ครั้งหนึ่งในเมืองไทย เคยมีการโหมโรงสร้างกระแสให้คนไทยออกไปวิ่งกันอย่างมากมาย
แต่ต่อมากลับพบว่า คนที่อายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป ไปพบแพทย์ด้วยอาการปวดเข่า เข่าบวม เข่าเสื่อมผุพังมากขึ้นอย่างน่าตกใจ
เคยมีการศึกษาวิจัย ว่าการวิ่งทำให้ข้อเข่าเสื่อมมากขึ้นจริงหรือไม่ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย โดยการเฝ้าดู นักวิ่ง 35 คน ติดต่อกัน 5 ปี
โดยมีการตรวจสอบเอ็กซเรย์กระดูกข้อมือ กระดูกสันหลัง และกระดูกข้อเข่าทุกปี และพบว่า
อัตราการเป็นข้อเสื่อมไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไป พูดง่ายๆคือ การวิ่งไม่ได้ทำให้เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้นและมากขึ้นครับ
อ้าว...... แล้วคนไทยในสมัยนั้น ที่ไปวิ่งกันมากๆ ทำไมถึงปวดเข่า และเป็นเข่าเสื่อมมากขึ้นละแพทย์หลายคนพยายามหาสาเหตุ จนกระทั่งพบว่า มีสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างคนไทยกับคนต่างประเทศ และยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้นักวิ่งไทยเป็นข้อเข่าเสื่อมมากขึ้น คือ กล้ามเนื้อของคนไทยไม่แข็งแรง
โดยปกติคนต่างประเทศ จะเป็นนักออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาออกกำลังกายเมื่อวัยเกษียน หรือเมื่อตอนเจ็บป่วย การออกกำลังกายตั้งแต่สมัยยังเป็นหนุ่มเป็นสาวอย่างสม่ำเสมอมาตลอดจึงทำให้กล้ามเนื้อทั่วไป โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่หลังและต้นขาแข็งแรงขึ้น
เมื่อมีข่าวแว่วมาว่า การวิ่งทำให้คนเป็นโรคหัวใจน้อยลง คนไทยเราก็เฮโลไปวิ่งกันใหญ่ โดยไม่เคยตรวจสอบก่อนว่า กล้ามเนื้อรอบหัวเข่าแข็งแรงหรือไม่ พอจะทนรับแรงกระแทกจากน้ำหนักตัวเราขณะที่วิ่งได้หรือไม่ การวิ่งนานๆ โดยที่ไม่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงคอยห่อหุ้มปกป้อง
จึงทำให้คนไทยเป็นโรคข้อเข่าอักเสบ เกิดการเสื่อมสภาพและเกิดเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้เร็วขึ้น
ที่มา www.postjung.com
สวัสดีครับ ขออนุญาต แชร์ประสบการณ์
ผมวิ่ง มา10 กว่า ปี ทำให้สุขภาพดีมาก ๆ
แต่หัวเข่า เริ่ม ตึงๆ เสียวๆ เหมือนจะรับน้ำหนักตัวเองไม่ได้
2-3 ปีนี้หันมา ปั่น จักรยาน Mountain Bike แทน อาการหัวเข่าดีขึ้นครับ
จากที่เห็นคุณป้าวัย ๘๐ ปีที่ยังแข็งแรงเหมือนคน หกสิบ
เธอหันมาเดินเร็วทุกๆวันวันละ ชั่วโมงแทนเมื่อเริ่มเลข ๕๐