จากความฝันของตัวเอง ที่ผ่านมาสักพักหนึ่งแล้ว เป็นฝันที่ไม่สามารถลืมได้ ในฝันบอกความรู้สึกหลากหลายกับสิ่งที่เจอ ทั้งสงสาร เสียใจ อาวรณ์ ทุกความรู้สึก ที่มีต่อ สิ่งที่เจอในฝัน แต่จะไม่ขอเล่า ...จึงทำให้อยากรู้ พยามหามาตั้งแต่ ฝันแรกๆ แต่ไม่มี ยกเว้นว่าจะไปหาหมอดู ...แต่ช่วงนี้ งดหาหมอดูค่า ...ไม่ใช่ไม่เชื่อ ทั้งกล้า ทั้งกลัว ล่ะนะ กลัวทักมาไม่ดี เด๋วทำใจไม่ได้น่ะสิ....จึงขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พบเจอ..เป็นไปตามกรรมที่เราได้ทำไว้ ...ส่วนเรื่องรู้ก่อนแล้วระวังตัวนั้น เราก็เห็นอยู่แล้วว่าเราไม่สามารถ ระวังได้จริง...ฉะนั้น งดหมอดูค่ะ ชีวิตก็กำลังแฮปปี้หมูน้อยน่ารัก ...อิอิ ทุก เรื่อง ทั้งงาน ความรัก ชีวิตทั้งหลาย ....เอาล่ะ มาว่าด้วยเรื่องราวของเนื้อคู่ที่มีจิตผูกพันกันมาแต่ชาติปางก่อน ในทางพระพุทํธศาสนากันค่ะ.....เป็นการรวบรวมมาจาก เว็บพันทิพ และอื่นๆ
เนื้อคู่ จะว่ามีจริงก็ได้ จะว่าไม่เคยมีก็ได้
ที่มีอาจมีมากกว่า 1 มันยังไงกันล่ะหนอ?
ตอบว่า สรุปคำถามชัดๆ ดังนี้ว่า
ถ้าเนื้อคู่มีจริง แล้วที่มากกว่า 1 ยังไงกันหนอ คือ อย่างไรกันหนอ
คือ มีมากกว่า 1 ได้หรือไม่ แล้วเพราะเหตุใด?
ขอตอบตามความหมายของพจนานุกรมคำว่า
เนื้อคู่ น. ชายหญิงที่ถือกันว่าเคยอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน,
ชายหญิงที่สมเป็นคู่ครองกัน, คู่สร้าง หรือ คู่สร้างคู่สม ก็ว่า.
ความหมายที่ 1 ชายหญิงที่ถือกันว่าเคยอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน,
ตอบว่า มี ตามชาดกชื่อว่าสาเกตชาดก
ความหมายที่ 2 ชายหญิงที่สมเป็นคู่ครองกัน,
ตอบว่า มี เช่นสมควรต่อกันในลักษณะใหญ่ๆ 4 อย่างอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง หรือทั้งหมด คือ
มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน
มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน
ข้อนี้ ตามพระสูตร ชื่อว่าสมชีวิสูตรที่ ๑ และ ๒
ลักษณะทั้งสี่นี้ ก็เป็นเหตุให้ทั้งสองพึงหวังพบกันและกันทั้งในปัจจุบัน และในสัมปรายภพ.
ความหมายที่ 3 คู่สร้าง หรือ คู่สร้างคู่สม
ตอบว่า มี ข้อนี้ไม่ต้องยกพระสูตร เพราะเห็นๆ อยู่ว่า
ชายหรือหญิงบางคนที่อยู่กับคนหนึ่งแล้ว ไม่ค่อยขยันทำมาหากินสักเท่าไรเป็นต้น หรือพฤติกรรมเป็นอย่างหนึ่ง
แต่พอไปอยู่กับอีกคนหนึ่งกลับมีพฤติกรรมแตกต่างออกไป เช่น
ขยันขันแข็ง ช่วยทำมาหากิน สร้างฐานะให้มั่นคงเป็นต้น ก็มีให้เห็นอยู่.
ตัวอย่างข้อนี้ พอหามาเป็นอุทาธรณ์ได้ เช่น
เรื่องบุตรเศรษฐีชื่ออุคคเสน ใจความในอรรถกถา คือ
บุตรเศรษฐีในพระนคร วันหนึ่งได้เห็นนางนักฟ้อน เกิดจิตปฏิพัทธ์ในนางนั้นถึงกับต้องไปอยู่กับนางนักฟ้อน
คือเร่ร่อนติดตามไปกับกองเกวียนถูกล้อเลียน เพราะไม่มีศิลปะ จึงเรียนวิชากายกรรม (นัยของชาวบ้าน)
แล้วเที่ยวแสดงไป. ข้อนี้อยู่ไกล ก็ได้พบแล้วอยู่ด้วยกัน.
บุตรเศรษฐีนี้ ภายหลังได้บรรลุพระอรหัต
ขณะที่ยังดำรงเพศคฤหัสถ์แล้วทูลขอบรรพชาอุปสมบทต่อพระศาสดา.
ต่อมา พระภิกษุทั้งหลายสนทนาเรื่องของท่านว่า
ผู้ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัยที่จะบรรลุพระอรหัตตผลอย่างท่านอุคคเสนเถระยังต้องท่องเที่ยวไปกันนางฟ้อนนางรำ
อะไรเป็นเหตุให้เป็นอย่างนั้น.
เหตุในอดีต คือ เมื่อสมัยพระศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า
ชายหญิงคู่หนึ่งได้ใส่บาตรแก่พระภิกษุรูปหนึ่งผู้เป็นพระอรหันต์แล้วตั้งความปรารถนาไว้ว่า เราทั้งสองขอมีส่วนในธรรมที่ท่านบรรลุแล้ว. พระอรหันต์นั้นพิจารณาเห็นว่าจะสำเร็จตามปรารถนา จึงแย้มยิ้มขึ้น.
ฝ่ายหญิงเห็นพระภิกษุยิ้ม หญิงนั้นเกิดไม่สำรวมวาจา กล่าวว่าพระคุณเจ้าคงเคยเป็นเด็กนักฟ้อน.
ฝ่ายชายก็ตอบไปว่า คงจะเป็นอย่างนั้น.
การเป็นนักฟ้อน นักแสดงเร่ร่อนของทั้งสอง เพราะวาจาที่ไม่สำรวมนั้น.
การได้บรรลุพระอรหัต เพราะอาศัยปัจจัยคือการถวายบิณฑบาตนั้น.
ไม่มีความเห็น