กินข้าว เซาเฮือน วังน้ำมอก หนองคาย


รอคอยมานาน บรรลุเสียที พักผ่อนนอนสบาย กินข้าวเซาเฮือนในบรรยากาศโคมไฟพาแลง ที่บ้านวังน้ำมอก ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
 
 
ได้ยินชื่อมาหลายปี  รอคอยนานนับเดือน  บรรลุเสียที  พักผ่อนนอนสบาย  กินข้าวเซาเฮือนในบรรยากาศโคมไฟพาแลง  ที่บ้านวังน้ำมอก  ต.พระพุทธบาท  อ.ศรีเชียงใหม่  จ.หนองคาย  เมื่อ  27 - 28  ธันวาคม  2554  
อากาศเย็นเป็นใจให้ผ่อนพัก  คลายจิต.....สบ้ายสบาย  ส่งท้ายปีเก่า  ต้อนรับปีใหม่ 2555   เชิญเข้าร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ  (ไม่ใช่แต่งงาน)   ต้อนรับสิ่งดี ๆ ที่จะมีมาในปีใหม่  ทุกท่าน  ทุกผู้ทุกนามที่ผ่านมาเยือน
ฝากกำนัลด้วยภาพสวย ๆ นะคะ
สาธิตวิธีกิน "ไก่บั้ง"
เครื่องเมี่ยง  เส้นก๋วยเตี๋ยว  หอมแดง  ข่า  ตะไคร้  กระเทียม  สารพัดผัก  มัน ๆ ก็ผักอีเลิศ (ใบชะพลู)
 
ไก่ถอดกระดูก  ปรุงเครื่อง  ยัดกระบอกไม้ไผ่  เผาจนสุก...หอมมาก  แซ่บอีหลี
 
น้ำจิ้มทำจากตับ  ปรุงรส  โรยไข่ขาว  ออกหวานนิด ๆ ข้นด้วยเนื้อตับ...แซ้บแซ่บ  แซ่บคักแซ่บแน
พอดีคำ...เพื่อสุขภาพ
 
อั่วปลา  เนื่อปลาปรุงรสเค็มนิด ๆ   ยัดใส่ดอกแค  นึ่งจนสุก  กินกับข้าวเหนียว  แซ่บอีหลีอีหลอกะด้อกะเดื้อ  แซ่บเป็นตาหน่าย
 
กินข้าว  เซาเฮือน (นอนบ้าน)
 
โคมไฟ  พาแลง
......
ทุก ๆ วันใหม่  กินอิ่ม  นอนอุ่น  หลับ  ฝันดี  ทุก ๆ ค่ำคืน
ราตรีสวัสดิ์นะคะ
หมายเลขบันทึก: 472813เขียนเมื่อ 29 ธันวาคม 2011 00:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 17:29 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

โคมไฟพาแลง ไม่เคยเห็นมาก่อน สวยตรึงตาตรึงใจดีจังค่ะ :-)

สวัสดี คุณหมอ ธิรัมภา......หิวน่ะนี้

สาวๆงาม โคมไฟสวย อาหารอร่อย ...ฮายเนือยจ้าน(หิวจริง)

สาธิตวิธีกิน "ไก่บั้ง"...ทำไม่ต้องสาธิต เพราะอาหารพื้นบ้านหากกินไม่ถูกวิธี ก็ไม่อร่อย

คงเหมือนการกินข้าวยำปักษ์ใต้ หากกินให้อร่อย ต้องสาธิตให้ผู้มาเยือนดูก่อน ใส่อะไรลงไปก่อนหลังอย่างไร แล้วมายำกันแบบใหน....นอกจากอร่อยแล้วยังเป็นศิลปในการกิน

คิดว่าการกินไก่บั้งก็คงมีกรรมวิธีกินที่มีศิลป เช่นกัน.....สรุปว่า....เนือยจริง (ขอแวะเข้าครัวก่อนน่ะหมอ)

สวัสดี Ico64 แวะมาเยี่ยมชม' พิธีบายศรีสู่ขวัญ' และบรรยากาศในการกินข้าวเซาเฮือน ท่ามกลางโคมไฟพาแลง... ที่บ้านวังน้ำมอก...ต้อนรับสิ่งดี ๆ ที่จะมีมาในวันปีใหม่ ...ขอบคุณมากค่ะ.. และขอส่งความสุขด้วยคำกล่าวว่า สุขสันต์ วันปีใหม่ 2555 และทุกวันคืนตลอดไปนะคะ...

แค่เห็นภาพก็หิวแล้ว แงๆๆๆ

อั่วปลา หิวเลยค่ะคุณหมอฟัน

ผู้เฒ่า แม่แก่ ดูน่ารัก หลายๆ เด้อค่า

  • เป็นประเพณีที่น่าชื่นชมมากค่ะ มีความเป็นเอกลักษณ์ บรรยากาศเป็นกันเอง อบอุ่น เหมือนทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกันค่ะ

 

ปีใหม่นี้ มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงค่ะ มีเรื่องดี ๆ เรื่องใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตให้รู้สึกดี ๆ มีความสุขค่ะ

หากอาจารย์หมอ ป. กลับเมืองไทย  มีโอกาสมาถึงหนองคาย  เชิญนะคะ 

สวยมาก ๆ ค่ะ  จากภูมิปัญญาพื้นถิ่น  ถูกคิดให้ต่อยอดเพราะเห็นคุณค่า  กลายมาเป็นท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์  "ป่าพื้นบ้าน  อาหารชุมชน"  ได้รับรางวัลอนุรักษ์จากกรมป่าไม้  ปี 2547

ชาวบ้านไม่ยอมขายที่ให้นายทุนที่จะมาทำ resort  แต่จับกลุ่มทำกันเอง  กินข้าว  เซาเฮือน  นอนกับบ้านชาวบ้าน  ปากต่อปาก  บอกต่อ  ลงข้อมูลที่ wangnammok.com 

แม้จะขยายตัวช้า ๆ  นักท่องเที่ยวไม่โครม ๆ  แต่ชาวบ้านก็พอใจค่ะ  เพราะอย่างไรก็ยังทำนาเป็นหลักอยู่แล้ว

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

ใช่เลยท่านลุงบัง

ศิลปะการกินเนี่ยเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะของการใช้ชีวิตเลยทีเดียวเชียว

วัตถุดิบในการปรุงก็อยู่รอบ ๆ ตัว  ไม่ต้องขนส่งเดินทางมาไกล  สด  ใหม่  ประเดี๋ยวนั้น

ส่วนวิธีการปรุง  วิธีการกิน  ผ่านการลองผิดก่อนลองถูก  จนอร่อยลิ้น  ถูกใจ  ก็สั่งสมเป็นองค์ความรู้  ซึมซับถ่ายทอดออกมา  ให้เห็นเป็นรูปธรรม  แฝงด้วยคติความเชื่อควบคู่กันมา

ค่อย ๆ ห่อ  ค่อย ๆ ส่งเข้าปาก  ค่อย ๆ เคี้ยว  ค่อย ๆ กลืน

โอ้.....ยังช้าได้อีก

slow life

ขอบคุณนะคะท่านลุงบัง

ขอบพระคุณ ดร.พจนา แย้มนัยนา มากค่ะ

รับและส่งสิ่งดี ๆ ต่อกันไปมา สุขสันต์ปีใหม่ 2555 เช่นกันนะคะ

ช่วงนี้แง ๆ บ่อยนะคะอาจารย์ขจิต

ยังไม่มีใครคอยเช็ดน้ำตาให้อีกเหรอคะ

มามะคุณ Poo จะพาไปกินข้าว เซาเฮือน กินข้าวพาแลง ท่ามกลางบรรยากาศโคมไฟทำมือ ฝีมือชาวบ้านวังน้ำมอก

คุณตาคุณยายน่ารักมาก ๆ ค่ะ มาพูดมาคุย เล่าเรื่องหมู่บ้าน ความเป็นอยู่ ภูเขา น้ำตก การรักษาป่า ประเพณี วัฒนธรรม...อย่างมีความสุข

น่าชื่นชมมาก ๆ ค่ะ....ขนลุกทุกครั้งที่คุณตาคุณยายเอิ้น (เรียก) ขวัญ.....มาเด้อขวัญเอ้ยยยยยย

เรียกสติ สิ่งดี ๆ กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว

เตรียมรับและทำสิ่งดี ๆ ต่อไปอย่างสดใสในปีใหม่ และต่อ ๆ ไป

อาราธนาคุณงามความดีคุ้มครองชีวิต และมีกำลังใจดีที่จะทำสิ่งดี ๆ ตลอดไปนะคะ อาจารย์ศิลา

ขอบคุณชุมชนวังน้ำมอก

ตลอดช่วง2วัน1คืน ที่ทำให้ได้สัมผัส

ความเป็นธรรมชาติ..ไม่ปรุงแต่ง

ความเรียบช้า..ไม่เร่งรีบ

ความน่ารัก..อ่อนน้อมต่อผู้คน

ความภูมิใจในถิ่น..และวัฒนธรรมของตัวเอง

แม้อากาศจะหนาวเพียงใด..แต่หัวใจอบอุ่นเต็มเปี่ยม

ขอบคุณพี่อ้อที่เป็นผู้เกื้อประสาน

ให้ได้สัมผัสความรู้สึกนี้

ขอบคุณค่ะ

ยินดีและภาคภูมิใจที่ได้รับหน้าที่นะคะ  และได้พบพร้อมกัน  2  อ้ออีก   อิอิ.....คราวนี้  3  อ้อเชียวนะ

ชุมชนบ้านวังน้ำมอกช่างยืนยัน.....ให้เราเห็นจากการกระทำ  วิถีชีวิตจริง  ถึงการเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติ

ทำตัวเล็ก ๆ กลมกลืน....ไม่ฝืน  ไม่อหังการ์  คิดว่าตนเองเก่งกว่าธรรมชาติ

เราจึงได้พบการดำรงชีวิตเรียบ ๆ ง่าย ๆ  ตรงไปตรงมา  หากินตามที่มีในพื้นถิ่น  สรรค์สร้างประดิษฐ์สิ่งเอื้ออำนวย  พิธีกรรม  ประเพณี   วิธีคิดเบื้องหลังการใช้ชีวิต  จากภูมิปัญญาที่ผ่านการตรึกตรองคัดกรองมาอย่างดี...อย่างวิถีพอเพียง

น่าชื่นชมมาก.....คือ วิธีคิดส่งต่อให้ทายาทรุ่นต่อไป  เมื่อย้อนอดีต  กรีดปัจจุบัน  แล้วก็ถึงกลั่นอนาคต (ขอยืมคำ อ.สุรจิต  ชิรเวทย์)  แค่สั่งสมยังไม่พอ  เมื่อใช้ในชีวิตปัจจุบันและสืบทอดไปได้  วัฒนธรรมจึงจะปรับตัวสืบต่อดำรงไป 

สิ่งไม่เหมาะก็มลาย  สิ่งใดเหมาะกับสิ่งแวดล้อม  นิเวศวิทยา  ยุคสมัยสังคมที่เปลี่ยนไป  ย่อมวิวัฒน์งอกงาม   ผสมผสานงอกเงย....พัฒนาต่อได้อย่างมีรากเหง้าที่มา 

ความหวังลุกโชนสดใสเสมอ  วิถีชีวิตช้า  เรียบง่าย...งดงาม  กลมกลืนธรรมชาติ  และวิวัฒน์จากรากฐานของชุมชน

ขอบคุณเพื่อน  พี่  น้อง  ทีมผู้นำชุมชน  ที่ร่วมเดินทางชีวิตครั้งนี้ (หนองบัวลำภู  เลย ขอนแก่น  อุดรธานี  นนทบุรี  กรุงเทพ  และหนองคาย)

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท