแจ้งให้ทางทีมเราทราบทันทีในช่วง 13.00-14.00 น. แต่ถ้าไม่มีการแจ้งใดๆ ก็แสดงว่าผ่าน และเด็กทั้งสองจะได้รับวีซ๋าเวลา 15.00 น.
  • เราไม่ได้รับโทรศัพท์จากสถานทูต ดังนั้น เมื่อเวลา 15.00 น. ข้าพเจ้าและอาจารย์ณัฐ ผู้ดูแลเด็กจึงได้ เข้าไปรับวีซ่าเพื่อเข้าฮ่องกง ของกิติยา และสมบูรณ์  หลังจากตรวจสอบ “เจ้าตัววีซ่าเข้าฮ่อง ซึ่งระบุรายละเอียดครบถ้วน สามารถเดินทางเข้าฮ่องได้ภายในเดือนมีนาคม 2555 โดยเข้าได้หนึ่งครั้ง และอยู่ได้นาน 7 วัน หลังพบว่ารายละเอียดครบถ้วน เราจึงเดินออกจากสถานทูตด้วย “หัวใจที่หายเหนื่อย”  -- ไปฮ่องกงได้ซะทีนะ สมบูรณ์ และกิติยา

“ผลสำเร็จของความพยายาม เป็นของขวัญของผู้ที่ไม่ยอมแพ้ค่ะ”

 

วันที่ 26 ธันวาคม 2554

            ตอน โครงการบางกอกคลินิกฯ ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

  • ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ ก็ยังคงต้องทำหน้าที่ของนักกฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าหลังจากเราใช้กฎหมาย เพื่อดำเนินการจน สมบูรณ์ กิติยา ได้รับเอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าวพร้อม Re-entry Visa กลับเข้าประเทศไทย และวีซ่าเข้าฮ่องกง เขาทั้งสองคนจะไม่พบอุปสรรคขณะที่ใช้เอกสารดังกล่าวแสดงตนเพื่อเดินทางผ่านด่านตรวจเข้า-ออกประเทศ
  • ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงได้ประสานทางโทรศัพท์และจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรไปยัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สวนพลู) เพื่อสอบถามว่า “หนังสืออนุญาตให้สมบูรณ์และกิติยา เดินทางเข้าออกประเทศไทยได้นั้น” มาถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือยัง ...ซึ่งได้ความหนังสือฉบับดังกล่าว ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สวนพลู) ส่งไปยังสำนักงานที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ควรประสานไปยังสำนักงานที่สนามบินมากกว่า
  • ดังนั้นข้าพเจ้าจึงประสานงานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิ และทราบว่าได้รับ หนังสือฉบับดังกล่าวแล้ว  และเด็กทั้งสองคนสามารถเดินทางเข้า-ออกนอกประเทศไทยได้ ทั้งนี้ข้าพเจ้าจึงได้ส่งจดหมายจากบางกอกคลินิกฯ ที่ระบุรายละเอียดการเดินทาง เที่ยวบิน รายละเอียดของเอกสารเดินทางและVisa ของเด็กทั้งสองให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย เพื่อความมั่นใจ
หมายเลขบันทึก: 474765เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2012 02:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท