.
ภาษาอังกฤษ - คลิกที่ลิ้งค์เพื่อฟังเสียงเจ้าของภาษา; แถบแต้มสี = ให้ย้ำเสียงหนัก (accent) ซึ่งส่วนใหญ่คำนานเน้นพยางค์หน้า, กริยาเน้นพยางค์หลัง, พยัญชนะท้ายคำออกเสียงสระ "อึ" สั้นและเบา
คณะรัฐมนตรี (cabinet) อินเดียลงมติให้เงินสนับสนุนอาหารคนจน 2/3 ในประเทศ จาก 1.2 พันล้านคนเศษ = 810 ล้านคน เพื่อลดภาวะการขาดอาหาร
.
นโยบายแบบนี้ดูเหมือนดีที่ช่วยคนยากจน ทว่า... ประสบการณ์ทั่วโลกพบว่า การให้เงินชดเชยเพื่อให้สินค้า หรือบริการถูกลง มักจะบานปลาย และทำให้เศรษฐกิจโตช้าในระยะยาว
.
เงินประเภท "อุดหนุน" หรือประชานิยมเป็นเงินที่เสี่ยงต่อการ "รั่ว" ไหลไม่มากก็น้อย (จากคอรัปชั่น หรือผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้พ่อค้าคนกลางดูดซับเงินไปแทน)
.
ตัวอย่างประเทศที่ให้เงินชดเชยค่าอาหารในรูปขนมปังราคาถูก คือ อียิปต์, พอเกิดภัยแล้ง... รัสเซียงดส่งออกข้าวสาลี (ชนิดใช้ทำขนมปังแบบคล้ายโรตี) ทำให้ราคาข้าวสาลีแพงขึ้น เกิดการประท้วง ทำให้ประธานาธิบดีมูบารักหลุดจากตำแหน่ง (แต่ทหารยังยึดอำนาจอยู่ ทำให้เกิดการประท้วงรอบสอง)
.
วิธีที่ประเทศพัฒนาแล้วนิยมทำมากกว่าการให้เงินชดเชย คือ การส่งเสริมการค้าเสรี และลงทุนด้านการศึกษา เช่น ให้คนต่างประเทศเข้ามาลงทุน ทำห้างสรรพสินค้า... เมื่อการผูกขาดลดลง มีการแข่งขันมากขึ้น ส่วนใหญ่จะทำให้ราคาอาหารถูกลง
.
ประเทศที่พัฒนาแล้วโตมาจากการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา ทั้งระดับการศึกษาพื้นฐาน เช่น ประถมฯ มัธยมฯ ฯลฯ และโอกาสในการเข้าเรียนสาขาที่จบมาแล้วมีงานทำ เช่น บัญชี หมอฟัน พยาบาล นักบิน ฯลฯ เพราะรู้ว่า การศึกษาเป็นการ "สร้างงาน-สร้างคน" ที่คุ้มทุนกว่าวิธีอื่นๆ
.
อีกด้าน คือ การส่งเสริมสุขภาพ เช่น ป้องกันโรค ฉีดวัคซีน ฯลฯ มีความคุ้มทุนต่อการพัฒนาประเทศสูงกว่าการรักษาพยาบาล เช่น ตรวจแอลกอฮอล์ในลมหายใจ (ป้องกัน "เมาแล้วขับ") ดีกว่าเมาแล้วรถชนรถล้ม หัวกระแทกของแข็ง ฯลฯ
.
รัฐบาลผสมวางแผนจะให้เงินอุดหนุน เพื่อให้สินค้าราคาต่ำลง โดยเฉพาะก่อนการเลือกตั้งครั้งสำคัญในรัฐ UP หรืออุตตรประเทศ (Uttar Pradesh; Uttar = อุตตร = อุดร = เหนือ; รวม = อุดรธานี)
.
อินเดียมีพื้นที่ยากจน-คนหนาแน่นทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งท่านที่ไปสังเวชนียสถานอินเดีย-เนปาล คงจะรู้จักดี คือ เป็นที่ตั้งของกุสินารา - สถานที่ปรินิพพานในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ผู้เขียนไ่ม่กล้าใช้คำราชาศัพท์ระดับเจ้าชายกับพระผู้มีพระภาคตามที่ครูภาษาไทยสอน - เกรงจะเป็นการลบหลู่)
.
รัฐ UP มีอัตราการขาดอาหารในเด็กสูงกว่าเขตซับ-ซะฮาราของอาฟริกา (sub-Saharan Africa; เขตซะฮารา / Sahara = อาฟริกาเหนือ เช่น อียิปต์ ตูนิเซีย ลิเบีย ฯลฯ ซึ่งเป็นเขตที่มีฐานะดีกว่าอาฟริกากลาง-ใต้)
.
รัฐนี้มีคนจนมาก อัตราการเจริญเติบโตช้า มีหนี้ภาครัฐสูง คล้ายๆ กับยุโรปใต้ แต่อาการน่าจะหนักกว่ากันอย่างน้อย 100 เท่า (อย่างน้อยคนยุโรปใต้ก็ยังไม่อดตายมากเท่่าอินเดีย)
.
ปัญหาของอินเดียตอนนี้ คือ ค่าเงินรูปีต่ำลงมากกว่าชาติอื่นๆ ในเอเชีย, ขาดดุลชำระเงินมากขึ้น, และหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตกลงไป 22% ในช่วงปี 2554
.
อินเดียมีประชากร 1,189 ล้านคน (อันดับ 2 รองจากจีน) ที่อยู่ใต้เส้นยากจน
40% และคนเหล่านี้ไม่พอใจกับราคาอาหารที่แพงขึ้นเรื่อยๆ
[ CIA ]
.
เส้นยากจน (poverty line) = ค่าเฉลี่ยรายได้ขั้นต่ำที่มากพอจะซื้อหาปัจจัย 4 พื้นฐานได้ ตามเกณฑ์ขององค์การสหประชาชาติ (UN); ค่านี้มักจะสูงในเมืองมากกว่านอกเมือง, คนที่มีรายต่ำกว่าเส้นนี้ ถือว่า ยากจน
.
แนวคิดของรัฐบาลอินเดียซึ่งมีฐานเสียงส่วนใหญ่เป็นคนจน คือ จะควบคุมราคาธัญพืช (เช่น ข้าว ฯลฯ) โดยจ่ายเงินชดเชยให้ราคาอาหารถูกลง เพื่อให้คนจนในชนบท 75% และคนในเมือง 50% = 810 ล้านคน / เกือบ 180 ครอบครัว มีอาหารพอกิน
.
ปี 2553 รัฐบาลอินเดียใช้งบฯ $12 billion = 380,760 ล้านบาท = 1% GDP (ผลผลิตประเทศ) ในการควบคุมราคาธัญพืช
.
รัฐบาลอินเดียวางแผนที่จะตัดลดงบประมาณลง 4.6% ในช่วงปี 2554-2555 เพื่อลดหนี้ภาครัฐ ทว่า... งบฯ อุดหนุนค่าอาหารทำท่าจะโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ลดงบฯ ได้ยาก
.
กระทรวงอาหารคาดว่า จะต้องซื้อผลผลิต 30% หรือเกือบ 1/3 ของที่ผลิตได้ทั้งหมด จึงจะพอเลี้ยงคนจน 810 ล้านคน
.
อินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตข้าว (rice) และข้าวสาลี (wheat) อันดับ 2 ของโลก และคาดว่า จะเก็บเกี่ยวธัญพืชได้ 187 ล้านตัน/ปี (crop year = ปีการเก็บเกี่ยวของอินเดียเริ่มในเดือนมิถุนายน) แต่เก็บเกี่ยวได้จริงในช่วงปี 2553-2554 = 181.25 ล้านตัน
.
กฎหมายข้าวถูกสำหรับคนยากจะต้องซื้อข้าว 45.6 ล้านตัน/ปี หรือประมาณ 4 ล้านตัน/เดือน เพื่อนำไปขายให้คนจนในราคาถูก อาจพลิกอินเดียจากประเทศส่งออกข้าว-ธัญพืชไปเป็นประเทศนำเข้า
.
เศรษฐกิจอินเดียขึ้นกับมรสุมค่อนข้างมาก คือ ปีใดฝนมาก-ซีกตะวันตกของประเทศจะผลิตข้าว-ธัญพืชได้มาก ทำให้ราคาอาหารไม่แพง, ปีใดฝนน้อย-ซีกตะวันตกจะผลิตข้าว-ธัญพืชได้น้อย ทำให้ราคาอาหารแพง
.
รัฐบาลอินเดียและคนอินเดียมีใจตรงกันอย่างหนึ่ง คือ ชอบฤดูฝนและกลัวฝนแล้งมาก เพราะปีฝนแล้งจะเป็นปีที่อาหารแพงขึ้นมาก
.
ก่อนหน้านี้มีผู้สังเกตว่า นักเรียนอินเดียเรียนไปเป็นลมไปมากผิดปกติ เมื่อสอบสวนดูพบว่า เด็กหลายๆ คนไม่มีข้าวกิน, มีคนไปฟ้องศาลสูง
.
มีคำพิพากษาให้รัฐบาลท้องถิ่นต้องจัดอาหารกลางวัน และให้จ้างคนวรรณะต่ำสุด (จัณฑาล) ทำอาหาร เพื่อให้คนที่จน และด้อยโอกาสที่สุดในแผ่นดินมีงานทำ
.
หลังมีโครงการข้าวกลางวันพบว่า เด็กๆ เป็นลมน้อยลง มีความสุขมากขึ้น ผลการเรียนดีขึ้น แถมยังมีการถ่ายทำข้าวแกงอินเดียไปเผยแพร่ทั่วโลก เนื่องจากมีผู้ชมว่า ข้าวแกงแบบนี้ช่วยให้เด็กๆ มีสุขภาพดี แถมไม่ค่อยทำให้เด็กอ้วนแบบอาหารฝรั่ง
.
ในอีกมุมมองหนึ่ง... การมีประชากรมาก แถมลูกดกมากด้วย กลับทำให้ค่าใช้จ่าย และหนี้ภาครัฐบานปลายขึ้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า
.
ต่อไปกลุ่มบริค (BRIC = Brazil, Russia, India, China = บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน) หรือกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจโตเร็ว-ตลาดในประเทศใหญ่ อาจจะเปลี่ยนไป โดยอินเดียอาจจะตกไป ปล่อยให้ 'I' ใหม่ที่กำลังมาแรง คือ อินโดนีเซีย (Indonesia) เข้ามาแทนได้
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
> [ Twitter ]
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 12 มค.55. ยินดีให้ท่านนำบทความทั้งหมดไปใช้ได้ > CC: BY-NC-ND.