ผ่านร้อน-ผ่านหนาวมาเนิ่นนาน…ได้พบ-ได้เห็น-ได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ...จนบางครั้งสามารถคาดเดาเหตุการณ์ตอนจบได้อย่างไม่ผิดไปจากความเป็นจริง พื้นฐานเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของศาสตร์ที่ใช้การบันทึกเก็บเป็นสถิติ…. แต่ไม่อาจยกระดับเทียบเคียงนักวิทยาศาสตร์เพราะไม่ได้มีการทดลองทุกขั้นตอนอย่างละเอียดรอบคอบ และไม่มีการวิเคราะห์หาเหตุและผลมาอ้างอิงความเชื่อเหล่านั้น และไม่กล้าจะโมเมเทียบขั้นหมอดูทำนายทายทัก ... คงเป็นได้เพียงหมอเดาสุ่ม ที่ยามครองสติมั่นอาจชักจูงใจให้ผู้อื่นคล้อยตามได้อย่างง่ายดาย
ยามมีวันหยุดติดต่อกันยาวนานถึง ๓ วัน สถานีขนส่งสายเหนือ-อีสาน-ใต้ จะคราคร่ำไปด้วยฝูงชนระดับกลางค่อนไปทางต่ำจำนวนนับหมื่นแออัดกันเป็นปกติวิสัย บ้างยืนรออยู่ตามมุมเสายึดครองพื้นที่อย่างอดทน บ้างนั่งลงกับพื้นปูนรอคอยราวกับไร้ความรู้สึก บ้างอาศัยขั้นบันไดทางขึ้น-ลงนั่งพักอย่างเหนื่อยล้าโดยปราศจากทางเลือก ผู้เขียนเองชอบใช้บริการรถโดยสารธารณะเช่นกัน เพราะไม่ชอบขับรถทางไกล…ต้องคอยระแวดระวัง ทั้งเครียด-เหนื่อย-เพลีย แต่หากเป็นผู้โดยสาร ก็ไม่ต้องมากังวล...สามารถนั่งหลับได้ตลอดระยะทาง เก็บพลังงานไว้ใช้ประโยชน์อื่นๆ เพื่อส่วนรวมจะดีกว่า
ยืนคอยแท็กซี่อยู่ตรงข้ามประตูน้ำคอมเพล็ก เรียกแท็กซี่อยู่สัก ๑๐ คัน ไม่มีใครรับ ...แม้จะเพิ่มทางเลือกให้ 2 เส้นทาง เช่นหากไม่ไปหมอชิต 2 ก็ไปบางลำภูแทน ขนาดข้ามถนนย้ายไปฝั่งตรงข้าม ก็ยังไม่สำเร็จ ชักกังวลใจเพราะต้องเร่งรีบกลับกำแพงเพชร เนื่องจากมีภาระงานที่ต้องรับผิดชอบในวันรุ่งขึ้น มีอยู่คันหนึ่งจะขอเหมาในราคา ๓๐๐ บาท โอ้โฮ….เอาเปรียบสังคมเกินไป…..มือไม่ว่างที่จะจดบันทึกหมายเลขทะเบียนไปฟ้องฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับรู้-ได้เห็นการทำงานของรัฐฯหลายหน่วยงานแล้วเซ็ง…..เกรงว่าจะเสียเวลาเปล่า ขนาดขโมยเข้าบ้านเป็น ๑๐ ครั้ง ตัดใจแจ้งความเพียงแค่ ๓ ครั้ง แจ้งไปก็ไม่เห็นจะได้ประโยชน์อันใด .....ปล่อยโจรให้ลอยนวลซะงั้น แม้ว่าจะมั่นใจเกินล้านเปอร์เซ็นต์ว่าทรัพย์สินที่สูญหายนั้นได้มาจากน้ำพัก-น้ำแรงและหยาดเหงื่อ อันบริสุทธิ์ …ถือเสียว่าแบ่งปันให้ผู้ด้อยโอกาสได้ใช้ของมีคุณภาพ... ฮา!
เดินลากกระเป๋าไปหาทำเลรอคอยใหม่ เมื่อถูกรถแท็กซี่ปฏิเสธไปกว่า ๒๐ คัน เดินไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงโรงแรมอินทรา อารมณ์เริ่มเสียเพราะห่วงงานแม้เป็นเพียงแค่บทบาทเล็กๆ ก็ตาม เริ่มวางแผนสองหากกลับไปไม่ทันจริงๆ จะติดต่อมอบหมายใครดีนะ ในที่สุดรถแท็กซี่คันหนึ่งก็วิ่งรี่มาหยุดอยู่เบื้องหน้า แทบจะไม่อยากเอื้อนเอ่ยถาม แต่….ลองดูแล้วกันไหนๆก็ไหนๆ “ ไปหมอชิต ๒ ไหม” เขาพยักหน้ารับง่ายๆจนตนเองก็แปลกใจ เปิดประตูก้าวขึ้นนั่งอย่างหมดแรง
“ แถวนั้นน่ะ แท็กซี่มันเลือกแต่ผู้โดยสารที่เป็นฝรั่ง ” พนักงานขับแท็กซี่ เปิดปากชวนคุยก่อน “ พี่เรียกมาหลายคันหรือยัง ”
“ ฮื่อ….. ก็หลายคันอยู่ …..” ใจนึกไปถึงคุณโน้ต แต้อุดม ที่เคยกล่าวสะกิดสังคมถึงแท็กซี่….เห็นด้วยทุกประการจริงๆ แต่ไม่เห็นมีใครช่วยแก้ปัญหาได้….ยิ่งพวกมีตำแหน่งใหญ่โต…..มีสักกี่คนที่ใช้บริการแท็กซี่ ใช้เงินหลวง-เงินเดือน-เงินประจำตำแหน่งที่กองพะเนินนั่น …..จ้างพนักงานขับรถประจำตัวได้หลายคนทีเดียว
เขาชวนคุยไปเรื่อยๆ ผู้เขียนตอบแบบเก็บท่าที เกรงว่าหากพูดไม่ถูกหู เขาอาจเปลี่ยนใจไม่ไปส่งละยุ่งเลย
“ อ้าว... อยู่สุโขทัยก็เป็นญาติกันละซิ ” ผู้เขียนพูดแบบจริงใจ เพราะรู้สึกเช่นนั้นจริงๆว่า กำแพงเพชรเป็นเมืองพี่-เมืองน้องกับสุโขทัย
“ ไกลกันขนาดนั้น จะเป็นญาติกันได้ไง ” คนขับแท็กซี่ถามกลับด้วยความกังขา อยู่เมืองหลวงมาเนิ่นนานคงซึมซับวัฒนธรรมของสังคมเดี่ยวที่ไม่เกี่ยวข้องกับใครๆ ด้วยเหตุและผลหลายประการ
“ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ พี่ขับรถพาเพื่อนฝูงไปเที่ยว-ไปเยี่ยมเยียนญาติๆ ออกบ่อย แค่ 79 กม.เอง สมัยก่อนเมืองกำแพงเพชรเป็นเมืองหน้าด่านของสุโขทัยยังช่วยรบ-ต่อสู้-ป้องกัน เมืองสุโขทัยด้วยซ้ำ ”
“ ผมก็ไม่อยากไปหมอชิต ๒ เพราะวันนี้รถติดมาก แต่ผมต้องมารับพี่ ผมนับถือวัดแขก ต้องไปรับพวงมาลัยแถวนั้นมาห้อยที่รถประจำ เชื่อไหมว่า...ผมไม่รับใครเลยนะ เพราะผมรับรู้ผ่านจิตที่ย้ำเตือนว่ามีคนเดือดร้อนรอผมให้ไปส่งอยู่ ผมขับมาเรื่อยๆ จนมาเจอพี่นั่นแหละ พอเห็นพี่ผมก็รู้ว่า ต้องเป็นพี่แน่ๆ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาส่งให้ผมมาช่วยเหลือ "
แทบจะปรบมือให้คนขับแท็กซี่ดังๆ จิตวิทยาสุดยอดเลย มันจะจริงบ้าง-ไม่จริงบ้างก็ต้องนับถือละ อย่างน้อยทำให้ผู้เขียนรู้สึกดีขึ้นเป็นกอง
“ โถ…. แสดงว่าที่ทำความดีมาตลอดมันไม่สูญหายเหรอเนี่ยยยย ฮา...ฮา ”
“ บางคนขึ้นแท็กซี่มาก็พูดโทรศัพท์ตลอด ไม่ยอมบอกทางจนขับเลยไปก็มี ” คนขับรถแท็กซี่ รำพึง-รำพัน ให้ฟัง...ราวกับต้องการระบายความรู้สึก
“ ปล่อยเขาซิ เราจะไปสนใจอะไร ผู้โดยสารเขาอยากจะทำอะไรก็ช่างเขาเถอะ ” ผู้เขียนกล่าวตามความคิด
“ ผมก็เครียดนะครับ บางคนขึ้นแท็กซี่มาเป็นคู่ โต้เถียงๆกัน ไปตลอดทาง เจอแบบนี้บ่อยๆ ก็เบื่อครับ ” คนขับแท็กซี่บอกกล่าวเพิ่มเติม
“ ก่อนพี่ลงรถ ผมจะให้พี่ดูบางอย่าง อยู่หลังพนักพิงเบาะน่ะครับ ”
ภาพถ่ายรูปหมู่ และใบประกาศเกียรติคุณความดีงาม จากกระทรวงมหาดไทยที่พนักงานขับรถคันนี้ได้รับนั่นเอง แม้แสงไฟสลัวในรถแท็กซี่จะไม่สว่างนัก แต่ก็สามารถมองเห็นใบหน้าของผู้คนในภาพชัดเจน จำได้คลับคล้ายคลับคลา ถึงเรื่องราว-เหตุการณ์ ที่มีการรายงานข่าว
“ อ้อ…..คุณนี่เองที่ช่วยเก็บเงินคืนเจ้าของ เยี่ยมเลยนะ ขอให้รักษาความดีนี้ตลอดไปนะคะ ”
ก่อนลงรถเขายังให้ถ่ายภาพจิ้งจก ๙ หาง ของจริงที่ได้รับมาจากผู้ชื่นชอบโดยส่วนตัว
แต่สำหรับผู้เขียนไม่มีการสะสมของขลัง หรือสิ่งใดๆเป็นพิเศษ เพราะเชื่อมั่นในคุณความดีที่พยายามสะสมในภพนี้เท่าที่โอกาสจะอำนวย แม้ผลจะไม่ค่อยได้ตอบสนองปรากฏออกมาแบบทันที-ทันใดก็ตาม จึงให้ได้เพียงเงินส่วนที่เหลือจากค่าโดยสารจำนวน ๑๙ บาท ใจหวนคิดอิงความเชื่อตามหลักการทางพุทธศาสนา …..บุญเกื้อหนุนกันมาหรืออย่างไร ?
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
อ่านไปลุ้นไป ดีใจที่จบลงด้วยดีนะคะ..ขอให้กำลังใจค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกสังคมมีหวังค่ะ คนดียังมีให้ชืี่นชม..
แต่จิ้งจกนี่ ขอบายค่ะ เพราะกลัว :-)