พูดถึงมะเร็ง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับอวัยวะใด ก็สร้างความวิตกกังวลใจให้กับผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้อย่างยิ่ง ดังนั้น การเจาะเลือดเพื่อตรวจหามะเร็งจึงได้ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยวินิจฉัยหรือตรวจติดตามผลการรักษามากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการตรวจเลือดนั้น เรียกว่า Tumor marker ซึ่งเป็นสารที่อาจจะเจอในเลือดมากกว่าปกติ สารเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยเนื้อมะเร็ง หรือปฏิกิริยาของร่างกายต่อมะเร็ง และจากเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง
Tumor marker ที่ควรรู้จัก ได้แก่
1. Carcinoembryonic antigen หรือ CEA เป็นแอนติเจนชนิดหนึ่ง ซึ่งสร้างเป็นปกติจากเซลล์ลำไส้ ตับ และตับอ่อนของทารกในครรภ์ ในคนปกติสามารถตรวจพบ CEA สูงได้เล็กน้อยในคนที่สูบบุหรี่, หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 6 เดือน รวมทั้งในผู้ป่วยที่มีการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร, ปอด, และตับ แต่ระดับมักไม่สูงมากนัก CEA มักขึ้นสูงผิดปกติในผู้ป่วยมะเร็งของระบบทางเดินอาหาร, มะเร็งตับอ่อน, มะเร็งเต้านม, มะเร็งปอด, มะเร็งรังไข่ ฯลฯ โดยเฉพาะ มะเร็งลำไส้ใหญ่ จะพบ CEA สูงได้มากและบ่อยกว่ามะเร็งชนิดอื่นๆ
2. Alpha-fetoprotein หรือ AFP เป็นแอนติเจนซึ่งสร้างเป็นปกติโดยเยื่อบุผิวของเซลล์ถุงไข่ (yolk sac), เซลล์ตับ และทางเดินอาหารของทารกในครรภ์มารดา หลังจากนั้นจะมีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อใกล้คลอด จนมีระดับเท่าระดับปกติในผู้ใหญ่ภายใน 2-3 สัปดาห์หลังคลอด จึงพบ AFP สูงได้ (แต่เป็นภาวะปกติ) ในเด็กในครรภ์มารดา ทารกแรกคลอด และหญิงมีครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป คนทั่วไปจะตรวจพบ AFP ได้ในระดับต่ำๆ AFP มักมีค่าสูงกว่าปกติมากในผู้ป่วย มะเร็งตับ (hepatocellular carcinoma) และมะเร็งของรังไข่ และ/หรือ อัณฑะ ชนิด embryonal cell carcinoma AFP เป็น tumor marker ที่ได้รับการยอมรับให้นำมาใช้ตรวจหามะเร็งตับ ในกลุ่มที่เสี่ยง ซึ่งได้แก่ ผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรัง ผู้ที่เป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบบี ผู้ป่วยโรคตับแข็ง เป็นต้น
3. Prostate specific antigen หรือ PSA เป็นเอ็นซัยม์ชนิดหนึ่งซึ่งสร้างจากเซลล์เยื่อบุผิวของต่อมลูกหมากเป็นหลัก รวมทั้งสร้างได้ในเซลล์เยื่อบุท่อปัสสาวะ ดังนั้นจึงอาจพบ PSA ระดับต่ำๆ ในผู้หญิงได้เช่นกัน สามารถตรวจพบระดับ PSA สูงกว่าปกติได้ทั้งใน มะเร็งต่อมลูกหมาก และภาวะต่อมลูกหมากโตที่ไม่ใช่มะเร็ง (benign prostatic hyperplasia) PSA เป็น tumor marker อีกชนิดหนึ่งที่ได้รับการยอมรับให้ใช้ตรวจกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก ในกลุ่มผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยแนะนำให้ตรวจ PSA ร่วมกับการตรวจคลำต่อมลูกหมากทางทวารหนัก และควรเจาะเลือดตรวจก่อนดำเนินการตรวจทางทวารหนัก เนื่องจากการกระทำใดๆ ต่อต่อมลูกหมาก เช่น การกดคลำ จะทำให้มีการปลดปล่อย PSA ออกจากต่อมลูกหมากมากกว่าปกติ เป็นผลให้ระดับ PSA ขึ้นสูงกว่าที่ควรจะเป็น ในปัจจุบันมีการตรวจเพิ่มเติมที่สามารถเพิ่มความจำเพาะต่อการวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยไม่ลดความไวของการทดสอบลง ได้แก่ การตรวจ Free PSA : Total PSA ratio
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะมาต่อครั้งหน้าอีก 2-3 marker ครับ ขอขอบคุณข้อมูลจาก Siriraj E-Public Library โดย ผศ.พญ.ศันสนีย์ เสนะวงษ์ ครับ
@New Lab
ดีเลย วันหลังจะส่ง marker อะไร จะได้ถาม Lab / Boss
ตรวจให้ จนท.ในวันตรวจสุขภาพด้วยไม่ได้หรือ
credit ธ.ค.55' คุณภาณุพงษ์ บัวสระ คอลัมน์ สาระแนแชร์ความรู้ 1 คะแนน//HUM