๒๑๕.เพราะความเพลิดเพลิน ชีวิตจึงมีแต่ทุกข์


อย่างไรก็ตาม แม้บุญที่เราทำทีละเล็กละน้อยไม่มากนัก แต่หากฝนทีละหยดๆ ตกบ่อย ๆ น้ำจะเด็มโองได้ฉันใด บุญกุศลที่เราได้สะสมทีละเล็กละน้อยก็จะเต็มบริบูรณ์ได้ฉันนั้น

     วันนี้ผู้เขียนได้รับอาราธนาให้บรรยายในหัวข้อ "...เพราะความเพลิดเพลิน ชีวิตจึงมีแต่ทุกข์.." ซึ่งเป็นโครงการอบรมผู้บริหาร-พนักงานประจำเดือนของบริษัทนิ่มซี่เส็งลิสซิ่ง จำกัด โดยในวันนี้เป็นคราวของผู้บริหารระดับหัวหน้าสาขาในเขตจังหวัดพะเยา จำนวน ๑๓ สาขา รวมทั้งสิ้น ๔๐ คน และพรุ่งนี้ในหัวข้อเดียวกันเป็นเจ้าหน้าที่สมุหบัญชีอีกกว่า ๓๐ คน

     ก่อนบรรยาย ผู้เขียนสอบถามผู้เกี่ยวข้องว่าจะคงหัวข้อนี้ไว้ หรือจะเปลี่ยนหัวข้อใหม่ ได้รับคำตอบว่าให้คงหัวข้อนี้ไว้ เนื่องจากหัวข้อนี้ได้ถูกวางเอาไว้เป็นเวลา ๑-๒ ปีมาแล้ว ซึ่งผู้บรรยายบอกว่านี้เป็นหัวข้อธรรมะที่สูงนะ  แม้เป็นพระภิกษุสามเณรก็ต้องเป็นนักธรรมชั้นเอกโน้นนะถึงจะได้ฟังหัวข้อธรรมแบบนี้ เมื่อสอบถามครั้งที่สามแล้วก็ยังได้รับการยืนว่าอยากจะฟังเพราะกำหนดหัวข้อมาแล้ว ผู้เขียนจึงบรรยายให้ แม้ผู้ฟังจะไม่มีพื้นฐานก็ตาม

     "เพราะความเพลิดเพลิน ชีวิตจึงมีแต่ทุกข์" เป็นข้อความสั้น ๆ ก็จริง แต่การจะบรรยายอะไรนั้นต้องทราบที่มาและที่ไปเสียก่อน เพราะเคยเห็นนักบรรยายธรรมหลายคนที่ตกม้าตายได้หัวข้อธรรมไปแล้วก็บรรยายไป โดยไม่มีที่มาที่ไปอาจถูกย้อน แย้ง และผิดพลาดได้ แม้ในประเด็นนี้ หากมีคนแย้งว่า ถ้าเพลิดเพลินในสิ่งที่ดีงาม เช่น คำว่า "ธมฺมกาโม" ซึ่งแปลว่าผู้ใคร่(เพลิดเพลิน)ในธรรมละ มันก็จะไม่ตอบตรงตามข้อสมมุตฐานที่ผู้กำหนดโจทย์เอาไว้ เพราะคำว่าเพลิดเพลินในพุทธศาสนามีอยู่หลายศัพท์ทั้งมุ่งตรงไปในสิ่งที่ดีและไม่ดี เช่น กามะ, นันทะ, ราคะ, โลภะ เป็นต้น ส่วนภาษาไทยและภาษาที่เรานำมาใช้เป็นภาษาไทยอีกจำนวนหนึ่งคือ ปีติ, บันเทิงใจ, สุขะ, หรรษา, หลงไหล, สบายใจ ฯลฯ

     คำว่า "เพลิดเพลิน" เป็นกิริยาที่แสดงออกทางอารมณ์ ซึ่งมีความรู้สึกต่อสิ่งนั้น ๆ

     คำว่า "ชีวิต" หมายถึงอัตตภาพ หรือร่างกายนี้ ส่วน

     คำว่า "ทุกข์" อยู่ ๆ จะเกิดความทุกข์ไม่ได้ ต้องผ่านกฏไตรลักษณ์ข้อที่หนึ่งคือ อนิจฺจํ เสียก่อน

     เมื่อดูจากพระสูตรแล้ว ได้ความเต็มของ...เพราะความเพลิดเพลิน ชีวิตจึงมีแต่ทุกข์ ซึ่งระบุประโยคเต็ม ว่า

     "ผู้ใดเลิดเพลินรูป ผู้นั้นชื่อว่าเพลิดเพลินทุกข์ ผู้ใดเพลิดเพลินทุกข์ เรากล่าวว่า ผู้นั้นไม่พ้นไปจากทุกข์

     ผู้ใดเพลิดเพลินเวทนา..สัญญา...สังขาร...วิญญาณ ผู้นั้นชื่อว่าเพลิดเพลินทุกข์ ผู้ใดเพลิดเพลินทุกข์ เรากล่าวว่า ผู้นั้นไม่พ้นไปจากทุกข์

     ผู้ใดเพลิดเพลินตา ผู้นั้นชื่อว่าเพลิดเพลินทุกข์ ผู้ใดเพลิดเพลินทุกข์ เรากล่าวว่า ผู้นั้นไม่พ้นไปจากทุกข์

     ผู้ใดเพลิดเพลินหู...จมูก...ลิ้น...กาย...ใจ ผู้นั้นชื่อว่าเพลิดเพลินทุกข์ ผู้ใดเพลิดเพลินทุกข์ เรากล่าวว่า ผู้นั้นไม่พ้นไปจากทุกข์

     เราไม่ม่ทุกข์เลย และความเพลินเพลินก็ไม่มี อนึ่งความเบื่อหน่าย ก็ไม่ครอบงำเรา ผู้นั่งแต่ผู้เดียว

     ผู้มีทุกข์นั่นแหละ จึงมีความเพลิดเพลิน ผู้มีความเพลิดเพลินนั่นแหละจึงมีทุกข์ ภิกษุย่อมเป็นผู้ไม่มีความเพลิดเพลิน ไม่มีทุกข์ ท่านจงรู้อย่างนี้เถิด..."

     ส่วนธรรมะที่มีลำดับต่อเนื่องจากธรรมข้อนี้มีอีกหลายข้อ ซึ่งมาจากหลายพระสูตร เช่น เมื่อบุคคลยึดมั่น ยังเพลิดเพลิน ก็ต้องถูกมารมัดไว้ เมื่อไม่ยึดมั่น ไม่เพลิดเพลิน จึงหลุดพ้นจากมาร บุคคลยังยึดมั่น ยังเพลิดเพลินในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั่นเอง จึงถูกมารมัดไว้ เมื่อไม่ยึดมั่น ไม่เพลิดเพลิน จึงหลุดพ้น  หรืออย่างเช่น

     ร่าเริ่งอะไรหนอ ยินดีอะไรกัน ในเมื่อโลกสันนิวาส ถูกไฟไหม้โพลงแล้วเป็นนิตย์ ท่านทั้งหลาย ถูกความมือหุ้มหอแล้ว เพราะอะไร จึงไม่แสวงหาประทีป  ท่านจงดูอัตภาพอันบุญกรรม ทำให้วิจิตรแล้ว มีกายเป็นแผลอันกระดูก ๓๐๐ ท่อน ปรุงขึ้นแล้ว กระสับกระสายอันมหาชนดำริกันโดยมาก ไม่มีความยั่งยืน มั่นคง รูปนี้คร่ำคร่าแล้ว เป็นรังแห่งโรคผุผัง กายของตนอันเปื่อยเน่าจะแตก เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุด  ฯลฯ

     สำหรับวันนี้ ผู้เขียนได้สรุปทิ้งท้ายเอาไว้ว่า พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้เพื่อให้พุทธสาวกไม่มัวเมาในชีวิตของตนเองจนก่อให้เกิดทุกข์ขึ้นมา เมื่อจบการบรรยายแล้ว ผู้เขียนได้ให้โอกาสถาม ปรากฏว่าไม่มีใครถามเลยสักคน ผู้เขียนจึงเข้าใจเอาเองว่าผู้ฟังน่าจะเข้าใจ หรือไม่ก็ยังมึน ๆ อยู่ เนื่องจากบอกให้เปลี่ยนหัวข้อการบรรยายแล้วถึง ๓ ครั้งก็ยังยืนยันอยู่ จึงได้อรรถรสในธรรมล้วน ๆ แต่เมื่อผู้เข้าอบรมแยกย้ายกันไปประชุมประจำเดือนต่อ พี่หนานต๋อง(กฤษฎา ศิริวงศกร) ได้เข้ามากระซิบเบาๆ ว่าพรุ่งนี้ขอให้ท่านอาจารย์เปลี่ยนหัวข้อบรรยายเอาธรรมะง่าย ๆ ก็ได้ครับ ผู้เขียนก็บอกว่าได้ ง่ายหรือยาก ขึ้นอยู่กับผู้ฟังเสนอมา ผู้เขียนมีหน้าที่สนองตอบให้...นั่นแสดงว่า ธรรมะในวันนี้ แม้อยากจะฟังในสิ่งที่ยังไม่เคยได้ฟัง แต่ต้องมีพื้นฐานก่อนเสมอ...

     บริษัทนี้ มีโครงการดี ๆ หลายอย่างที่น่าอนุโมทนา เช่น

     ๑.หลังจากนี้ไปพนักงานจะเข้ารับวุฒิบัตรจำนวน ๒๓ คน จาก ๓๕ คนที่เข้าโครงการปวารณาเลิกเหล้าเข้าพรรษา ณ วัดม่อนป่าสัก อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา

     ๒.วันที่ ๔ ธันวาคม ก็จะมีกิจกรรมโครงการเทเหล้า เผาบุหรี่ ณ วัดผาลาด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะมีพนักงานกว่า ๕๐๐ คนเข้าร่วม

     ๓.วันที่ ๑๐ มกราคม ๕๕ จะมีการทอดถวายผ้าป่าสมมัคคี ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีเช่นกัน

     อย่างไรก็ตาม แม้บุญที่เราทำทีละเล็กละน้อยไม่มากนัก แต่หากฝนทีละหยดๆ ตกบ่อย ๆ น้ำจะเด็มโองได้ฉันใด บุญกุศลที่เราได้สะสมทีละเล็กละน้อยก็จะเต็มบริบูรณ์ได้ฉันนั้น

    

หมายเลขบันทึก: 469125เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2011 12:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 10:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขออนุโมทนาบุญกับ บริษัทนี้ด้วยคนครับ ที่มีกิจกรรมแบบนี้ ไม่เน้นแต่เรื่องการทำกำไรให้บริษัท

เจริญพรขอบคุณโยม พ.แจ่มจำรัส

ร่วมอนุโมทนาด้วยเช่นกัน ที่ช่วยสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้สังคม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท