การแก้ปัญหาและการเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี ๒๕๕๔ ที่เกิดขึ้นหลายเดือนกระทั่งทุกวันนี้ การจัดการทางด้านสุขภาพของชุมชนในพื้นที่ต่างๆ และการจัดการเชิงสังคมเพื่องานสาธารณสุขกับการดูแลคุณภาพชีวิตกายใจของประชาชนในหลายเหตุการณ์ จะเป็นการระดมความร่วมมือและระดมทรัพยากรเพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ระบบปฏิบัติการ ตลอดจนแนวคิดและวิธีปฏิบัติต่างๆ เป็นจำนวนมาก เกิดขึ้นโดยการร่วมกันแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ดังในบันทึกของทีมออกหน่วยสุขภาพของมหาวิทยาลัยมหิดล [หน่วยแพทย์อาสามหิดล : ห่วงพ่อ และ หน่วยแพทย์อาสามหิดล : A day at Mahidol, Salaya] ซึ่งเครือข่ายทำงานมีความต่อเนื่องกับการทำงานบางส่วนที่ผมได้มีส่วนร่วมอยู่บ้าง จึงขอร่วมเป็นกำลังใจด้วยการร่วมเขียนบันทึกนี้ครับ
ประสบการณ์ดังกล่าวนี้ นับว่าเป็นบทเรียนจากสถานการณ์จริงที่มีคุณค่าต่อสังคมไทยอย่างยิ่ง เป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มคนและชุมชนจำนวหนึ่งเปรียบเสมือนผู้ที่ได้มีประสบการณ์ต้นแบบต่อปรากฏการณ์ทางสังคมและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ซึ่งในการวิจัยทางสังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ โดยเฉพาะการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม ในแนวที่มุ่งวิจัยเพื่อสร้างความรู้บนความเป็นจริงทางการปฏิบัติ จะนับว่าเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น กับกลุ่มคนที่มีตัวตนและได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์จริงต่างๆนั้น เป็นหน่วยการวิจัยและหน่วยข้อมูลความจริง ที่เราจะสามารถช่วยให้ได้ถอดบทเรียน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบจัดการตนเองต่างๆของสังคม ที่สนองตอบต่อความจำเป็นสำหรับอนาคตและก่อเกิดโดยมีประสบการณ์ทางสังคมเป็นพื้นฐานรองรับ ได้เป็นอย่างดีที่สุดวิธีหนึ่งที่จะหาโอกาสอย่างนี้ในสถานการณ์อื่นๆไม่ได้
ขอบคุณภาพจากณัฐพัชร์ ทองคำ : หน่วยแพทย์และบริการสุขภาพเคลื่อนที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ดูแลสุขภาพชุมชนในภาวะน้ำท่วมเขตพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และเขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
คนที่กำลังทำงานอยู่ในพื้นที่ต่างๆของประเทศ ที่ได้เห็นความสำคัญในแง่มุมดังที่กล่าวมา อีกทั้งต้องการทำประสบการณ์ในการทำงานท่ามกลางวิกฤติปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ให้ลุล่วงไปด้วยดีอย่างที่สุด พร้อมกับมุ่งมั่นที่จะให้บทเรียน ตลอดจนปัญหาอุปสรรคนานัปการที่ประสบแก่ตนเอง ได้มีความหมายมากที่สุดต่อการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆในอนาคต เชื่อว่าคงจะมีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย บันทึกนี้จึงขอให้ข้อแนะนำบางประการสำหรับการทำบันทึกและทำวิกฤติที่กำลังเผชิญให้เป็นโอกาสในการได้ถอดบทเรียนเพื่อพัฒนาสิ่งต่างๆที่ต้องการในภายหลัง
ความสำคัญ
การเข้าถึงความเป็นจริง การสังเกต การบันทึกและถ่ายทอด
เครื่องมือ อุปกรณ์ และวิธีการ
ข้อมูลเพื่อการอ้างอิงที่ควรบันทึก
ตัวอย่างแนวคำถามและประเด็นการสังเกตที่ควรมี
ในสภาพการทำงานจริง เราจำเป็นต้องมีความคล่องตัวสูง ทั้งด้วยเหตุผลเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุซ้ำซ้อนและเพื่อที่ทุกคนจะสามารถเป็นหน่วยปฏิบัติการด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงจำเป็ต้องลดเครื่องสัมภาระติดตัวให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็จะต้องพึ่งความตื่นตัวต่อการเรียนรู้เข้าใจสถานการณ์ พร้อมกับหาโอกาสทำหน้าที่บันทึกภาพและข้อมูลต่างๆไปบนกระบวนการปฏิบัติ ให้ได้มากที่สุด ข้อคำถามและแง่มุมเหล่านี้จึงอาจจะช่วยการทำงานในหัว ทำให้ผู้ประสบภัยและผู้ได้เข้าไปช่วยชุมชนในพื้นที่ต่างๆของประเทศ ได้ถือโอกาสทำหน้าที่ผู้บันทึก ในสถานการณ์ที่สำคัญครั้งนี้ ได้อย่างดีที่สุด ได้บ้าง.
เป็นแนวคำถามและประเด็นการสังเกต...ที่สร้างแรงบันดาลใจมากครับอาจารย์
ขอบคุณคะอาจารย์ แนวทาง Community-Based Approach น่าสนใจมาก
สวัสดีครับทิมดาบครับ
สวัสดีครับอาจารย์หมอปัทมาครับ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์เซียนศิลป์
เชื่อมั่นในเรื่อง ชุมชนเป็นฐาน มีส่วนร่วมในทุกๆ งาน จะขับเคลื่อนได้อย่างดีและยั่งยืนเจ้า
อ. สบายดีนะคะ ส่งกำลังใจเจ้า
เจริญโยมอาจารย์ ดร.วิรัตน์
เป็นบันทึกการถอดบทเรียนที่น่าสนใจมากครับ อาตมากำลังอยากที่จะเรียนรู้อยู่พอดี
ที่พรหมพิรามนํ้าท่วม 3 เดือน ปัจจุบันแห้งแล้วครับ...เจริญพร
แวะมาอ่านบันทึกการเรียนรู้ "แนวทางสุขภาวะขั้นปฐมภูมิ" พร้อมขอขอบพระคุณอาจารย์มากครับในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ณ บ้านห้วยส้ม
ผมได้บันทึกพร้อมขึ้นไฟล์รูปไว้ที่ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/469571
สวัสดีครับคุณ Poo
ในสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังจะผ่านไปครั้งนี้ ก็เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่บอกว่าสังคมไทยทิ้งทุนทางสังคมและสร้างการอยู่ด้วยกันอย่างขาดทุนความเป็นชุมชน ที่น่าจะเป็นจุดแข็งอีกด้านหนึ่งของตนเองไปมากเลยนะครับ และการขาดปัจจัยด้านทุนทางสังคมอย่างนี้นี่ เลยทำเห็นได้อย่างดีเลยครับว่าแม้มีกลไกสังคมที่ทันสมัย มีผู้คนมากกว่าเมื่ออดีต มีเงินทองและเครื่องมือที่ดีกว่าเมื่ออดีต ก็ทำให้แทบหมดประสิทธิภาพ ไม่มีกำลังสู้ปัญหา และเกิดปัญหาที่สร้างความทุกข์ต่อกันจากความไม่สามารถจัดการตนเองของผู้คนในชุมชนต่างๆ มากเสียกว่าเกิดปัญหาที่มาจากน้ำท่วมโดยตรงเสียอีก
กราบนมัสการท่านพระอธิการโชคชัยครับ
ขอแสดงความยินดีกับชาวพรหมพิรามครับ แถวบ้านผมที่หนองบัว บ้านเรือนไม่เสียหายมาก แต่ข้าวปลานั้นล่มจมไปหลายเจ้าเหมือนกันครับ สงสาร แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
สวัสดีครับอาจารย์ ดร.ป๊อปครับ
ต้องขอบคุณอาจารย์กับคุณเปิ้ลมากเลยนะครับที่อุตส่าห์รำลึกถึงกันและไปเยี่ยม แวะไปกินกาแฟด้วยกัน หากมีโอกาสขึ้นไปอีกอาจารย์แวะไปนอนและนั่งเสวนากันอีกนะครับ