การเล่านิทานเพื่อพัฒนากระบวนการคิด
นิทาน เป็นเรื่องเล่าที่ถ่ายทอดความคิด ความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรมตลอดจนคุณธรรม จริยธรรม อันเป็นกลวิธีการปลูกฝังความรู้สึกนึกคิดและแนวปฏิบัติที่สืบทอดจากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่งมายาวนานนับพันปี ทุกชาติ ทุกภาษา ต่างมีนิทานประจำชาติหรือท้องถิ่นของคน นิทานที่ได้รับความนิยมและเผยแพร่อย่างกว้างขวาง มีหลายชุด เช่น นิทานอีสป นิทานเวตาล นิทานชาดก ฯลฯ
การถ่ายทอดนิทานแต่เดิมมาใช้การเล่า การเล่าประกอบภาพ หรือการแสดงต่อมาเมื่อเทคโนโลยีในการสื่อสารที่ความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น นิทานก็ได้แพร่หลายในรูปของสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ซีดี ฯลฯ
สิ่งที่เด็กได้รับจากการฟังนิทาน คือ ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ความรู้ แนวคิด แนวปฏิบัติเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องหรือป้องกันปัญหาในชีวิตประจำวัน
การเล่านิทาน มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
1.บอกชื่อเรื่อง
2.เล่าเรื่อง
3.สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทบทวนความเข้าใจของเนื้อเรื่อง
4.สรุปความคิดรวบยอดของเรื่อง
5.เสนอข้อปฏิบัติเพื่อนำไปใช้
การใช้นิทานในการพัฒนากระบวนการคิด
แนวทางหนึ่งในการใช้นิทานพัฒนากระบวนการคิดของนักเรียนคือการกระตุ้นให้นักเรียนคิด โดยพัฒนากิจกรรมในการเล่านิทานและใช้คำถาม
ขั้นที่ 1 เลือกเรื่องตามความสนใจ
ให้นักเรียนเลือกโดยใช้เสียงส่วนมาก หรือจับฉลาก หรือถามความสนใจอ่าน อยากฟังนิทานเกี่ยวกับอะไร
ชั้นที่ 2 ฟังนิทาน
ฟังจากการเล่า การอ่าน หรือการฟังจากเทปบันทึกเสียง
ขั้นที่ 3 แสดงความคิดเห็น
-นักเรียนเลือกตัวละครหรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งในนิทานที่นักเรียนประทับใจมากที่สุดไว้ พร้อมทั้งเหตุผลที่ประทับใจ
-แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน
-เข้ากลุ่มอภิปราย กลุ่มละประมาณ 5-7 คน เป็นการอภิปรายถึงลักษณะพฤติกรรมของตัวละครทุกตัวและเหตุการณ์ในนิทาน
ขั้นที่ 4 คิดมุมกลับ / คิดต่าง
กระตุ้นให้นักเรียนมีความคิดกว้างขวางขึ้นโดยใช้คำถามให้คิดย้อนคนละทางกับเหตุการณ์ในนิทาน เช่น กำหนดให้เหตุการณ์หรือพฤติกรรมของตัวละครต่างไปจากที่ปรากฏในนิทาน ให้นักเรียนร่วมกันคิดและให้เหตุผล
ขั้นที่ 5 สรุปผล
นักเรียนร่วมกันลงข้อสรุป พฤติกรรมและเหตุการณ์ที่ดี และที่ควรแก้ไขจากเรื่องในนิทานตลอดจนลงข้อสรุปสิ่งที่ควรนำไปปฏิบัติ
สิ่งที่สนับสนุนให้มีกระบวนการคิด คือ การผูกเรื่องและการใช้คำถามในการให้คิด
ประโยชน์ที่ได้รับในการใช้นิทานพัฒนากระบวนการคิด
การเตรียมการในการใช้นิทานพัฒนากระบวนการคิด
1.รวบรวมนิทาน
2.วิเคราะห์แนวทางในการพัฒนานักเรียน
3.วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของนิทานกับกระบวนการคิด
4.เลือกวิธีการจัดกิจกรรม
5.วางแผนการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ ครูเขียนและสนับสนุนให้นักเรียนเขียนโปรดติดตามต่อไปในโอกาสหน้า
ตัวอย่างนิทานพัฒนากระบวนการคิด
นกกระสากับหมาจิ้งจอก
หมาจิ้งจอกตัวหนึ่งเมื่อถูกก้างปลาใหญ่ติดคอ จึงไปขอให้นกกระสาช่วยคีบเอาก้างปลาออก นกกระสาเล็งไปในคอของหมาจิ้งจอกแล้ว จึงใช้ปากคีบเอาก้างปลาออก “จะให้อะไรแก่ข้าเป็นรางวัลบ้าง” นกกระสาทวงถาม หมาจิ้งจอกมองหน้านกกระสาแล้วคำรามในลำคอตอบว่า “เมื่อตอน ที่เจ้าเอาปากคีบก้างปลาในคอข้า ข้าไม่งับปากเจ้าขาดก็บุญแล้ว ยังจะคิดเอารางวัลจากข้าอีกหรือ” นกกระสาได้ยิน ดังนั้นจึงพูดกับหมาจิ้งจอกว่า.......................”
เมื่ออ่านเรื่องนี้แล้ว นักเรียนคิดอย่างไร
1.ตอนท้ายของเรื่อง นกกระสาจะพูดกับหมาจิ้งจอกว่าอย่างไร จึงจะทำให้หมาจิ้งจอกคิดถึงบุญคุณนกกระสา
2.ถ้าหมาจิ้งจอกงับปากนกกระสา จะเกิดอะไรขึ้น
3.นักเรียนอ่านเรี่องนี้แล้ว ได้อะไร ฯลฯ
พื้นที่ปริศนา
ชายชาวสวนคนหนึ่งมีลูกสาวสามคน ลูกสาวคนโตเป็นคนอารมณ์ดีมีใจเมตตาและได้แต่งงานกับพ่อค้าขายข้าว ลูกสาวคนที่สองมีความขยันขันแข็ง ทำงานบ้านเก่งและแต่งงานไปกับลูกชายร้านโอสถในหมู่บ้าน ส่วนลูกสาวคนเล็ก ซึ่งมีความสามารถไม่แพ้พี่สาวทั้งสองคน ยังอยู่ดูแลพ่อที่บ้าน ต่อมาชายผู้เป็นพ่อชราภาพมากจึงคิดแบ่งที่ดินที่มีอยู่ให้ลูกทั้งสามคน ลูกสาวคนโตได้หนึ่งในหกส่วนของพื้นที่ทั้งหมด ลูกสาวคนที่สองได้เป็นสองเท่าของลูกสาวคนโต ส่วนลูกคนเล็ก พ่อ มีเงื่อนไขว่าถ้าไม่แต่งงานจะได้เท่าส่วนที่พี่สาวคนโตได้รับรวมกับอีกครึ่งหนึ่งของพี่สาวคนรองและยังมีเหลือถวายวัดอีก 20 ไร่ แต่ถ้าแต่งงานจะได้เพียงครึ่งหนึ่งของพื้นที่ส่วนที่เหลือทั้งหมดพี่สาวคนโตแนะนำให้น้องคนเล็กแต่งงาน แต่พี่สาวคนรองบอกให้น้องตัดสินใจเองลูกสาวคนเล็กของชายชาวส่วนผู้นั้นจึงตัดสินใจไม่ได้
เมื่ออ่านเรื่องนี้แล้ว นักเรียนตอบได้หรือไม่ว่า
ที่มา สมพร มันทนานุชาติ (2545) การเล่านิทานพัฒนากระบวนการรคิด (อัดสำเนา)
เห็นด้วยมาก ๆ ค่ะ โตมาด้วยนิทาน
ตอนเด็ก ๆ หลังกินข้าวเย็น ชอบนอนฟังนิทานของพ่อกับแม่...สนุก เศร้า ระทึก
จินตนาการ คุณธรรม ระเบียบ วินัย ความขยัน...ได้มาไม่รู้ตัว
นิทานช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กได้มากมายค่ะ
เป็นพื้นฐานของเด็กๆ ทุกคนที่ต้องเรียนรู้ จริยธรรม คุณธรรม และความคิดสร้างสรรค์