(พระมหาคัมภีร์อัล-กุรอาน)
ศาสนาอิสลามถือกำเนิดในยุคท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ.) ณ.ดินแดนตะวันออกกลาง ในประเทศซาอุดิอารเบียปัจจุบัน ศาสดามุฮัมมัด(ศ.)เป็นชาวอาหรับ ภาษาที่ท่านถ่ายทอดออกมาจากการสื่อกับพระผู้เป็นเจ้า ต้องเป็นภาษาอารบิค แน่นอนว่ามุสลิมในประเทศไทย น้อยคนนักที่จะรู้และเข้าใจภาษานี้
ยิ่งในยุคนั้นคนที่จะได้เดินทางไปศึกษาที่ตะวันออกกลางหรือภาษาอารบิค ยากเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่จะศึกษาผ่านภาษามลายู ซึ่งมุสลิมนอกจากในสามจังหวัดภาคใต้ มีไม่มากนักที่จะเข้าถึงความหมายอันลึกซึ้งของพระคัมภีร์ได้
(ทรงพระราชทานทุนทรัพย์ในการแปลให้อดีตท่านจุฬาราชมนตรี)
มุสลิมในประเทศไทย จึงยากที่จะรับรู้ความหมายโดยตรงของพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอาน ด้วยตัวเอง.. เมื่อปี 2505 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯซึ่งพระองค์ทรงเป็น “อัครศาสนูปภัมภก” ทรงเข้าพระทัยถึงความรู้สึกและความยากลำบากนี้ของมุสลิมดี จึงทรงมีพระราชดำริ ให้อดีตท่านจุฬาราชมนตรี ต่วน สุวรรณศาสน์ ทำการแปลพระมหาคัมภีร์อัล-กุอาน ให้เป็นภาษาไทย ซึ่งเป็นการงานที่ท้าทายและลำบากยิ่ง เพราะใครก็ตามที่แปลพระคัมภีร์ผิด ตกหล่น ไม่ถูกต้อง ถือว่าเป็นความผิดมหันต์ ด้วยเหตุว่าพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานคือพระราชดำรัสของพระผู้เป็นเจ้า ที่หลายนัยยะไม่สามารถแปลออกมาตรงๆได้ เพราะไม่มีความหมายของภาษาใด ที่จะแปลคำของพระผู้เป็นเจ้าได้ ยกตัวอย่างเช่น คำว่า “ซาต” (เรือนร่าง)ของพระองค์ ไม่รู้จะหาคำใดได้ มันจินตนาการไม่ได้
(ทรงพระราชทานให้ท่านจุฬาราชมนตรีนำไปมอบให้กับมัสยิดต่างๆ)
ท่านอดีตจุฬาราชมนตรี ต่วน และคณะ จึงต้องทำงานที่ยากลำบาก เสี่ยง แต่ก็สามารถทำงานชิ้นนี้ถวายพระองค์ท่านสำเร็จ ด้วยเข้าใจอย่างลึ้กซึ้งว่า นี่ทรงเป็นความต้องการของพระองค์ ที่ต้องการให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมสามารถเข้าถึงความหมายในระดับหนึ่งของ พระมหาคัมภีร์อัล-กุรอาน ได้บ้าง
(ที่มัสยิดกลางปัตตานี ในสมัยของอดีตจุฬาราชมนตรีประเสร็ฐ)
ตั้งแต่นั้นมามุสลิมไทย จึงเข้าใจบางส่วนของ “กลามุลลอฮ์” (พระราชดำรัส)ของพระผู้เป็นเจ้าได้ด้วยตัวเอง ทั้งๆที่เมื่อก่อน หากไม่มีความรู้จริง ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เลย
มันเป็นครั้งแรกที่พระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานได้ถูกแปลเป็นภาษาไทย ทั้งๆที่ในความเป็นจริง พระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานได้ถูกแปลแล้วในหลายๆภาษา
(ภาพนี้เมื่อเสด็จ จ.นครศรีฯ พี่น้องมุสลิมนำโดยโต๊ะครูยะอฺโกบ สุมาลี และบรรดาผู้ทรงความรู้หลายท่านเชิญเสด็จประทับ ณ.มิมบัร ขณะนั้นมัสยิดซอลาฮุดดีน กำลังมีปัญหาเรื่องที่ดิน จากนั้นมาทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ภาพนี้จึงมีความหมายมาก แต่ถ้าไม่ได้รับการอธิบายหลายๆท่านอาจจะสงสัย)
นี่ไงอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมและมุสลิมไทยรักในหลวง มีอีกหลายอย่างนะครับที่ พระองค์ได้ทรงทำให้มุสลิม สมแล้วที่พระองค์ทรงเป็นอัครศาสนูปภัมภก