54.ราหูอมจันทร์


ราหู

คืนนี้เวลาประมาณ 21.15 น. ได้ยินเสียงชุมชนจุดประทัดกันตูมตาม ๆ ผู้เขียนนึกว่าเกิดอะไรขึ้น.....เปิดประตูออกไปดู....อ้อ ราหูอมจันทร์ เรียกได้หลายชื่อ เช่น จันทรุปราคา  จันทรคาธ จันทรคาส หรือ กบกินเดือน นาน ๆจึงจะเกิดขึ้น...จึงค้นหาข้อมูลมาฝากเพื่อนๆ GTW นะครับ....

ราหูอมจันทร์.....ช่วยชีวิตคนที่โดนคุณไสย์                 

           ว่ากันว่าที่มาของพระราหูและการสร้าง ให้คุณผู้อ่านได้ทราบพอเป็นสังเขป พร้อมประวัติที่เป็นเรื่องจริงทั้งทางด้านคงกระพันชาตรีและปัดเสนียดจัญไร คุณไสย์.....การสร้างพระราหูอมจันทร์นั้น ก็เป็นการถือเคล็ดตามตำนานประวัติของพระราหูที่เป็นอมตะไม่รู้จักตายเนื่องจากได้ดื่มน้ำอมฤต การสร้างวัตถุมงคลประเภทเครื่องรางเป็นรูปราหูนั้น ใช่ว่าจะสร้างเป็นรูปราหุอมจันทร์เท่านั้น แต่ยังมีการสร้างเป็นรูปอมพระอาทิตย์ด้วย ตำนานการสร้างเครื่องรางเป็นรูปพระราหูนี้ กล่าวกันว่าเป็นตำราที่ฤาษีแต่งขึ้นโดยมีฤาษี ๒ ตน ตนหนึ่งบำเพ็ญตบะอยู่ในถ้ำที่ภูเขายุคลธร อีกตนหนึ่งบำเพ็ญตบะในถ้ำที่ภูเขานันทะเขต ฤาษีทั้ง ๒ ตนนี้ได้ร่วมกันสร้างยันต์และคาถาเกี่ยวกับพระราหูขึ้นมา โดยฤาษีตนหนึ่งสร้างยันต์และคาถาสุริยะประภาคา และฤาษีอีกตนหนึ่งสร้างยันต์และคาถาจันทรประภาคาใช้สำหรับการสร้างและปลุกเสกราหูอมจันทร์ การที่ฤาษีทั้ง ๒ ตนนี้ได้สร้างยันต์และคาถาขึ้นมาก็เนื่องมาจากฤาษีทั้ง ๒ ตนได้ทราบจากญาณว่า ต่อไปมนุษย์จะต้องพบกับอันตรายและความทุกข์ยากลำบากและเครื่องรางรูปพระราหูนี้ก็จะสามารถช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดพ้นจากอันตรายและความทุกข์ยากลำบากเหล่านั้นได้           

            ในการปลุกเสกราหู หากว่าสร้างเป็นรูปพระราหูอมพระอาทิตย์จะต้องลงด้วยยันต์สุริยะประภาคา และปลุกเสกด้วยคาถาสุริยะประภาคาว่า " เอกกะจักขุนาริเกลา สุริยะประภาราหูคา หาสัตตะ ระตะนะ สัมปันโน มณีโชโต ระโสระภา สุวัณณะ รัชชะตะ สะมิทธา อะหังวันทามิ เมสะทา กุสเสโต มะมะ กุสเสโต ลาวา มะมะ โตลาโม โทลาโม มะมะ โทลาโม โทลาโมตัง มะมะ โทลาโม ตังคุยหะโม มะมะ คุยหะ โม คุตติโม มะมะ คุตติโม เหกุติ มะมะ เหกุติ "

             ส่วนการสร้างเป็นรูปราหูอมจันทร์ก็จะต้องลงด้วยยันต์จันทรประภาคา และปลุกเสกด้วยคาถาจันทรประภาคาว่า " เอกจักขุ การิเกลา จันทรประภา ราหูคาหา สัตตะ ระระนะ สัมปันโน มณีโชโต ระโสยะถา สุวัณณะ รัชชะตะ สะมิทธา อะหังวันทามิ เมสะทา ยัตถะตัง มะมะ ตังภะยะ ตะวะตัง มะมะ ตังวะตะ ตังเสกา มะมะกาเสตัง โทลามัง มะมะ มังลาโท ตังตัง มะมะ ตังลาโม กาติยัง มะมะ ยะติกา " 

            ในการปลุกเสกและภาวนาไม่ว่าจะเป็นพระราหูอมพระอาทิตย์ หรือราหูอมพระจันทร์จะต้องปลุกเสกให้ได้ ๗ คาบ ตามตำราจึงจะประสิทธิผลทางด้านความศักดิ์สิทธิ์ การสร้างเครื่องรางรูปพระราหู มีการกระทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว ในบทประพันธ์เรื่อง "พระอภัยมณี" องท่านสุนทร (ภู่) มีการกล่าวเอาไว้ถึงเครื่องรางรูปพระราหูเอาไว้เช่นเดียวกันว่า นางละเวง มีเครื่องรางเป็นรูปตราพระราหูแขวนประจำกายอยู่ คืนหนึ่งนอนหลับไปแล้วมี " อ้ายย่องตอด " ซึ่งเป็นผู้มีวิชาแกร่งกล้าทางไสยศาสตร์ ชอบจับสัตว์และดูดเลือดคนกินเป็นอาหารลอบเข้าไปทำร้าย แต่พอเห็นตราพระราหูที่แขวนประจำกายของนางละเวงก็ไม่อาจทำร้ายได้ดังกลอนที่ว่า " เห็นโฉมยงทรงตราพระราหู สังเกดูดังนารายณ์กายสิทธิ์  ด้วยเดชาการุญบุญฤทธิ์ มันกลัวผิดเข็ดหลาบลงกราบกราน " 

            การสร้างเครื่องรางรูปราหู วัสดุที่นำมาสร้างตำราบ่งบอกไว้ว่าจะต้องเป็น " กะลามะพร้าวตาเดียว " คือ กะลามะพร้าวทั้งลูก โดยทั่ว ๆ ไปนั้นจะมีรูปอยู่ ๓ รู เป็นรูงอก ๑ รู และเป็นตาอีก ๒ รู แต่กลับกะลามะพร้าวตาเดียวนั้นถือเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีอิทธิฤทธิ์อยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว แม้ว่าไม่ได้ผ่านการปลุกเสกก็ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ คนโบราณได้กล่าวกันว่า กะลาตาเดียว มีคุณวิเศษนัก

            ๑. ใช้ตักข้าวสารใส่หม้อเวลาหุงหารับประทาน หากว่าประกอบอาชีพธุรกิจ จะทำให้เกิดทรัพย์สมบัติเพิ่มพูนบริบูรณ์ หากเป็นชาวนาชาวไร่ก็จะทำให้ข้าวในนาและพืชไร่งอกงามดี  และหากว่าเป็นข้าราชการก็จะเจริญด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ ได้เป็นเข้าขุนมูลนายเป็นใหญ่เป็นโตกว่าคนอื่น ๆ

            ๒. ใช้ทำเครื่องรางของขลัง เพราะกะลามะพร้าวชนิดนี้ มีอาถรรพ์ในตัวเองอยู่แล้ว หากว่านำมาปลุกเสกประจุอาคมก็จะยิ่งมีอิทธิฤทธิ์มากยิ่งขึ้น

            ๓. ใช้สำหรับเป็นสิ่งป้องกันเสนียดจัญไร คุณไสย์ และภูติผีปิศาจได้

            ๔. บูชาอยู่เป็นประจำจะทำให้เกิดโชคลาภอยู่สม่ำเสมอ ทรัพย์สมบัติและเงินทองจะไหลมาเทมาไม่ขาดสาย

            ๕. ใช้สำหรับเป็นเครื่องมือของหมอโบราณในการตัดต้อที่ตาของคนให้หายขาดได้

            นอกจากกะลาตาเดียวที่ใช้สร้างเป็นเครื่องรางรูพระราหูแล้วก็ยังมี " กะลามหาอุตม์ " ด้วย ที่ตำราบอกว่าใช้สร้างเป็นรูปพระราหูได้เหมือนกันและยังมีอิทธิฤทธิ์ดีกว่ากะลาตาเดียวเสียอีก กะลามหาอุตม์นี้หาพบยากกว่ากะลามะพร้าวตาเดียวหลายเท่านัก ผมเองแม้ว่าจะมีบ้านเกิดอยู่ที่เกาะสมุย และเติบโตที่นั่น ชั่วชีวิตเคยเห็นกะลามหาอุตม์ชนิดนี้ประมาณ ๕ ลูกเท่านั้นเอง

            กะลามหาอุตม์จะพิเศษกว่ากะลาตาเดียวเสียอีก คือกะลาตาเดียวจะมีรูงอก ๑ รู และตาอีก ๑ รู หากกะลามะพร้าวชนิดใดที่มีรูงอกไม่มีรูตาเขาเรียกกันว่า " กะลาตาบอด " แต่ถ้าเป็นกะลามหาอุตม์จะไม่มีทั้งรูงอกและรูตา ทึบหมดทั้งลูก กะลามหาอุตม์ชนิดนี้หาพบยากจริง ๆ คนโบราณถือว่าเป็นของดีที่มีคุณวิเศษหลายอย่างเช่น มหาอุตม์ และโชคลาภรวมทั้งคุณวิเศษด้านอื่น ๆ ที่กะลาตาเดียวจะมี กะลามหาอุตม์ก็มีเช่นนั้นด้วย และจะมีกะลามหาอุตม์ไว้ในครอบครอง

            การแกะกะลาอาถรรพ์นี้ ให้เป็นเครื่องรางรูปพระราหู จะมีทั้งการแกะเป็นรูปพระราหูอมพระอาทิตย์ หรือพระราหูอมพระจันทร์ แต่ส่วนมากมักจะแกะเป็นรูปพระราหูอมจันทร์มากกว่า แต่บางทีอาจจะสร้างเป็นแบบอย่างเดียวกันโดยด้านหน้าลงยันต์สุริยะประภาคา ส่วนด้านหลังลงยันต์จันทรประภาคา หรือบางครั้งก็ลงยันต์แยกจากกันคนละอัน อันหนึ่งสร้างเป็นรูปพระราหูอมพระอาทิตย์ ลงยันต์สุริยะประภาคา ส่วนอีกอันหนึ่งสร้างเป็นราหูอมพระจันทร์ ลงยันต์จันทรประภาคา แล้วเอามาประกบหน้า-หลังกัน เวลาบริกรรมภาวนาคาถาถ้าเป็นเวลากลางคืนก็ใช้คาถาจันทรประภาคาแล้วนำไปใช้ ตำราบอกว่าให้เอาน้ำมันหอม ๙ กลิ่น เจิมรูปพระราหูเสียก่อนจะทำให้มีอิทธิฤทธิ์มากยิ่งขึ้น

            คุณวิเศษของราหูอมพระอาทิตย์และราหูอมิพระจันทร์นี้ ตำราแตาโบราณกล่าวไว้อย่างน่าทึ่งทีเดียว คือกล่าวไว้ว่า " ผู้ที่สนใจจะทำยันต์ทั้ง ๒ นี้ ให้หากะลามะพร้าวตาเดียวเอามาแกะเป็นรูปพระราหูอมจันทร์อย่างหนึ่ง "  พระราหูอมพระอาทิตย์อีกอย่างหนึ่ง จึงให้ลงพระยันต์สุริยะประภาคาที่พระอาทิตย์ และลงยันต์จันทรประภาคาที่พระจันทร์ พระยันต์ทั้ง ๒ นี้เป็นของหาค่ามิได้จะหาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยากยิ่ง แม้นว่าสมบัติบรมจักรพรรดิก็ดี สมบัติพระอินทร์หรือดวงแก้วมณีโชติก็หาอาจเปรียบเทียบพระยันต์ทั้ง ๒ นี้ได้ ผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศและอยากจะมั่งมีทรัพย์สินเงินทองก็ให้สร้างขึ้นเถิด เมื่อจะทำพระยันต์ทั้ง ๒ นี้ให้แต่งเครื่องบัตรพลี ขวัญข้าว ข้าวตอก ดอกไม้ ธูปเทียน เท่ากับกำลังอาสนะขึ้น ๒ ที่ บูชาสักการะด้วยข้าวตอกดอกไม้ ธูปเทียนบูชาพระอาทิตย์ สิ่งละ ๖ ที่ บูชาพระจันทร์สิ่งละ ๑๕ ที่ ให้เลือกเอาวันที่มีฤกษ์ดีหรือวันเพ็ญสุริยะคราส วันจันทคราส เมื่อกระทำนั้นให้ชำระล้างตัวให้บริสุทธิ์สะอาดเสียก่อนแล้วจึงกระทำ พระยันต์ทั้ง ๒ นี้เวลากลางวันให้บูชาและปลุกเสกด้วยคาถาสุริยประภาคา เวลากลางคืนให้บูชาและปลุกเสกด้วยคาถาจันทรประภาคา เมื่อกระทำแล้วให้เสกด้วยคาถาที่ลงนั้น ๑๐๘ คาบเสร็จแล้วจึงเอายันต์สุริยะประภาคาใส่ในตลับทอง เอายันต์จันทรประภาคาใส่ตลับเงินให้จุณเจิมด้วยแป้งหอม น้ำมันหอมแล้วเอาบูชาไว้เมื่อจะใช้ให้ใช้ตามอุปเท่ห์ดังกล่าวนี้

            ถ้าหากท้าวพระยาเจ้านายท่านโกรธให้เอายันต์สุริยะประภาคานั้นจุณเจิมด้วยเครื่องหอม จึงเสกด้วยคาถาสุริยะประภาคานี้ให้ได้ ๓ ที จึงนำเอาติดตัวไป ท่านเห็นหน้าเข้าหายโกรธเคืองสิ้นแล

            ถ้าบริวารหลบหนีไปให้เขียนชื่อผู้ที่หลบหนีไปใส่กระดาษแล้วเอายันต์จันทรประภาคาทับ เสกด้วยคาถาจันทรประภาคาผู้นั้นจะหนีมิพ้นเลย ถึงหนีไปก็กลับคืนมาแล

            ถ้าหากภรรยาหรือสามีไม่รักใคร่เอาใจออกห่างคิดจะหนีไป จึงให้เขียนชื่อเขาเข้าเอายันต์จันทรประภาทับเสกด้วยคาถาจันทรประภาคา เขาจะบังเกิดความรักใคร่ไปมิพ้นเราเลย ถึงหย่าร้างกันแล้วก็กลับมาดีกัน 555

            ผิว่าจะปลูกพืชผมให้เจริญงอกงามทุกชนิดจึงให้เอายันต์จันทรประภาคามาเสกด้วยคาถาจันทรประภาคาแล้วให้ดสวดมนต์บทนี้อีกบทหนึ่งคือ " โอม เชยยะสัมปัตติ มหาเชยยะสัมปัตติ เชยยันติ โอมทุเร สวาหะ เลิกมัตคะ สวาหะฯ ๗ ที " แล้วทำจิตให้ดีอธิษฐานเอาเถิดได้ผลงอกงามเจริญนัก

            ผิว่าจะเข้าประจัญด้วยข้าศึกให้เอายันต์สุริยะประภาคาจุณเจิมด้วยเครื่องหอมเสกด้วยคาถาสุริยะประภาคา แล้วจึงนำติดตัวไปด้วยเป็นเครื่องป้องกันอาวุธ หอก ดาบ หน้าไม้ ปืนไฟ หาอันตรายมิได้เลย

            จากตำราที่กล่าวเอาได้นี้ จะเห็นได้ว่าเครื่องรางรูปราหูอมพระอาทิตย์ และราหูอมพระจันทร์มีคุณวิเศษแบบที่เรียกได้ว่า คราบจักรวาลเลยทีเดียว เดิมทีนั้นตำราไสยศาสตร์ชนิดนี้เป็นตำราไสยศาสตร์ของเวียงจันทน์ประเทศลาว สืบต่อกันมาก็ได้แพร่หลายเข้ามาสู่ประเทศไทย เมื่อครั้งยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ สำนักที่นำเอาวิชาไสยศาสตร์แขนงนี้เข้ามาจากประเทศลาว และได้สร้างเครื่องรางรูปราหูนั้นก็มีแต่วัดศีรษะทอง จังหวัดนครปฐมเท่านั้น ที่สร้างได้โด่งดังและมีชื่อเสียงติดอันดับเครื่องรางของประเทศไทย ราหูอมจันทร์ของหลวงพ่อน้อยวัดศีรษะทอง ท่านแกะขึ้นตาบแบบตำราทุกประการมีทั้งลูกศิษย์ทั้งฆราวาส ทั้งพระสงฆ์ ชาวบ้านหลายคนมาช่วยกันแกะจึงทำให้รูปราหูอมจันทร์ของท่านมีหลายฝีมือ ราหูอมจันทร์บางอันแกะเป็นรูปใบเสมาขนาดเล็กใช้สำหรับห้อยคอ และมีขนาดใหญ่ไปจนถึงแบบชนิดบูชาที่เรียกกันว่า " สามเกลอ " เพราะเป็นการเอากะลาตาเดียวทั้งลูกมาแกะเป็นรูปราหูอมจันทร์ ๓ หน้า เมื่อแกะเสร็จแล้วก็จะนำไปให้หลวงพ่อน้อยท่านปลุกเสกและลงเหล็กจาร

            สำหรับราหูอมจันทร์ของหลวงพ่อน้อย เท่าที่เห็นมาจะมีการลงเหล็กจารกำกับไว้ทุกอันบางอันลงเหล็กจารน้อย บางอันลงเหล็กจารหลายตัว อักขระที่ลงจารในราหูอมจันทร์ก็เป็นตัวหนังสือขอมลาว ไม่เหมือนกับตัวหนังสือขอมไทยที่เราพบเห็นกันโดยทั่วไป เพราะต้นตำรับของวิชานี้มีต้นตอมาจากเวียงจันทน์ การที่ราหูของพลวงพ่อน้อยมีรอยเหล็กจารหลายท่านมีที่หลวงพ่อน้อยลงเอง มีทั้งลูกศิษย์ที่เป็นพระสงฆ์ท่านช่วยลงให้ ถ้าเป็นราหูอมจันทร์ที่หลวงพ่อน้อยท่านลงเหล็กจารเองตัวอักขระจะมีน้อยไม่ค่อยเป็นระเบียบ รอยจารไม่ค่อยลึกและคมชัด เพราะการลงเหล็กจารท่านจะเลือกลงให้แต่เฉพาะในระยะเวลาที่เกิดสุริยคราส และจันทรคราส ซึ่งมีระยะเวลาอันสั้นท่านจึงเลือกลงแต่อักขระที่เป็นหัวใจคาถาที่สำคัญเท่านั้น แต่ถ้ามีคนแกะราหูอมจันทร์มาให้ท่านจำนวนมากก็จะมอบให้ศิษย์ที่เป็นพระสงฆ์เป็นผู้ลงเหล็กจารแทน ซึ่งรอยจารของลูกศิษย์ท่านมักจะลงอักขระหลายตัวเป็นระเบียบเรียบร้อยและรอยจารคมลึกชัดเจน ฉะนั้นราคาในการเล่นหาโดยทั่วไป เขาจึงให้ความนิยมกับราหูอมจันทร์ที่มีรอยเหล็กจารน้อยตัว และไม่ค่อยเป็นระเบียบไม่ลึกคมชัด เพราะเป็นรอยเหล็กจารของหลวงพ่อน้อย

             ส่วนประสบการณ์ของราหูอมจันทร์ของหลวงพ่อน้อยที่ได้รับฟังมา มีหลายทางทีเดียวคือ

            ๑. คงกระพัน

            ๒. ป้องกันเสนียดจัญไร คุณไสย์ ภูติผีปิศาจ

            ๓. เมตตามหานิยม

            ๔. ทำน้ำมนต์อาบกินแก้โรคภัยไข้เจ็บ

            ๕. โชคลาภ

            ๖. ป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่จะเข้ามาสู่บ้านเรือนที่อยู่อาศัย

            ๗. กำบังกาย

             นี่เป็นเรื่องจริงที่ผู้เขียนค้นหามาให้เพื่อน ๆได้เห็นถึงอานุภาพแห่งพระราหู และมีความเกี่ยวข้องกับคุณไสย์ มนต์ดำ       ไสยศาสตร์โดยตรงอย่างไรบ้าง หากไม่เชื่อก็อย่าได้ลบหลู่

 ที่มา : http://www.devalai.com/story.htm

คำสำคัญ (Tags): #ราหู
หมายเลขบันทึก: 470919เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2011 21:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 15:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท