ชีวิตต้องสู้ ตอนหมดโปรโมชัน อย่าหมดใจรัก


คุณพาภรรยาคุณไปพักร้อนครั้งสุดท้ายเมื่อไร

 

เตี่ยบอกว่าไม้ไผ่นี่มีประโยชน์คือ ใช้ตีสัตว์มีพิษเช่นตะขาบได้ในยามฉุกเฉิน ที่บ้านตีงูเขียวหางไหม้ได้ถึงสามตัวแล้ว เตี่ยบอกอีกว่าเอาไว้ใช้ตีหัวขโมยได้ด้วย แต่แม่ค้านว่าจะโดนขโมยมันตีเสียก่อนแก่แล้วจะไปทันอะไรคนหนุ่ม หนูก็ได้แต่ขำช่วงโปรโมชันในการคบกันคงหมดไปแล้ว ตอนนี้พูดอะไรมามักจะขัดกันตลอด มีแต่ความรักความห่วงใยที่เพิ่มขึ้นมาแทน - อำพร วุฒิฐิโก

Ico48



ตอนแต่งงานใหม่ๆ ผมยื่นข้อเสนอจะพาภรรยาไปฮันนีมูนที่หมู่บ้านชนบทนอกเมือง ที่ Winconsin Dells ถ้าเบื่อก็มาเที่ยวในเมืองเพราะเป็นสถานทีท่องเที่ยว พูดง่ายๆให้เห็นภาพพจน์ คล้ายๆกับงานวัดบ้านเรา มีชิงช้าสวรรค์ มีการละเล่นต่างๆ ดูท่าจะสนุกดี  แต่ภรรยาไม่หลงกล บอกเธอไปคนเดียวเถอะ แต่งทั้งทีฉันต้องไปที่ฮาวาย  ว่าแล้วเธอก็จัดการบุคตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม บินไปเลย ลืมเสียเถอะ Winconsin Dells เพราะมันใกล้เกินไป


เห็นต้อยเอารูปพี่นิรันดร์มาให้ดู  เลยเอารูปที่แต่งมาให้ดูด้วย  ฮันนีมูนที่ฮาวาย  ไม่รู้ว่าคนแต่งก่อนใคร

ถ่ายที่เพริธ์ ฮารเบอร์  ฮาวาย

พอลงจากเครื่องบินที่ฮาวายได้กลิ่นดอกไม้คล้ายๆกับดอกมะลิ หรืออะไรก็จำไม่ได้ หอมจริงๆ เหมือนกับกลับมาเยือนบ้านเมืองเมืองนอน - ประเทศไทย

 อากาศ ทะล ภูเขา คล้ายเมืองไทยมากเพราะเป็นเขตเมืองร้อน แต่ที่ต่างกันก็คืออาหารไม่เป็นเรื่องเลย ต้องไปกินพิซซ่า (ที่ผมทำเองได้ และทำอร่อยกว่า) หรือแฮมเบอรเกอร์  มีบางมื้อไปกิน อาหารฮาวาย กินได้ไม่อั้น พอกินได้ แต่ราคาแพงมากหัวละ ๓๐- ๔๐ เหรียญต่อคน  ที่ชอบอยู่อย่างเดียวคืออาหารบุฟเฟ่ญี่ปุน ราคาไม่แพง คงไม่เกิน ๒๐ เหรียญต่อคน

ไปดำน้ำดูปลาตามเกาะต่างๆ ก็สู้ไปดำน้ำที่เกาะเสม็ด หรือเกาะล้านเมืองไทยไม่ได้

ดำน้ำไปก็คิดถึงเมืองไทยไป คนเราถ้าได้เจอของสวยของงามที่สุดมาก่อนแล้ว พอเห็นสิ่งที่เป็นรอง ใจมันก็คิดว่าอย่างนั้นๆ อะไรๆก็สู้เมืองไทยไม่ได้ ต้องมีการเปรียบเทียบ

พอมีลูกมีเต้า มัวแต่ยุ่งกับลูก ไปรับไปส่ง พาไปเรียนเปียโน ไปว่ายน้ำ ไปเล่นเทนนิส ไปเล่นสเก็ตน้ำแข็ง ไปเล่นสกีที่ภูเขา ไปเรียนภาษาไทย ไปเรียนพิเศษ  คุณพูดมาเถอะ ผมทำมาทั้งนั้น 

ลืมภรรยาไปเลยครับ

สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น ปีนี้เอง ภรรยาพาผมไปเที่ยว เรือสำราญ (Princess Cruises) ไปเที่ยวอลาสก้า จัดการทุกอย่างให้หมด ผมมีหน้าที่อย่างเดียวที่ชอบ คือถ่ายรูป ใจมันก็คิดแบบเดิม ไปเที่ยวทะเล  ที่ไหนจะไปสนุกเท่าประเทศไทย นี่ขนาดเวลาผ่านมาแล้วร่วมสามสิบปี ยังไม่ยอมเปลี่ยนใจ

แต่ความจริงก็คือความจริง ภรรยามีความสุขมากๆ เพราะรูปภาพของเธอทุกรูปมีแต่รอยยิ้ม  พร้อมกับเสียงหัวเราะ  

ผมสันนิษฐานเอาเองว่า เนื่องจากการไปเที่ยวในเรือใหญ่ๆ  อาหารทุกมื้อรวมอยู่แล้ววันละ ๕๐ เหรียญ  คิดเสียว่ากินฟรีครับ  กินๆๆๆๆๆ กินเช้า กินกลางวัน กินเย็น  ซ้ำตอนเย็นต้องแต่งชุดสวยๆ เหมือนกับคุณไปงานแต่งงาน ต้องผูกไทค์  สาวๆชอบมาก เพราะเป็นโอกาสอันดีงาม ที่จะโชว์แหวนเพชร ตุ้มหู  ทุกคนมีความสุขครับ  ซ้ำพนักงานเสริฟเป็นคนไทย พูดไทยเสียอีกด้วย  ทุกวันมาถามผมกับภรรยาเสมอๆว่า จะทานอะไรวันนี้  ภรรยานี้ยิ้มแก้มปลิ เพราะทุกวันมีแต่ทำกับข้าวให้สามีทาน ตอนนี้มีคนทำให้ทานบ้าง มีความสุขมากๆ  สุขจริงๆ  วันสุดท้ายเธอไปบอกให้ทริปพนักงานคนไทยมากๆ เพราะ Make her happy จริงๆ

ถึงแม้จะหมดโปรโมชันแล้วก็จริง  พาภรรยาไปเที่ยวพักร้อนกันบ้างครับ  เอาอย่างที่ภรรยาไม่ต้องทำกับข้าว ไม่ต้องเตรียมของ  ไม่ต้องคิดไม่ต้องเตรียมอะไร  ตื่นมาก็กินเลย เสร็จแล้วก็พาเธอไปเที่ยว ให้เธอดูแหวนเพชรงามๆ  ถึงจะซื้อให้จริงๆ รับรองเธอไม่อยากได้หรอกครับ  

ผลเป็นอย่างไร ก็อย่างลืมเอามาเขียนเป็นวิทยาทานให้กับบรรดาสามีอย่างผม ที่วันหนึ่งๆ ไม่ทำอะไรนอกจากจะมัวแต่มาเสียเวลาเขียนบล๊อค ภรรยาตำหนิทุกวันว่ามานั่งอยู่หน้าคอมอยู่ได้  หัดทำงานถูบ้านเช็ดบ้านบ้างซิ พ่อคุณ พ่อมหาจำเริญ

 


 

 

ความใหญ่ของเรือสำราญ ต้องถ่ายรูปสองครั้งจึงจะถ่ายได้หมดลำ


ภูเขาน้ำแข็ง



อาหารเย็นบนเรือ ต้องใส่สูทถึงจะให้เข้าไปในห้องอาหาร  มีพนักงานเป็นคนไทยมาบริการให้ทุกวัน บอกว่าจะสั่งอะไรก็ได้ สั่งมากกว่าหนึ่งรายการก็ไม่คิดเงิน เขาบอกว่าไม่เคยเห็นคนไทยมาเป็นคณะใหญ่ๆ (ร่วมร้อยกว่าคน) แบบนี้  ตอนแรกเขาคิดว่าพวกผมเป็นข้าราชการไทยมาเที่ยว  คุยกันสนุกถูกคอครับ

 


อาหารว่างตอนกลางวัน เป็นเนย ขนมหวานของฝรั่ง ผมละไม่แตะเลย มีก๋วยเต๊๊ยวน้ำให้ด้วย คนทำเป็นคุกฟิลิปปินส์ รสชาดไม่อยากบอก ต้มมาม่าเอาเองอร่อยกว่า


หนังกลางแปลงบนหัวเรือ นอนดูกันตามสบาย แต่หนาวมากๆ มีผ้าห่มแจกให้ แต่ก็ทนไม่ไหว ถ้ามาดูตอนฮันนี่มูนครั้งแรกก็คงจะยอมทน แต่ครั้งที่สอง หนังกลางแปลงจ๋า พี่ต้องขอลาก่อน


 

สังเกตุให้ดีจะเห็นน้ำสองสีมาประจบกัน สีฟ้าใสๆ เป็นน้ำลงมาจากภูเขา สีขุ่นๆ มาจากแม่น้ำ ปลาแซลมันเยอะครับ  นกนางนวลจะมาหาปลากินที่ตรงนี้




คนสมัยก่อนเขาอยู่ก่อนอย่างนี้แหล่ะครับ  บ้านเล็ก บันไดสูงๆ เป็นที่เก็บอาหาร ตอนกลางคืนก็เอาบันไดออก หมี หรือสัตว์ต่างๆ ก็มาขโมยอาหารไม่ได้  ไกด์เขาเล่าว่า มีหนุ่มสาวสองคน มาซื้อที่อยู่บริเวณแถวนี้ อยู่ได้สามสี่ปี ภรรยาท้อง เธอขอกลับไปอยู่ในเมืองแทน ทนไม่ได้ คิดดูครับน้ำไฟไม่มี เข้าห้องน้ำก็ต้องไปตามป่า ตอนกลางคืนหนาวก็ต้องเผาฟืนแทน  ทีวี ไม่มีดู คอมพิวเตอร์ไม่มีจะอ่านหรือเขียนบล๊อคก็ไม่ได้ กลางคืนตอนมีปืนวางไว้ใกล้ เผื่อหมีมาเยี่ยมจะได้ป้องกันตัวเอง แล้วจะคลอดลูกอย่างไร ถ้าเป็นโสดก็น่าทดลองดูนะครับ  ชีวิตเสรี สุขแต่ไม่สดวกสบาย



ภูเขาที่เห็นเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของอเมริกาภาคเหนือ ปีหนึ่งจะโผล่มาให้เห็นชัดๆ ละให้ประมาณหกเจ็ดวัน ที่เหลือมีแต่หมอกมาปกคลุมไว้  อุปมาเหมือนความสุขที่มาให้เห็นไม่กี่วัน แต่ที่เหลือตลอดปี ๓๕๙ วัน มีแต่ความทุกข์ คุณพอจะเห็นหรือยังครับ จะทุกข์จะสุขก็พึ่งพาอาศัยไม่ได้ ยิ่งรักมากก็ทุกข์มาก


ตอนกลางคืน นอนบนเรือ ตอนกลางวันไปเที่ยว Exertion ตอนแรกๆผมก็งงๆ ไม่รู้ว่าคืออะไร เป็นการผจญภัยครับ  เขามีให้เลือกตามใจชอบ แต่ต้องเสียเงิน คุ้มครับ มาแล้วอย่างอยู่แต่ในเรือ ออกมาผจญภัยบนบกบ้าง บางอย่างตื่นเต้นมากๆ ที่เห็นในรูปไปเที่ยวที่น้ำตก White water ตาม Canyon มีอาหารกลางวันแจกให้กินด้วย ภรรยาชอบมากๆ กลัวผมจะผลัดตกเรือ เพราะมัวแต่ถ่ายรูป ถ้าตกน้ำคงจะไม่รอด เพราะน้ำเย็นมากๆ ลงไปก็แข็งเลย ยังไม่ทันว่าย ข้างทางเป็นภูเขา ต้นไม้เขียวๆ ดูแล้วลืมบ้านลืมช่อง 


 

ห้องน้ำห้องส้วม น่ารักดี ไม่มีปัญหาในการใช้งาน ออกแบบได้ดีมาก

ห้องธรรมดา ไม่มีหน้าต่าง เหมือนอยู่ในคุกดีๆนี่เอง ภรรยาคุณหมอที่มาด้วยกัน บ่นกับสามีว่า ถ้าไม่ได้อยู่ห้องดาดฟ้าแล้วคราวหลังอย่าชวนมา ผมว่าสามีคงเห็นด้วย คราวหน้ามาคนเดียว อาจจะสนุกกว่าก็ได้ ใครจะไปรู้

 

ห้องน้ำห้องนอนในเรือ เล็กๆ อยู่แล้วอึดอัด ถ้าเลือกห้องที่มีดาดฟ้า เวลานอนเห็นทะเล เห็นท้องฟ้า ก็ต้องจ่ายสูงขึ้นมาเป็นสามเท่า  พนักงานคนไทยที่เป็นคนทำความสะอาด บอกผมว่า ถ้าพี่อยู่ห้องธรรมดา มาเที่ยวได้สามครั้งครับ เพราะเอาจริงๆ ตอนนอนมันก็มืดแล้ว ไม่เห็นอะไร ตอนเช้าก็ไปเที่ยวบนบก มีเวลาอยู่ในห้องไม่กี่ชั่วโมงหรอกครับ

 

ท้ายเรือสวยมากๆ ตอนเช้าๆ ไม่มีคนตื่น เราก็ว่ายของเราคนเดียว น้ำอุ่นครับ เคยได้ยินเพลงน้ำกับฟ้ามั้ยครับ   อย่างไรก็อย่างงั้น สุขเพราะอยู่คนเดียวกับธรรมชาติ

ได้ว่ายน้ำแล้วมองขึ้นไปบนฟ้า เป็นรูปภาพข้างล่างครับ ใจมันสงบ มีความสุขครับ

ภาพนี้สวยมาก ถ่ายตอนเช้าจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า  แต่ไม่เคยเจอสักวัน เหมือนความรักความสุข ที่คอยหา  ยิ่งตามก็ยิ่งไม่เจอ

รถไฟขึ้นภูเขา โรแมนติกมากๆ เห็นแล้วบอกได้คำเดียว ไม่มาแล้วจะเสียใจ

เรืออีกลำจอดข้างๆ ดูไกลๆก็ไม่ใหญ่ แต่จุคนมาเที่ยวได้พันคน พนักงานอีกสองพันคน  ทั้งหมดเบ็ดเสร็จสามพันคน

 

 

ท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์ตก เหงาและวังเวง ชีวิตเราก็เป็นเช่นเดียวกัน สักวันก็ต้องตกไปเหมือนดวงอาทิตย์ จะอยู่ค้ำฟ้าก็หาไม่

 

แถมด้วยดอกไม้สวยๆ ให้กำลังใจคนอยู่เมืองไทยครับ 


คำสำคัญ (Tags): #พักร้อน#happy ba
หมายเลขบันทึก: 470873เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2011 09:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 03:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)

สวัสดีค่ะ

สบายดีนะคะ

บันทึกนี้น่ารักจัง

ต้องหมั่นไปฮันนีมูน อยู่เป็นนิจ เพื่อชีวิตคู่ ที่สดใส ใชไหมคะ :)


 สวัสดีครับคุณปู

บ้านที่เห็นข้างหลังผม คงเป็นสามีภรรยากัน ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่เลย อายุประมาณสามสิบเศษๆ ไม่มีลูก ทะเลาะกันทุกวัน ข้างบ้านได้ยินหมด  แต่ถึงจะด่ากันทุกวัน ก็ยังรักกันดี ตอนเช้าก็ออกไปทำงานพร้อมกัน ตอนนี้ไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ผมเลยได้บทเรียนว่า ให้ภรรยาเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ครอบครัวจะไม่เดือดร้อน ชีวิตจะปลอดภัย อายุจะยืนยาว ความสุขจะมีมากขึ้น

สวัสดีค่ะคุณพี่คนไกลบ้าน

บันทึกเรื่องนี้ของพี่ บอกได้เลยว่าพี่เป็นคนโรแมนติกดี ใส่ใจคนรักมากด้วย (หายากนะคะ)

ขอบอกว่าพี่ถ่ายภาพสวยมาก ดีใจที่มีคำพูดของหนูได้มาอยู่ในบันทึกดีๆของพี่ด้วย

อยากกดlikeให้กับคำพูดที่ว่า

ถ้ามาดูตอนฮันนี่มูนครั้งแรกก็คงจะยอมทน แต่ครั้งที่สอง หนังกลางแปลงจ๋า พี่ต้องขอลาก่อน

สักร้อยครั้งเลยค่ะ ขำมากๆ

ขอบคุณที่มาให้กำลังใจในบันทึกไม้ไผ่ป้องกันยุงนะคะ

...สวัสดีอีกครั้งเจ้าค่ะ...อยากถามว่า..เห็นน้ำแข็งล้านปีละลายหรือเปล่าเจ้าคะ..เพราะเห็นในข่าวที่เขาถ่ายๆมาให้เห็นไม่เหมือนในรูปเจ้าค่ะ...ยายธี

  • ตามกล้วยไข่มาติดๆ
  • 555
  • เห็นภาพแล้วอยากไปมาก
  • แต่ไม่อยากไปคนเดียว
  • วิวสวยมาก น่าจะเหมาะกับการเขียนหนังสือ
  • ผมจะมีโอกาสเขียนเล่าเรื่องแบบนี้ให้อ่านไหมเนี่ย
  • 555

สวัสดีค่ะคุณคนบ้านไกล อ่านเรื่องของคุณแล้วขอบตาร้อนผ่าว อิจฉาตาร้อนภรรยาคุณจริงจริ๊งที่มีสามีน่ารักแบบนี้ ภรรยาทุกคนจะอายุเท่าไรก็คงไม่หมดไฟรักหรอก ให้คุณหมั่นเติมเชื้อไฟไว้ตลอดอย่าให้เหมือนเรื่องโจ๊ก ขอเล่าหน่อย สายชลกับนางฟ้า คู่รักที่อยู่กันมานายจนอายุร่วม 80 ปี วันหนึ่งสายชลไปพบรองเท้าบู้ทถูกใจมาก เลยซื้อรองเท้าบู้ทสวมกลับบ้าน แล้วสายฃลถามนางฟ้าว่า "นางฟ้าดูซิว่าวันนี้พี่มีอะไรแปลกไหม " นางฟ้า "ไม่เห็นมีอะไรแปลกใหม่เลย" สายชลนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงเดินเข้าไปในห้อง แล้วเปลื้องเสื้อผ้าออกหมดกลับออกมาพร้อมกับรองเท้าบู้ทใหม่ที่สวมอยู่ แล้วถามนางฟ้าว่า "นางฟ้าเห็นหรือยังสายชลมีอะไรแปลกใหม่ไหม" นางฟ้าแสดงสีหน้าปกติพร้อมตอบว่า "ไม่เห็นมีอะไรเลย" สายชลทนไม่ไหว "นี่ๆๆดูซิไอ้หนูของสายชลกำลังจ้องมองมันอยู่ไงละ เห็นยัง " นางฟ้าตอบว่า "นี่สายชลเธอน่าจะซื้อหมวกใบใหม่ให้ไอ้หนูของเธอแหงนไปดูหมวกเธอดีกว่านะ" แจ๋วหลบจบแล้วค่ะ อย่าคิดมากฟังสนุกๆพอคลายเครียดนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณ คน บ้านไกล

ไม่ได้แวะมาอ่านบันทึกของคุณนานพอควร สบายดีนะคะ

อ่านบันทึกนี้แล้วเพลินไปกับบรรยากาศ น่าดูชมมากค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

ถึงคุณน้อง กล้วยไข่

บอกได้คำเดียวว่า ชอบฝีมือการเขียนของคุณน้องเป็นอย่างมาก

อ่านไปก็ขำไป ซ้ำยังออกมาต่อยอดได้อีกด้วย

เป็นที่มาของบันทึกนี้ครับ

อาจารย์ยังหนุ่มอยู่

ยังมีโอกาสอีกมากครับ

รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี ถ้าจะให้ดีควรจะหาคนมาดูแลด้วย

จะได้มีความสุขมากๆเหมือนผม

 คุณยายธี

ที่ผมไปดู สำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าจะให้เห็นเหมือนในหนังทีวี ต้องหาทางไปเองครับ

สวัสดีครับครู 

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองฟังเรื่องนี้เป็นภาษาอังกฤษดูบ้างครับ ได้มานานแต่ไม่กล้าจะนำมาลง

THE NEVER ENDING SOAP OPERA OF MARGARET & BERT . . . . .

Description: 1.40146530@web110304.mail.gq1.yahoo.com

Bert always wanted a pair of authentic cowboy boots, so, seeing some on sale, he bought them and wore them home.

Walking proudly, he sauntered into the kitchen and said to his wife, "Notice anything different about me?" 

Margaret looked him over. "Nope." 

Frustrated, Bert stormed off into the bathroom, undressed and walked back into the kitchen completely naked except for the boots. 

Again he asked Margaret, a little louder this time, "Notice anything different NOW?" 

Margaret looked up and said in her best deadpan, "Bert, what's different? It's hanging down today, it was hanging down yesterday, it'll be hanging down again tomorrow." 

Furious, Bert yelled, "AND DO YOU KNOW WHY IT'S HANGING DOWN, MARGARET?" 

"Nope. Not a clue", she replied. 

"IT'S HANGING DOWN, BECAUSE IT'S LOOKING AT MY NEW BOOTS!!!!" 
Without missing a beat Margaret replied, "Shoulda bought a hat, Bert. Shoulda bought a hat."

สวัสดีครับคุณปริม 

หายไปนานนึกว่าจะไปปลีกวิเวกเหมือนอาจารย์ ดร MeePole 

ดีใจที่ยังได้ยินข่าวของคุณปริมอีกครับ

ไปเยี่ยมอาจารย์ ดร MeePole ได้ที่นี้ และที่นี้

 

สวัสดีค่ะ คุณบ้านไกล ยังไม่ปลีกวิเวกไปไหนไกลค่ะ รอช่วง promotion รอบใหม่เหมือนกันค่ะ หุ หุ

ขอบคุณค่ะที่กรุณาแวะไปเยี่ยมเยือนให้กำลังใจ meepole อยู่เสมอ นี่ก็มาตาม link แวะมาที่นี่เป็นครั้งคราว ยังคงคิดถึงหลายๆคนที่เคยมาแวะคุย อ่านเรื่องราวกัน และดีใจทุกครั้งเมื่อได้อ่านหรือพบเห็นข้อเขียนของแต่ละคนเหมือนได้เจอหน้ากัน มันก็แปลกดี ทั้งๆที่ไม่เคยพบกันแต่เหมือนว่ารู้จักคุ้นเคยกัน กับคุณปริม เมื่อวานเพิ่งเอ่ยถึงว่าคิดถึงเธอทุกครั้งเมื่อเห็นภาพถ่ายธรรมชาติสวยๆ ของอ.ขจิต ก็ตามอ่านไม่งั้นอาจล้าหลังได้

สวัสดีค่ะคุณ คนบ้านไกล และ คุณ mee_pole,

ขอบคุณค่ะสำหรับความระลึกถึง ปริมก็ไม่ได้ไปไหนไกลหหรอกค่ะ หลายเดือนที่ผ่านมาไม่ได้มานั่งเขียนบันทึกเพราะมัวแต่เขียนรายงานส่งเจ้านายค่ะ

ก็มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เปลี่ยนหน้าที่ ย้ายบ้าน ก็เลยได้แแต่บอกคิดถึงในใจ แต่ไม่ได้ทักทายค่ะ

ปริมแอบแวะเข้าไปปอ่านบันทึกของคุณ ที่ มุมเงียบๆ ของคุณ mee_pole บ่อยๆค่ะ แต่ไม่ได้บอกเฉยๆ คงไม่ว่ากันนะคะ

ก็ว่าจะหยิบกล้องมาปัดฝุ่นอีกทีค่ะ ปีใหม่นี้คงได้ฤกษ์ดี

ชื่นใจกับมิตรภาพผ่านตัวหนังสือนี้จริงๆ ค่ะ... งดงาม... ขอบคุณนะคะ

สวัสดีวันสุขใจค่ะ

สวัสดีค่ะคุณปริม

ระยะทางไม่เคยเป็นอุปสรรคของมิตรภาพ และความรู้สึกดีๆ

ดีใจค่ะที่คุณปริมแวะไปเยี่ยมเยือนเช่นเดียวกับอีกหลายๆคน meepole ก็รับรู้เป็นระยะๆค่ะ

และรออ่านเรื่องราวจากคุณปริมเช่นกันค่ะ

ขอโทษนะคะคุณคนบ้านไกล ขออนุญาตทักทายคุณปริมผ่านตรงนี้ค่ะ :)

สวัสดีครับ คุณ  

คำว่าบังเอิญไม่มีในพระพุทธศาสนา เพราะคนเราเกี่ยวข้องกันมาหลายแสนหลายหมื่นชาติ  เป็นพ่อแม่ เป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกันมาก่อน

 ยังคงคิดถึงหลายๆคนที่เคยมาแวะคุย อ่านเรื่องราวกัน และดีใจทุกครั้งเมื่อได้อ่านหรือพบเห็นข้อเขียนของแต่ละคนเหมือนได้เจอหน้ากัน มันก็แปลกดี ทั้งๆที่ไม่เคยพบกันแต่เหมือนว่ารู้จักคุ้นเคยกัน

อย่างที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงพ่อนพดล(ศิษย์หลวงตามหาบัว)ท่านเดินทางมาสงเคาระห์ญาติโยมที่นี้  ท่านใช้คำพูดว่า มันลงตัวครับ

 

สวัสดีค่ะ Ico48 ไม่ได้แวะมาอ่านบันทึกนี้...เพราะชื่อบันทึกไม่ค่อยชวนอ่าน...มองผ่านไปผ่านมาหลายวัน...แต่พออ่านแล้วผิดคาด... แถม joke ให้อ่านทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษอีก ...ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ ดร พจนา 

ถ้าอาจารย์ช่วยเปลี่ยนชื่อบันทึกนี้ให้หน่อย จะเป็นพระคุณมากครับ ผมสังเกตดู  ไม่ว่าผมจะตั้งชื่อว่าอะไร คนก็ยังไม่อ่านอยู่นั่นเอง

ขอบคุณที่อาจารย์แวะมาเยี่ยมเสมอๆ

อันที่จริงอาจารย์กับผม บ้านอยู่ใกล้กันมากที่สุด

แคนาดา  อเมริกา บินแค่ สองสามชั่วโมง

ไทย อเมริกา บินหลับแล้วหลับอีก ก็ยังไม่ถึงเลยครับ

 

 

สวัสดีค่ะ Ico48 บ้านอยู่ใกล้กัน...ยังไงคงมีโอกาสได้แวะไปเยี่ยมกัน...อาจที่แคนาดา หรือ อเมริกานะคะ...เรื่องชื่อบันทึก...แล้วแต่เรื่องราวของแต่ละคน...อย่าคิดมากนะคะ...

คนเรามีความแตกต่างกันตามอัตภาพ เห็นแล้วก็เป็นสุข

สุขแบบที่เราเป็น สุขแบบที่เรามีนี้แหละ ประเสริฐสุด จริงมะ

จริงครับ

ดีใจที่ได้รู้จัก

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านตามคำเชิญค่ะ คุ้มจริงๆ ค่ะ

รูปสวยทุกรูป แต่อยากรู้ว่า ถ่ายรูปเก่งจริงหรือเปล่า ต้องมีรูปภรรยาคนเก่งด้วยซิค่ะ

ส่งดอกไม้มาให้ 10 ดอก ขอบคุณสำหรับบันทึกแสนดี อ่านไปยิ้มไป ได้ชมภาพเหมือนได้ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ .... โปรโมชั่นในชีวิตมีอยู่ทุกวินาที.... (◠‿◠✿)❤•♥

แทนคำขอบคุณ

ส่งเพลงที่คิดว่าพี่ต้องเคยฟังมาให้ค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=5-mBsC8LTBU&feature=share

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท