การเล่าเรื่องผีๆมันก็สร้างความสนุกสนานกันไปอีกอย่างส่วนที่ว่าคนจะเชื่อหรือไม่ก็คนละเรื่องกับการที่จะเล่า ใครที่เชื่อก็เชื่อกันไป ท่านไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อให้ปวดกระดองใจไปเปล่าๆ จะสรุปว่าทางใครทางมันก็เป็นได้ว่างั้นเถอะครับ
มาวันนี้ได้พบปะกับผู้ลี้ภัยจากรัฐฉานของพม่าเขาเป็นคนเมืองสีใกล้ๆกับแคว้นสิบสองปันนาประเทศจีนเมื่ออายุราวแปดขวบทางรัฐเข้าไล่ที่เผาบ้านเมืองพ่อแม่ญาติๆของเขาต้องหนีตายเข้าป่า กลับบ้านเห็นเหลือแต่ตอเสาไหม้เกรียมพ่อแม่ตายความเศร้าได้เข้าครอบงำใจเขาให้ฮึดสู้
แม้เป็นเด็กก็ไปอาศัยข้าวพระในวัดพอมีจะให้ยังชีพโตขึ้นอายุสิบสามขวบทางการก็เกณฑ์เขาให้จับปืนเป็นทหารมีเพื่อนๆบอกว่าอยากได้เงินดีต้องไปอยู่กับขุนส่าค้ายาเสพติด
เขาหนีทหารมาขออาศัยกับพวกขุนส่าตอนแรกก็เป็นลูกหาบ ต้องอดทน ทั้งทนอดด้วยได้ค่าจ้างติดตัวอยู่หลายจ๊าดเพราะเขากล้าสู้เสี่ยงในการขนส่งเสบียง
ต่อมามีนายหน้าจากเมืองไทยส่งข่าวให้ผู้คนที่ต้องการเข้ามาทำงานในเมืองไทยเข้ารับสมัครเขาจึงสมัครและเข้ามาเมืองไทยถูกส่งเป็นลูกเรืออยู่กลางทะเลต้องสาวเชือกอวนไม่เว้นแต่ละวันเงินที่เก็บได้เดือนละสองร้อยกว่าบาท..ต้องทนอดและอดทน...เช่นเดิม
ทุกครั้งที่ทนทุกข์ทนอด อดทนเขารำรึกถึงพ่อแม่ที่ตายในกองเพลิงที่เก่าบ้านเกิดเมืองสีรัฐฉาน
มีโอกาสเขาอาศัยความมืดโหนเชือกท้ายเรือที่เข้าฝั่งหนีรอดออกมาอาศัยเงินราวแปดร้อยกว่าบาทขึ้นรถไฟกลับเชียงใหม่เป็นลูกจ้างสร้างสนามกีฬาเจ็ดร้อยปีและอาศัยใจสู้จึงหัดขับรถไถตามลูกพี่สั่ง
สนามกีฬาเจ็ดร้อยปีเชียงใหม่อยู่ใกล้กับค่ายทหารแห่งหนึ่ง ต่อมามีการรื้อถอนอาคารที่พักค่ายทหาร... ไม้เก่าถูกรื้อถอนออกมามากมายรวมทั้งเสามงคลของอาคารมีผ้าสีต่างๆเก่าแก่คร่ำคร่าผูกติดเสาต้นหนึ่งซึ่งบอกลักษณะว่าต้องเป็นเสามงคลแน่ๆ
ด้วยความไม่มีความรู้เรื่องผีๆ มีเพียงแต่ว่าเมื่อเล็กพ่อแม่เคยพาไปทำบุญที่วัดเมืองสีเขามีความศรัทธาต่อพระ เณรและเชื่อเรื่องพุทธศาสนาเมื่อมาขับรถไถและต้องนอนกินอยู่ในเต๊นท์ข้างรถไถในสถานที่ต่างๆที่ทำงานก็รำลึกกราบพระอยู่เสมอ
มาวันนี้เขาไถที่ปราบสนามเมื่อถึงเวลาพักตอนเย็นเขาจึงนอนพักหัวหนุนขอนไม้ที่มีผ้าสีผูกอยู่สักงีบตื่นขึ้นยืนเหลียวมองที่ท่อนไม้เขาเห็นร่างตนเองกำลังนอนอยู่ที่ขอนไม้ยังไม่ตื่น..สักครู่เมื่อเขาได้สติร่างของเขาที่บนท่อนไม้จึงหายไป
เหตุการณ์ดังกล่าวเขาขนลุกรีบย้ายที่นอนไปนอนบนรถไถ พองีบเท่านั้นเองสองแขนถูกบีบรัดเหมือนโดนมัดไพล่หลัง...รีบดิ้นไปมายังไม่หลุดกลับอึดอัดยิ่งขึ้น เขานึกถึงพ่อแม่ที่ตายไปขอมาช่วย.....เท่านันเองมือเขาหลุดจากการถูกรัดมัดผูกเป็นอิสระ...
เขารีบไปปรึกษาเจ้านาย...เจ้านายจึงพาไปที่วัดใกล้เคียงรดน้ำมนต์และเอาน้ำขมิ้นส้มป่อยไปรดเสาที่มีผ้าผูกมัดและขอขมาที่ล่วงเกิน...
พระท่านบอกเขาว่าเสาที่มีผ้ามัดนั้นคือเสามงคลของอาคารเก่าที่ถูกรื้อมา..หากเราทำดีไม่ล่วงเกินก็ไม่เป็นไร..ตรงกันข้ามหากทำดีขอพรแล้วจะได้โชค
เขาทำตามและซื้อหวยถูกรางวัลได้เงินจำนวนหมื่น...เขารีบจึงไปบอกกับคนรักที่เป็นชาติเดียวกันพบกันมาแล้วเกือบสามปีในเชียงใหม่...และแต่งงานอยู่กินกันเป็นสุข..
เขาและภรรยาทั้งสองคนมุมานะรับจ้างจนมีเงินเป็นแสนในปัจจุบันแต่เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะซื้อที่ดิน เงินที่มีอยู่้จึงซื้อทองเก็บไว้ให้ลูกชายคนเดียวของเขาที่เกิดในเมืองไทยสัญชาติไทย..
ความมุมานะบวกกับความโชคดีที่ผีเสามงคลให้ลาภ ปัจจุบันเขาเป็นนายจ้างสวนไม้ดอกที่มีลูกจ้างเป็นคนไทยเจ้าของแผ่นดินไทย...
ผีเสามงคลจึงให้โชคแด่คนมุมานะและกล้าสู้ชีวิตอย่างเขาผู้หนีตายจากถิ่นเกิดกำพร้าพ่อแม่ ไม่มีแม้ญาติในเมืองไทย...