จุลินทรีย์ไทย ลงแปลงนาไทย เกษตรกรไทยทำเองได้ไม่ต้องซื้อ


จุลินทรีย์หน่อกล้วย ทำมาจากหน่อกล้วยในท้องถิ่น เป็นจุลินทรีย์ท้องถิ่นจริงๆลงในแปลงนาท้องถิ่นไม่ต้องปรับตัวมาก จุลินทรีย์มีความแข็งแรง คุ้นเคยกับสภาพแว้ดล้อมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างอเนกประสงค์

ปัจจุบันมีการตื่นตัวเรื่องจุลินทรีย์กันมากขึ้น ทั้งจุลลินทรีย์น้ำอีเอ็ม, อีเอ็มบอล, พด.1, พด. 2. พด. 3 และอีกหลายๆ พด. เนื่องด้วยกระแสน้ำท่วมที่มีการนำจุลินทรีย์เข้ามาช่วยบำบัดน้ำเสียและกระแสการทำเกษตรปลอดสารพิษ เกษตรอินทรีย์ที่มีการรณรงค์ส่งเสริมให้ใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพทดแทนสารเคมี นอกจากจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียเหล่านั้นแล้วก็ยังมีจุลินทรีย์กำจัดโรคศัตรูทั้งในพืชและเห็ดอย่างเช่น จุลินทรีย์บีเอสพลายแก้วปราบเชื้อรา จุลินทรีย์กำจัดหนอนบีทีชีวภาพ, จุลินทรีย์กำจัดไรไข่ปลาในเห็ด ไมโตฟากัส, จุลินทรย์กำจัดปลวก เมธาไรเซียม,จุลินทรีย์ทริปโตฝาจกำจัดเพลี้ย, เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวและจุลินทรีย์ไตรโคเดอร์ม่าแก้ปัญหาโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน สวนส้มมะนาวและไม้ผลอื่นๆ 

 

แต่ที่เราจะพูดคุยกันในวันนี้คือจุลินทรีย์หน่อกล้วยสายพันธุ์ไทยแท้ที่มีอยู่ทั่วทุกแห่งหนทั่วทุกตำบลในประเทศไทย เกษตรกรโดยทั่วไปสามารถผลิตด้วยลำแข้งของตนเองได้ไม่ต้องซื้อหา นึกจะทำวันเวลาไหนเมื่อไรก็ได้ มีความสะดวกสบายคล่องตัวเพราะต้นกล้วยมีอยู่ทั่วไปในประเทศไทยเรา ไม่ต้องคอยกังวลว่าหัวเชื้อจากญี่ปุ่นจะหนีกลับประเทศเขาเมื่อไร ไม่ต้องคอยกังวลว่าเจ้าหน้าที่หรือผู้บริหารกรมพัฒนาที่ดินคนต่อไปจะยังคงมีนโยบายทำจุลินทรีย์แจกพี่น้องประชาชนอยู่หรือไม่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นเกษตรกรมีเหลือเพียงกากน้ำตาล (โมลาส) เพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่ถ้าเกษตรกรเรียนรู้การทำจุลินทรีย์หน่อกล้วยด้วยตนเองขอเพียงมีต้นกล้วยและกากน้ำตาลในชุมชน บ้านเรือนเป็นพอ

 

วิธีการทำก็ไม่ยากเย็นให้มองหาหน่อกล้วยที่สูงไม่เกินหนึ่งเมตร ชาวบ้านทั่วไปในต่างจังหวัดบางพื้นที่เรียกหน่อกล้วยขันหมาก เลือกลักษณะต้นที่อวบ อ้วน สมบูรณ์มีน้ำมีนวล ไม่ใช่ต้นที่ผอมแห้งแรงน้อย บ่งบอกถึงอาการตายพรายไส้เน่าอย่างนี้ไม่เหมาะต่อการนำมาหมักขยายทำหัวเชื้อจุลินทรีย์ คัดเลือกแล้วขุดยกเหง้าให้มีดินติดปนมาเล็กน้อยประมาณ 2- 3ช้อนแกง นำมาบดสับตำให้ละเอียดจำนวน 30 กก. กากน้ำตาล 10 กก. หมักใส่ถังขนาด 100 หรือ 200 ลิตรทิ้งไว้ประมาณ 7 - 10 วัน แล้วคั้นน้ำเอากากออก หมักทิ้งไว้อีกจนครบหนึ่งเดือนก็สามารถนำมาใช้งานหมักขยายได้เหมือนจุลินทรีย์อีเอ็ม และ พด.  แต่ที่ดีกว่าคือเกษตรกรสามารถทำด้วยตนเองได้ตลอดเวลา ไม่ต้องซื้อช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แถมมีปริมาณเพียงพอต่อการใช้งานจริง เพราะบางทีของแจกจากทางภาครัฐอาจจะได้มาคนละซองสองซองไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จุลินทรีย์หน่อกล้วย ทำมาจากหน่อกล้วยในท้องถิ่น เป็นจุลินทรีย์ท้องถิ่นจริงๆลงในแปลงนาท้องถิ่นไม่ต้องปรับตัวมาก จุลินทรีย์มีความแข็งแรง คุ้นเคยกับสภาพแว้ดล้อมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะนำไปราดรดกองปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก, ราดรดในแปลงนาหมักตอซังฟางข้าวให้ย่อยสลายเตรียมทำเทือกไม่ต้องเผาฟาง, ใช้หมักทำปุ๋ยน้ำชีวภาพ, ใช้หมักกับพืชสมุนไพรไล่แมลง, ใช้บำบัดน้ำเสียได้ทั้งในรูปแบบน้ำและลูกบอล (เรียกจุลินทรีย์ BB บอลหรือบานาน่าบอล ดูทันสมัยเข้ากับยุคโซเชียลมีเดียดีเหมือนกัน ฮ่าฮ่า) 

 

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com

หมายเลขบันทึก: 472827เขียนเมื่อ 29 ธันวาคม 2011 08:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 17:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เอาบ้านเรือนไทยมาฝากด้วยครับ

ขอบคุณครับ สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ

Thank you for this 'big community changing' information.

Happy New Year to you and your family and to the people in your community.

มาส่งความสุขด้วยปฏิทินชุด "รอยยิ้มของพ่อ" ค่ะ

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/471969

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท