บทความแนวหน้าฉบับวันเสาร์ที่
7 มกราคม 2555
บทความนี้เขียนเป็นครั้งแรกในปี 2555 ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน
ติดตามตลอดปี 2554
แรงบันดาลใจของผมเพราะมีผู้อ่านสนใจ นำบางเรื่องไปปรับปรุงตัวเอง
หรือมีแนวคิดต่างๆเพิ่มขึ้น เพื่อติดอาวุธทางปัญญา
และน่าจะมีคุณค่าต่อการวิจัย การเรียน การสอนและอ้างอิง
เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง
จับกระแสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีประเด็นสำคัญ
น่าสนใจกระทบต่อคนไทยอย่างไร?
ในระดับประเทศ หลังปีใหม่น่าจะมี 4 – 5
ประเด็นที่คนไทยที่นำไปคิดต่อหลายเรื่อง เช่น
- เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
- เรื่องงบประมาณวาระ 2 – 3 เรื่อง
ซึ่งช้ามากและต้องตรวจสอบไม่ให้มีการคอรัปชั่นเกิดขึ้น
- เรื่องความพยายามและอนุมัติผ่าน ครม.ในหลักการแล้ว
ในการรับโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูและภาระดอกเบี้ยไปให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
- เรื่องน้ำท่วมภาคใต้
และการไม่ใส่ใจของท่านนายกฯหญิงที่จะไม่ไปเยี่ยมเยียนภาคใต้
(การเมืองหรือเปล่า?)
- เรื่องการบริหารฟื้นฟูน้ำท่วมและป้องกันน้ำในปีใหม่
ที่กำลังจะมาถึง
ประเด็นที่สำคัญที่สุดคงจะเป็นเรื่อง วิธีการของรัฐบาล (คุณทักษิณ)
ในการโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูไปธนาคารแห่งประเทศไทย
ท่านผู้อ่านต้องจับประเด็นให้ดี
- ทำไปเพื่ออะไร?
- ทำแล้วเสียหายต่อประเทศในระยะยาวหรือไม่?
- อาจารย์ป๋วยท่านเสียชีวิตไปแล้ว
ได้รักษาความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล
ผู้ว่าฯคนปัจจุบันจะสู้แรงกดดันทางการเมืองได้หรือไม่?
ข้อที่หนึ่ง
- ทำเพราะจะมีเงินไปใช้จ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้นประมาณ 7 – 8
หมื่นล้าน โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
เงินเหล่านี้รัฐบาลนำไปใช้จ่ายเพื่อเป้าหมายการเมืองได้สะดวกมากขึ้นเพื่อประชานิยม
ให้อยู่เป็นรัฐบาลนานๆ
- ทำเพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่า
หนี้สาธารณะของประเทศลดลงเหมือนกับที่เคยสร้างภาพว่า หมดหนี้ IMF แล้ว
ซึ่งเป็นแค่สร้างภาพ เพราะหนี้ IMF
ลดลงไปตั้งแต่ก่อนรัฐบาลคุณทักษิณอยู่แล้ว
ถามว่าเสียหายต่อประเทศหรือไม่?
-
ถ้าดูจากเหตุผลของรัฐบาลก็บอกว่าไม่มีปัญหาเพราะเงินสำรองระหว่างประเทศมีมาก
(ความจริงรัฐบาลชุดนี้ต้องการใช้เงินสำรองอยู่แล้ว
แต่ยังหาช่องไม่ได้)
- ข้อเท็จจริงก็คือ เสียหายแน่ๆ เพราะทำให้นโยบาย
การเงินของประเทศขาดอิสรภาพ
มีการแทรกแซงของภาครัฐซึ่งเขาไม่ทำกัน
- วิธีการคิดของรัฐบาลชุดนี้คิดแบบธุรกิจ ฉันชนะ
ฉันมีอำนาจ ทำอะไรก็ได้ ไม่ได้ดูระยะยาว
- มีตัวอย่างที่ดีในอังกฤษสมัยรัฐบาล Tony Blair เป็นรัฐบาลใหม่ๆ
กว่า 10 ปี ได้ออกกฎหมายให้ธนาคารกลางอังกฤษมีอิสรภาพ
ซึ่งตรงกันข้ามกับรัฐบาลชุดนี้
- เหตุผลอีกด้านหนึ่งที่สำคัญคือ เงินสำรองไม่ได้อยู่เฉยๆ ขึ้น ลง
ตามสภาวการณ์ส่งออกและนำเข้า การไหลเวียนของเงินทุนระหว่างประเทศ
ซึ่งมีความเสี่ยงสูง
ต้องให้ธนาคารชาติมีอิสระเพื่อบริหารอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสม
- สุดท้ายถ้าจะให้ธนาคารพาณิชย์ช่วยส่งเงินสมทบเพิ่มด้วย
ก็จะทำให้ประชาชนที่กู้เงินจากธนาคารต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้น
ประเด็นคือ
- รัฐบาลชุดนี้เก่งเรื่อง นวัตกรรมทางนโยบาย
เก่งแต่ต้องมีธรรมาภิบาลด้วย
- คนไทยต้องเก่งในการรู้ทันคุณทักษิณและกล้าแสดงออกด้วย
- จุดสำคัญ ต้องวิเคราะห์เป็น
- สื่อที่ดีต้องฉลาด ทันเกมส์ ไม่ใช่วิเคราะห์แบบตื้นๆ
ในระดับต่างประเทศ ปี 2555
จะเป็นปีสำคัญเรื่องเปลี่ยนผู้นำการเมืองของโลกหลายประเทศ
- สหรัฐฯอีก 10 เดือน ก็จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่
- รัสเซีย แค่เดือนมีนาคมนี้จะทราบว่าใครจะเป็นประธานธิบดี
ปูตินสมัครแน่ๆ ชนะหรือไม่ต้องดู
- ฝรั่งเศส ซาร์โคซี่ Sarkozy ก็ต้องลงสมัครต่อ
สำคัญที่สุดก็คือประเทสจีน
จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำยุคใหม่จากคุณหูจิ่นเทาและนายกรัฐมนตรีเวิน
เจียเป่า จะปลดเกษียณออกไป มีรุ่นใหม่เข้ามา
ดังนี้คนไทยต้องเฝ้ามองการได้มาเป็นผู้นำทางการเมืองในปี 2555
อย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาเป็นบทเรียนของคนไทย
และน่าสนใจในวิธีการต่างๆที่การได้มาของผู้นำแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน
ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีวิธีการได้ผู้นำอย่างเป็นระบบ
และต่อสู้กันยาวนาน เกินปีครึ่ง กว่าจะได้ผู้นำ
ซึ่งจะเป็นบทเรียนที่น่าสนใจหลายประการ
- พรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ 2 พรรค ไม่มีใครเป็นเจ้าของ
แต่ประชาชนเป็นเจ้าของ
- การจะได้ผู้สมัครระดับประธานาธิบดี
ซึ่งมีการแย่งชิงในระดับพรรคอย่างหนัก เขาเรียกว่า
การเลือกตั้งขั้นต้น (primary)
- เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งขั้นต้นที่สำคัญ
อย่างเป็นทางการที่รัฐ Iowa
- ที่รัฐนี้ผู้เลือกไม่ได้เข้าไปกาในคูหาเลือกตั้งแต่
เขาจะนัดประชุมกันอย่างไม่เป็นทางการ เรียกภาษาอังกฤษว่า CAUCAS
คล้ายๆ กับการมาซาวเสียงขั้นต้นว่าชอบใคร
แต่ละผู้สมัครส่งตัวแทนมาอธิบายว่าผู้สมัครของฉันเก่งนโยบายอะไร?
แล้วถึงจะลงคะแนน
สรุปได้ว่าขณะนี้ คุณรอมนี Romney ก็เป็นตัวเก็งเพราะ
- มีคะแนนนิยมมาเป็นอันดับหนึ่งใน Iowa
- เก่งเรื่อง นโยบาย แก้ปัญหาการว่างงาน
ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในสหรัฐฯ
- แต่เป็นแค่ตัวเก็ง เพราะจะต้องแข่งอีกหลายรัฐเพื่อเอาชนะ
ในที่สุดก็คาดว่าอีก 2 – 3 เดือนจึงจะทราบผล
- ผมฟันธงว่า น่าจะเป็นการแข่งระหว่างโอบามา – รอมนี (Obama –
Romney) ในอนาคต โอกาสที่รอมนี Romney จะชนะก็คงจะมีเกิน 50%
เพราะในช่วง 3 ปีที่ คุณโอบามา Obama เป็นประธานาธิบดีพบว่า
- พูดเก่ง แต่ทำงานไม่เก่ง
- แก้ปัญหาการว่างงานในสหรัฐฯไม่ได้ผล ปัญหาของโอบามาก็คือ
ความคาดหวังของคนอเมริกาสูง
แต่โอบามาไม่สามารถทำให้การคาดหวังเป็นจริงได้ เพราะ
โอบามาไปตั้งความหวังสูงเกินไป
สำหรับรัสเซีย คนรัสเซียเบื่อ Putin เพราะอยู่มานานและผมคาดว่า
รัสเซียคงจะมีปัญหาเรื่องผู้นำพอควร ประชาชนต้องการปฏิรูป
อีกครั้งใหญ่คนมีความรู้ในรัสเซียไม่ต้องการ
อยู่ในประเทศนี้เพราะไม่มีอนาคต
- จังหวะเวลาของ ปูติน ค่อนข้างจะหมดเวลาแล้ว
ประเทศยังต้องหาคนอื่นๆที่จะเป็นหลักในอนาคตหรือยังหาไม่ได้
- ส่วนจีนมีพรรคคอมมิวนิสต์ วางแผนกำหนดผู้นำมานานแล้ว
ผมเขียนเรื่องนี้หลายครั้งดูย้อนหลังได้ http://www.naewna.com/allnews.asp?ID=97
ผมได้พูดหลายครั้งว่า การได้ผู้นำในจีน เขาทำล่วงหน้าเป็นเวลา 3
- 4 ปี ถือว่าเป็นการสร้างผู้นำอีกแบบหนึ่ง
แต่ผู้นำในจีนรุ่นใหม่ จะต้องเป็นผู้นำที่
- มีภาพลักษณ์เป็นผู้นำของโลกด้วย
- ต้องประสานแนวคิดเสรีภาพกับความเจริญทางเศรษฐกิจให้ได้
- อย่าประมาทการประท้วงของประชาชน
เพราะถึงจะมีอำนาจรวมศูนย์ก็ไม่พอเพียง
- จะต้องมีคุณธรรม จริยธรรมด้วย ต้องบริหารความหลากหลาย
(Diversity) ในประเทศจีนด้วย
บทเรียนของไทย
- การได้มา เรื่องผู้นำของไทย แตกต่างกับกรณีหลายประเทศ
- เล่นการเมือง 49 วัน ยังเป็นผู้นำได้
คนไทยคิดให้ดีว่าประเทศจะอยู่อย่างไร
- พรรคการเมืองไทยเป็นของกลุ่มผลประโยชน์
ไม่ได้เป็นพรรคเพื่อประชาชนส่วนรวม
- ยังไม่มีพรรคการเมืองไทย ที่เน้นอุดมการณ์
มีพรรคประชาธิปัตย์ที่ใกล้เคียง แต่ต้องมีพรรคทางเลือกมากกว่านี้
- การเมืองไทยในอนาคตยังขาดความยั่งยืน
เน้นการใช้เงินและอำนาจมากกว่าคุณธรรม
- สื่อทางเลือก (Social Media) นักวิชาการ ผู้หวังดี คนชั้นกลาง
จะต้องทำงานหนักครับ
คิดเป็น วิเคราะห์เป็นจะช่วยได้เยอะครับ