กว่าจะถึงฮ่องกง : บันทึกการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย กับ ด.ช.สมบูรณ์ ริมพู และด.ญ.กิติยา ริมพู กรณีการเดินทางไปต่างประเทศ ของคนไร้สัญชาติในประเทศไทย ตอน สมบูรณ์ และกิติยาขอสิทธิเดินทางเข้าเขตการปกครองพิเศษฮ่องกงต่อสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
กว่าจะถึงฮ่องกง
:
บันทึกการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย
กับ ด.ช.สมบูรณ์ ริมพู
และด.ญ.กิติยา ริมพู
กรณีการเดินทางไปต่างประเทศ
ของคนไร้สัญชาติในประเทศไทย
วันที่
20-23 ธันวาคม 2554
ตอน
สมบูรณ์
และกิติยาขอสิทธิเดินทางเข้าเขตการปกครองพิเศษฮ่องกงต่อสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
ดำเนินการขั้นตอนที่
1
- เช้าวันที่ 21 ธันวาคม 2554 สมบูรณ์ กิติยา
อาจารย์โรงเรียนสวนลุมพินี
และข้าพเจ้าได้เดินทางไปยังสถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
เพื่อขอสิทธิเดินทางเข้าเขตการปกครองพิเศษฮ่องกง (ขอ Visa เข้าฮ่องกง)
โดยเราได้ยื่นเอกสารเพื่อให้เจ้าหน้าที่สถานทูตตรวจสอบ
พร้อมทั้งจดหมายจากบางกอกคลินิกฯ ฉบับภาษาอังกฤา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้รับเอกสารได้ปรึกษากับหัวหน้าระดับที่สูงกว่า
และได้ผลสรุปว่า
เอกสารที่แต่ละคนจำเป็นต้องใช้สำหรับการขอวีซ่ามีดังต่อไปนี้
- เอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าว (T.D.) และแสดง Re-entry Visa
- สำเนาบัตรประจำตัวนักเรียน
- หนังสือรับรองของโรงเรียนสวนลุมพินี
ซึ่งระบุรายละเอียดการไปแข่งขันวงโยธวาทิต
พร้อมทั้งระบุชื่อของสมบูรณ์ ริมพู และกิติยา ริมพู
(ฉบับภาษาอังกฤษ)
- สำเนาหนังสือเชิญเข้าร่วมการแข่งขันวงโยธวาทิตจาก Hong Kong
Marching Band & Drum Corps Association ซึ่งระบุชัดเจนว่าเชิญ
สมบูรณ์ ริมพู และกิติยา ริมพู เข้าร่วมการแข่งขัน
(ฉบับภาษาอังกฤษ)
-
5.
เอกสารแสดงการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกง พร้อมทั้งที่พัก
(ฉบับภาษาอังกฤษ)
- รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน คนละ 2 รูป
- แบบฟอร์มการขอ Visa เข้าฮ่องกง (Application for Entry for
Visit/Transit in Hong Kong) ซึ่งกรอกรายละเอียดครบถ้วน
- การขอวีซ่าเข้าฮ่องกง มีแบบชนิดหนึ่งวันได้เลย
หากเอกสารที่นำมาครบถ้วน โดยจะรับคำขอวีซ่าตั้งแต่ 9.00-11.30
น.เท่านั้น
- การยื่นขอวีซ่าครั้งนี้
เจ้าหน้าที่สถานทูตชี้แจงชัดเจนว่าจะขาดเอกสารใดๆ ตาม 1-7 มิได้
- การยื่นขอวีซ่าเข้าฮ่องกงนั้น สมบูรณ์ และกิติยา
แม้เป็นผู้เยาว์ก็สามารถกรอกคำขอวีซ่า และยื่นเรื่องได้เอง
ดำเนินการขั้นตอนที่
2
- อย่างไรก็ตาม การมาสถานทูตครั้งนี้ข้าพเจ้า
คาดการณ์อยู่บางส่วนว่าเราอาจจะเกิดปัญหาติดขัดบางประการ
เพราะก่อนหน้านี้เราไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์กับสถานทูตได้เลย
จึงไม่ได้สอบถามล่วงหน้าถึงเอกสารที่จำเป็นต้องยื่น
ครั้นจะเดินทางมาก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเวลาเพราะต้องติดต่อกระทรวงมหาดไทย
และกระทรวงการต่างประเทศอยู่ตลอด
แต่ทั้งนี้ก็ได้วางแผนเร่งทำเอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าว (T.D.) และ
Re-entry Visa ให้เสร็จเร็วที่สุด เผื่อเวลาไว้สำหรับขอ Visa
- เป็นตามที่คาด สมบูรณ์ และกิติยา ขาดเอกสารตามข้อ 3-5 กล่าวคือ
-
หนังสือรับรองของโรงเรียนสวนลุมพินี
ซึ่งระบุรายละเอียดการไปแข่งขันวงโยธวาทิต
พร้อมทั้งระบุชื่อของสมบูรณ์ ริมพู และกิติยา ริมพู
และเลขที่ของเอกสารเดินทางจากกระทรวงการต่างประเทศ
โดยเรามีเฉพาะภาษาไทย จึงจำเป็นต้องนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ
และให้ผู้อำนวยการโรงเรียนลงนาม
-
สำเนาหนังสือเชิญเข้าร่วมการแข่งขันวงโยธวาทิตจาก
Hong Kong Marching Band & Drum Corps Association
ซึ่งระบุชัดเจนว่าเชิญ สมบูรณ์ ริมพู และกิติยา ริมพู
เข้าร่วมการแข่งขัน
หนังสือเชิญฉบับภาษาอังกฤษที่ทางโรงเรียนสวนลุมพินีมีอยู่ระบุแค่ชื่อโรงเรียนสวนลุมพินี
แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเชิญสมบูรณ์ และกิติยา
ทำให้สถานทูตกังวลว่าจะเป็นการเดินทางไปเพื่อประกวดวงโยธวาทิตจริงหรือไม่
หากมีการระบุเชิญโดยเฉพาะเจาะจง
สถานทูตก็ไม่ปฏิเสธที่จะออกวีซ่าให้
- เอกสารแสดงการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกง พร้อมทั้งที่พัก
(ฉบับภาษาอังกฤษ)
- “ปัญหามีไว้ก้าวข้ามไป” “เมื่อเรามาได้ไกลขนาดนี้
ด่านนี้เราก็ต้องอย่างไม่ท้ออีกครั้ง” ขาดเอกสารเพียงแค่ 3
ชิ้นเท่านั้น โดย 2 ชิ้น คือ
หนังสือรับรองของโรงเรียนสวนลุมพินีระบุชื่อสมบูรณ์
และกิติยาในฐานะสมาชิกวงโยธวาทิต ฉบับภาษาอังกฤษ
และเอกสารแสดงการจองตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่พัก
เราได้มาไม่ยากภายในวันนี้ แต่หนังสือเชิญจากฮ่องกงฉบับใหม่
เราต้องติดต่อหน่วยงานนี้ในฮ่องกงให้ได้...ซึ่งคงไม่ทันในวันนี้
ดำเนินการขั้นตอนที่
3
-
แม้ว่าวันนี้สัญญานโทรศัพท์มือถือจะล่มและไม่เอื้อให้เราติดต่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆได้เท่าใดนัก
แต่ด้วยเรายังพอมีโอกาส!!! ข้าพเจ้าสามารถติดต่อไปยัง
อาจารย์นารีรัตน์ มวลมิตรอีกคนซึ่งศึกษาต่อ ณ ประเทศจีน
และสามารถพูดภาษาจีนได้
อาจารนารีรัตน์ทราบเรื่องของน้องทั้งสองอยู่ก่อนแล้ว
เพราะทีมบางกอกคลินิกฯ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์
ก็ได้ติดต่อไปยังอาจารย์นารีรัตน์ไว้ก่อนล่วงหน้า
เผื่อว่าเราต้องการความช่วยเหลือจากท่าน
- ข้าพเจ้าขอให้อาจารย์นารีรัตน์
ช่วยโทรประสานไปยังหน่วยงานในฮ่องกง คือ Hong Kong Marching Band
& Drum Corps Association เพื่อแจ้งเรื่องขอ
ให้ออกหนังสือเชิญที่ระบุเชิญเด็กทั้งสองคน
หลังจากอาจารย์นารีรัตน์ประสานให้
ข้าพเจ้าจึงร่างจดหมายชี้แจงถึงปัญหาของเด็กทั้งสองคร่าวๆกับหน่วยงานดังกล่าวและส่งทางอีเมล
พร้อมทั้ง ร่างหนังสือเชิญฉบับใหม่ที่มีรายละเอียดของเด็กทั้งสองคน
เพื่อขอให้หน่วยงานดังกล่าว ปรับเปลี่ยนเข้าแบบฟอร์มและลงลายมือชื่อ
แล้วจึงส่งกลับมา
- คาดว่าทาง Hong Kong Marching Band & Drum Corps Association
เข้าใจสถานการณ์ความไร้สัญชาติของเด็กทั้งสอง
แต่ก็ไม่ปฏิเสธในความสามารถที่ไม่มีข้อแม้ในเรื่องสัญชาติ
เพราะทางหน่วยงานได้ส่งหนังสือเชิญฉบับใหม่มาให้ในวันรุ่งขึ้น (วันที่
22 ธันวาคม 2554)
- เราเตรียมกรอกคำร้องขอทำวีซ่าของสมบูรณ์
และกิติยาเป็นภาษาอังกฤษไว้เรียบร้อย แต่ไปไม่ทันวันที่ 22 ธันวาคม
2554 เราจึงเร่งออกเดินทางในเช้าของวันที่ 23 ธันวาคม 2554
- เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารครบถ้วน แต่ก็ยังไม่รับปาก 100%
ว่าจะออกวีซ่าเข้าฮ่องกงให้ได้หรือไม่
เพราะต้องให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่าพิจารณาอีกที แต่ถ้าไม่ผ่าน
หรือต้องการเอกสารใดอีกจริง ก็จะรีบแจ้งให้ทางทีมเราทราบทันทีในช่วง
13.00-14.00 น. แต่ถ้าไม่มีการแจ้งใดๆ ก็แสดงว่าผ่าน
และเด็กทั้งสองจะได้รับวีซ๋าเวลา 15.00 น.
- เราไม่ได้รับโทรศัพท์จากสถานทูต ดังนั้น เมื่อเวลา 15.00 น.
ข้าพเจ้าและอาจารย์ณัฐ ผู้ดูแลเด็กจึงได้
เข้าไปรับวีซ่าเพื่อเข้าฮ่องกง ของกิติยา และสมบูรณ์
หลังจากตรวจสอบ “เจ้าตัววีซ่าเข้าฮ่อง
ซึ่งระบุรายละเอียดครบถ้วน สามารถเดินทางเข้าฮ่องได้ภายในเดือนมีนาคม
2555 โดยเข้าได้หนึ่งครั้ง และอยู่ได้นาน 7 วัน
หลังพบว่ารายละเอียดครบถ้วน เราจึงเดินออกจากสถานทูตด้วย
“หัวใจที่หายเหนื่อย” -- ไปฮ่องกงได้ซะทีนะ สมบูรณ์
และกิติยา
“ผลสำเร็จของความพยายาม
เป็นของขวัญของผู้ที่ไม่ยอมแพ้ค่ะ”
วันที่ 26
ธันวาคม 2554
ตอน โครงการบางกอกคลินิกฯ
ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
- ทางโครงการบางกอกคลินิกฯ ก็ยังคงต้องทำหน้าที่ของนักกฎหมาย
เพื่อให้แน่ใจว่าหลังจากเราใช้กฎหมาย เพื่อดำเนินการจน สมบูรณ์ กิติยา
ได้รับเอกสารเดินทางสำหรับคนต่างด้าวพร้อม Re-entry Visa
กลับเข้าประเทศไทย และวีซ่าเข้าฮ่องกง
เขาทั้งสองคนจะไม่พบอุปสรรคขณะที่ใช้เอกสารดังกล่าวแสดงตนเพื่อเดินทางผ่านด่านตรวจเข้า-ออกประเทศ
- ดังนั้น
ข้าพเจ้าจึงได้ประสานทางโทรศัพท์และจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรไปยัง
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สวนพลู) เพื่อสอบถามว่า
“หนังสืออนุญาตให้สมบูรณ์และกิติยา เดินทางเข้าออกประเทศไทยได้นั้น”
มาถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือยัง
...ซึ่งได้ความหนังสือฉบับดังกล่าว ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
(สวนพลู) ส่งไปยังสำนักงานที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว
ควรประสานไปยังสำนักงานที่สนามบินมากกว่า
-
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงประสานงานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิ
และทราบว่าได้รับ หนังสือฉบับดังกล่าวแล้ว
และเด็กทั้งสองคนสามารถเดินทางเข้า-ออกนอกประเทศไทยได้
ทั้งนี้ข้าพเจ้าจึงได้ส่งจดหมายจากบางกอกคลินิกฯ
ที่ระบุรายละเอียดการเดินทาง เที่ยวบิน
รายละเอียดของเอกสารเดินทางและVisa
ของเด็กทั้งสองให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
สนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย เพื่อความมั่นใจ