กระบวนการสร้างครูที่เพลินกับการพัฒนา (๔๘) : การบ้านทางไกล
ช่วงที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ ทั้งตัวโรงเรียน ตัวครู และนักเรียน ต่างก็ตกอยู่ในสภาพของผู้ประสบภัยด้วยกันทั้งสิ้น โรงเรียนต้องเลื่อนเวลาการเปิดภาคเรียนออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ทางช่วงชั้นจึงเริ่มคิดว่าจะสร้าง blog เพิ่มเติมจากเว็บไซต์เดิมของโรงเรียน เพื่อให้การสื่อสารระหว่างบ้านและโรงเรียนเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น และเพื่อใช้เป็นพื้นที่ของการให้โจทย์การบ้านที่นักเรียนสามารถจะไปสร้างการเรียนรู้ขึ้นที่บ้านได้เอง
หลักการในการคิดโจทย์การบ้านทางไกลมีดังนี้
- ให้บูรณาการกับงานของหน่วยวิชาประยุกต์ โดยพยายามสอดแทรกให้แนบเนียนที่สุด ดังนั้นก่อนออกโจทย์ควรอ่านโจทย์ของกลุ่มประยุกต์ ของแต่ละระดับชั้นให้ละเอียด และทดลองสืบหาข้อมูลโดยสมมติตัวเองเป็นนักเรียนก่อนก็จะเริ่มมองออกว่าโจทย์ที่ดีและเหมาะสมกับนักเรียนแต่ละระดับชั้นนั้นจะออกมาเช่นไร
- ควรวางโจทย์เป็นลำดับจากง่ายไปยาก เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นกับนักเรียนที่มีความสามารถแตกต่างกัน
- ควรเป็นโจทย์ปลายเปิด ที่นักเรียนได้ใช้วิธีการที่แตกต่าง และอาจได้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง
- ให้ครูนำความแตกต่างที่เกิดขึ้นสร้างเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนมีการปรับปรุงตนเองร่วมกันในแนวทางของ Open Approach
สำหรับชั้น ป.๒ ในภาคเรียนนี้เด็กๆ หน่วยวิชามานุษกับโลกเรียนเรื่องของอาหาร และการกินอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ รวมถึงการกินให้ถูกต้องตามธาตุของตน ครูจึงให้โจทย์การบ้านดังนี้
การบ้านชุดที่ ๑
๑. ให้นักเรียนบันทึกเมนูอาหารที่รับประทานในช่วงน้ำท่วมทั้ง ๓ มื้อเป็นเวลา ๗ วัน
๒. ให้นักเรียนค้นคว้าข้อมูลเรื่องธาตุเจ้าเรือน และการกินอาหารให้ถูกต้องตามธาตุ
การบ้านชุดที่ ๒
๑. ให้นักเรียนหาว่าเกิดเดือนใด และมีธาตุใดเป็นเจ้าเรือน เมื่อได้คำตอบแล้วให้นำมาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ
๒. ให้นักเรียนคิดค้นหารายการอาหารที่เหมาะกับธาตุเจ้าเรือนของตนเอง
๓. ให้นักเรียนหาสูตรอาหารเด็ดตามธาตุเจ้าเรือนที่เหมาะกับช่วงน้ำท่วม
โจทย์การบ้านทั้งหมดจะสื่อสารขึ้นไปที่ blog โดยมีครูประจำชั้นจะช่วยโทรศัพท์ไปสื่อสารให้ผู้ปกครองเข้าใจอีกครั้ง หากผู้ปกครองไม่เข้าใจโจทย์ก็สามารถโทรมาปรึกษาครูประจำชั้นได้ นอกเหนือจากการโทรศัพท์แล้ว บางห้องก็ยังมีการสื่อสารผ่านช่องทางอื่นๆ อีกเช่น ห้อง ๒/๓ ครูประจำชั้นและผู้ปกครองเปิด facebook ของห้องขึ้นมาด้วย
เมื่อนักเรียนนำงานมาส่งตอนเปิดภาคเรียน ผลปรากฏว่าห้องที่ครูประจำชั้นมีการสื่อสารกันกับผู้ปกครองเป็นอย่างดี จะมีจำนวนชิ้นงานมากกว่าห้องที่ครูประจำชั้นไม่ได้สื่อสารเพิ่มเติม
ห้อง ๒/๓ ที่คุณครูครูทิพย์เป็นครูประจำชั้นมีการสื่อสารกับผู้ปกครองทั้งทางโทรศัพท์และทาง facebook มีจำนวนผลงานมากที่สุด รองลงมาคือ ห้อง ๒/๑ และ ๒/๔ ที่คุณครูญา และคุณครูเกตุมีการสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์กับผู้ปกครองอยู่เป็นระยะๆ คุณครูญามีเทคนิคง่ายๆ คือ การโทรศัพท์ไปสื่อสารกับผู้ปกครองที่เป็นตัวแทนห้อง แล้วให้ตัวแทนเหล่านั้นกระจายข่าวต่อไปยังผู้ปกครองท่านอื่นๆ
ตาต้านักเรียนห้อง ๒/๔ นำเสนอเมนูถั่วเขียวต้มน้ำตาลสำหรับคนธาตุดินที่ทำมาอย่างพิถีพิถัน เขียนข้อมูลมาอย่างครบถ้วน นอกจากนี้มีภาพถ่ายแสดงวิธีทำด้วยตนเองมาให้ชมกันด้วย
จากงานชิ้นนี้ทำให้คุณครูเกิดความคิดขึ้นมาว่าการบ้านในช่วงหยุดยาวปีใหม่นี้ จะลองให้นักเรียนไปลองทำอาหารตามธาตุของคนในครอบครัวรับประทานกัน ส่วนครอบครัวที่ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็จะแนะนำให้ลองสั่งอาหารที่เหมาะกับธาตุของคนในครอบครัว
เพื่อให้การบ้านทางไกลเอื้อมไปถึงการเรียนรู้ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ว่า ความรู้ต้องมาจากครูเท่านั้น หรือการเรียนจะต้องเกิดขึ้นที่โรงเรียนเท่านั้น แต่การเรียนรู้นั้นเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา และการเรียนรู้ก็จะยิ่งมีคุณค่าหากผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้มาไปช่วยดูแลตนเองได้ และคนรอบข้างให้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้
คุณครูแคท – คัทลียา รัตนวงศ์ บันทึก
ความเห็น (6)
บันทึกนี้เยี่ยมมากครับ น่าจะพัฅมนาขึ้นเป็นช่องทางกระตุ้นการเรียนรู้เสริมการเรียนในห้องเรียน ให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมการเรียนรู้ของนักเรียนเพิ่มขึ้น
วิจารณ์
เยี่ยมมากครับ แต่ครูบ้านนอกไกลปืนเที่ยงอย่างผมคงทำเท่าที่ทำได้ครับ
ขอบพระคุณอาจารย์ที่แนะนำค่ะ
หากครูผาน้อยไม่สะดวกที่จะใช้เครื่องมือสื่อสาร จะลองเขียนเป็นจดหมายแล้วฝากนักเรียนไปส่งให้คุณพ่อคุณแม่ก็ได้นะคะ...ส่วนเรื่องกินตามธาตุ ไม่ว่าจะอยู่ภาคไหนเราก็ต้องปรุงอาหารให้เหมาะกับร่ายกายเหมือนกัน หากทำกิจกรรมแล้วได้ผลอย่างไร ครูผาน้อยเขียนบันทึกมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ :)
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ได้รับความสุขทางไกลที่ อ.พจนาส่งมาให้แล้วนะคะ ขอมอบความสุขจากเมืองไทยกลับไปทบเท่าทวีคูณเลยค่ะ :)