เช้านี้ (๒๐ ธ.ค. ๕๔) ผมดูข่าวคุณเสก โดยบังเอิญ (เมื่ออายุมากขึ้นก็สนในข่าวพวกนี้น้อยลง) ดูแล้วก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยถึงปานกลาง คุณเสกอาจทำ "กรรมดี" ในอดีตมามากจึงมีโอกาส มีเวทีที่หลายคนเรียกว่า "การแถลงข่าว" ในขณะเดียวกันก็อาจทำ "กรรมที่ไม่ดี" หรือ "อกุศลกรรม" มาเช่นเดียวกัน จึงต้องมาเสียชื่อเสียงกับเรื่องที่ "หากคนทั่วไปทำ ก็ไม่รับผลกระทบอย่างนี้" นั่นเป็นเพราะคุณเสกได้ทำ "กรรม" กับคนหมู่มากไว้ ไม่ต้องมองไปถึงอดีตชาติ แต่ในปัจจุบันชาติ คุณเสกก็มีชื่อเสียงจากการที่คนหมู่มากชอบใจในผลงานของคุณเสก
ผมกำลังจะบอกว่า หากสิ่งที่คุณเสกพูดไปแล้วมีคนไปทำตามโดยอ้างคำพูดคุณเสก คุณเสกก็อาจสร้าง "กรรม" ทาง "วาจา" โดยไม่รู้ตัว สำหรับผมแล้วการยอมรับผิดที่ดีที่สุดคือ "การไม่พูด" และยอมรับ "กรรม" ที่เรากระทำทั้งหมด หรือหากพูดก็อาจพูดเพียงแค่ "ผมยอมรับผิดทั้งหมด" เพราะการพูดมากกว่านี้อาจไปสร้าง "กรรมใหม่" โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะหากเราเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมต้องมีคนที่เกี่ยวข้องเยอะ
ไม่มีข้ออ้างใดๆ สำหรับการเสพยาค่ะ การเสพยามีแต่ทำลายชีวิตตนเองและคนรอบข้างในที่สุดค่ะ
คำว่า "ศิลปิน" โดนกระทบอย่างรุนแรงค่ะ ไม่มีศิลปินคนไหนมาต่อว่าบ้างเลยเหรอค่ะ
ผมลืมเขียนไปอีกประเด็น คุณเสกเรียกร้องบริษัทแกรมมีให้มาเคลีย เพราะทำเงินให้บริษัทหลายพันล้าน คุณเสกอาจหลงประเด็นไปว่าคุณเสกเป็นคนทำ จริงๆ คนที่ซื้อผลงานของคุณเสกต่างหากที่ทำให้ทั้งคุณเสกและแกรมมี่มีเงินหลายพันล้าน คนเหล่านี้จะให้ไปเคลียกับใคร เป็นเหตุผลสำคัญที่คุณเสกจะต้องมี "สติ" มากกว่าคนธรรมดา เพราะคุณเสกยืนขึ้นได้ด้วยคนที่ซื้อผลงานคุณเสก จึงต้องรับผิดชอบต่อคนเหล่านั้นไปด้วย (ซึ่งอาจรวมทั้งผม)
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ
มีลาภ เสื่อมลาภ
มียศ เสื่อมยศ
มีสรรเสริญ เสื่อมสรรเสริญ
มีเกิด ย่อมมีดับ
ศิลปินไม่เข้าใจหลักธรรม จึงต้องรับกรรมที่ทำต่อไป
ขอบคุณสำหรับมุมมองดี ๆ ครับ ;)...
ชอบเพลงเค้าเกือบทุกเพลงค่ะ
ฟังตามลูกสาวค่ะ
การเป็นศิลปินไม่ต้องพึ่งพายาเสพติด
ก็เก่งได้และก็มีหลายคน
ชั่งหัวมันเถอะครับ อ.โสภณ