ในฐานะพยาบาลชำนาญการพิเศษ ที่ผ่านการพัฒนาตนเองจากผูููููุููู้ปฏิบัติการ และได้มีโอกาสทำหน้าที่กลั่นกรองผลงานวิชาการเบื้องต้น เพื่อเสนอพิจารณาเลื่อนขั้นของพยาบาลปฏิบัติการ เป็น ชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ ของคนในวิชาชีพเดียวกัน ถือว่าเป็นการเพื่อนช่วยเพื่อน นำความร้และทักษะของตนเองให้เกิดประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมงาน คนในวิชาชีพ
ถือว่าเป็นการบูรณาการการปฏิบัติ วิชาการและวิชาชีพ เข้าด้วยกันอย่างลงตัวและเกิดประโยชน์โดยอ้อมต่อผู้ใช้บริการ หมายความว่า ถ้าพยาบาลเก่ง ผู้ใช้บริการจะได้รับการบริการที่มีคุณภาพ เป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าเข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้
สิ่งที่ต้องทำคือ เราต้องเข้าใจเกณฑ์การตรวจผลงาน ซึ่งปัจจุบันนี้ อาศัยตนเอง ประสบการณ์ตรงที่เคยทำมาก่อน เคยนิพนธ์ เคยเป็นบรรณาธิการหนังสือวิชาการ และศึกษาระเบียบการเขียนเอกสารจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น เกณฑ์การกำหนดตำแน่งของมหาวิทยาลัย คู่มือการทำวิทยานิพนธ์ (วิธีการเขียน/ตำราหรือหนังสือ)
วิธีการ
1 ตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสาร
2 ตรวจสอบว่ามีระยะเวลากลั่นกรองนานเพียงใด ทั้งนี้ต้องถามเจ้าหน้าที่ และอย่ที่ว่าจำนวนเอกสารที่ต้องตรวจนั้นมากน้อยเพียงใด ต้องบริหารเวลา เพราะต้องส่งงานให้ตรงเวลาที่กำหนด เพราะหากเลื่อนออกไปจะเกิดผลเสียต่อผ้ทำผลงาน
3 เขียนสรุุปรายงานการตรวจตามแบบประเมินผลงาน โดยให้ข้อแนะอย่างชัดเจนที่สามารถแก้ไขได้หรือหากพิจารณาว่าจะไม่มีผลเสียๆด้านกระทบต่อความรูู้สึกสามารถอธิบายให้เจ้าตัวได้จะช่วยให้มีความเข้าตรงกันจึงจะสามารถแก้ไขได้ตรงตามที่แนะนำไป
4 ส่งงานให้ตรงเวลาต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสื่อสารให้เจ้าตัวนำไปแก้ไขให้ทันเวลา
บทเรียนที่ได้รับ
1 งานวิชาการที่ผ้ปฏิบัติการเขียนขาดข้อมลอ้างอิง เพราะสาเหตุขาดระบบจัดเก็บที่ดีหรือไม่ ไม่ทราบว่าจะเก็บข้อมูลอะไร อย่างไร
2 การเรียบเรียบ ร้อยเรียง ทำไปอย่างไม่มีระบบ ไม่สอดคล้องกับเนื้อหา เพราะสาเหตุที่ผ้ปฏิบัติจะเน้นการทำมากกว่าที่ลำดับ หรือสรุปงาน เหมือนกับว่าทำให้เสร็จก็บุญแล้ว
3 ระยะเวลาที่เริ่มดำเนินการกระชับชิด เวลาสั้นๆ เพราะขาดการวางแผน และมีอคติต่อการทำผลงานวิชาการ
4 การเอื้อของผู้มีหน้าที่กลั่นกรองเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้การแก้ไขผลเป็นไปด้วยความราบรื่น มีเครียดแต่มุุุุุุุุุุ่งมั่นที่ต้องการแก้ไข เพราะรูู้สึกว่าได้รับโอกาส
ไม่มีความเห็น