เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กลุ่มครูหน่วยวิชาภูมิปัญญาภาษาไทย ช่วงชั้นที่ ๒ ตั้งวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อสรุปการเรียนรู้จากการเข้าร่วมกระบวนการ Lesson Study การจัดชั้นเรียนแบบเปิด (Open Approach) และการเปิดชั้นเรียน (Open Class) ที่เกิดขึ้นในภาคเรียนจิตตะนี้
คุณครูรุ้ง - สายรุ้ง ดวงมณี การมีครูพี่เลี้ยงมาช่วยลำดับความคิด แนะนำเรื่องการจัดชั้นเรียนแบบเปิด ทำให้แผนการเรียนรู้ที่คิดเป็นกระบวนการชัดเจนมากขึ้น เปิดโจทย์ได้ดีขึ้น เด็กมีโอกาสแสดงกระบวนการคิด การเรียนเกิดผล เด็กเข้าใจสิ่งที่เรียนชัดเจนมากขึ้น
คุณครูจี - จีรพันธ์ ไชยชนะ การได้เข้าสังเกตการณ์ห้องของเพื่อนทำให้ได้บทเรียนจากเจ้าของชั้นเรียนมาปรับพัฒนาตนเองและกระบวนการเรียนการสอนได้ดีมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ได้ช่วยสะท้อนให้เจ้าของชั้นเรียนได้พัฒนาขึ้นด้วย
คุณครูก้อย - จุฑารัตน์ ยุกตะบุตร ได้เรียนรู้ว่าการวางแผนการเรียนรู้ที่มีการจัดสรรเวลาสำหรับการจดบันทึกความรู้ที่ช่วยกันสรุป จะช่วยสร้างวัฒนธรรมในการทำงานของนักเรียน และช่วยให้นักเรียนสามารถเข้าใจเป้าหมาย ขั้นตอนในการทำงานต่างๆ รู้เวลาด้วยตนเองเมื่ออยู่ในชั้นเรียนได้ดี
ระบบการเรียนการสอนแบบ Open Approach ช่วยฝึกให้นักเรียนรู้จักเป็นผู้ฟังที่ดี รู้จักคิดวิเคราะห์ และเป็นผู้พูดที่ดีในเวลาที่เหมาะสม
คุณครูนัท - นันทกานต์ อัศวตั้งตระกูลดี การทำชั้นเรียนแบบเปิดช่วยให้ครูมีสายตาในการมองนักเรียน ทำให้ได้ฝึกการสังเกตนักเรียนแบบรู้จริง ในการสอนต้องอาศัยไหวพริบมาก ครูต้องพูดน้อยลง พูดให้เป็นจังหวะ เน้นพูดเฉพาะที่สำคัญ และปล่อยให้ชั้นเรียนเป็นของนักเรียน
ในส่วนการวางแผน การได้ทบทวนว่าครั้งที่ผ่านมาจัดการเรียนการสอนอะไร เกิดผลกับนักเรียนจริงๆ อย่างไร ทำให้ครูมองเห็น met before ที่แท้จริงของนักเรียน และสามารถไปคิดแผนการเรียนในลำดับไป ซึ่งทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่ต่อยอดขึ้นไปได้จริงๆ
คุณครูรุ้ง และคุณครูจี ช่วยเสริมในประเด็นนี้ว่า การได้ทบทวน และมีการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับเนื้อหาทักษะอย่างดี ช่วยให้ทำแผนการเรียนการสอนได้ง่ายขึ้น สบายใจขึ้น ไม่ต้องเกร็งว่าครูวางเนื้อหาเอาไว้แล้วจะต้องทำให้ได้ตามที่ออกแบบไว้ แล้วครูก็ยึดว่าต้องทำแผนไปตามตารางเวลาที่วางไว้
ทั้งๆ ที่บางครั้งครูก็รู้ว่านักเรียนยังไม่แม่นยำเรื่องที่ได้เรียนไป แต่ตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ ครูจะต้องไปจัดกระบวนการเรียนรู้ในเรื่องถัดไปแล้ว ก่อให้เกิดความเครียดทั้งครูและนักเรียน เพราะนักเรียนก็เรียนต่อไม่ได้เนื่องจากความรู้เดิมไม่พอ ครูเองก็ไม่สบายใจที่นักเรียนทำงานที่ครูให้ไม่ได้
คุณครูก้อยกล่าวว่าการเรียนรูปแบบนี้ที่เรียกว่า child - centered ที่แท้จริง เพราะนักเรียนเป็นเจ้าของการเรียนรู้ที่ครูจัดกระบวนการมาให้ได้เรียนรู้ร่วมกัน
คุณครูปุ๊ก - จินตนา กฤตยากรนุพงศ์ การได้มีคนหลายๆ คนมาช่วยกันคิด ทำให้มีหลายมุมมองมาช่วยกันมองลำดับการเรียนรู้ ให้ละเอียด เรียงร้อยกันมากขึ้น มีการสร้าง met before ให้เกิดขึ้นกับนักเรียนและค่อยเรียนไปเป็นลำดับตามที่ควรจะเป็นโดยมีฐานความรู้แม่นยำ การได้เข้าสังเกตการณ์ชั้นเรียน ทำให้มีการพัฒนาแผนการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
คุณครูอ้อ – วนิดา สายทองอินทร์ บันทึก
ไม่มีความเห็น