3. เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ (จากพระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 7 )
3.1 เกิดการกันดารอาหารทั่วโลก
เมื่อปี 1800 ประชากรของโลกมีจำนวน 2,000,000,000 คน (สองพันล้านคน)ปี 1950 เพิ่มเป็น 3,000,000,000 คน (สามพันล้านคน)เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1999 ประชากรโลกมี 6,000,000,000 คน (หกพันล้านคน) นักวิทยาศาสตร์ทำนายว่าอีก 50 ปีข้างหน้าน้ำมันเชื้อเพลิงจะหมดไปจากโลกนี้
ทุกวันนี้ประเทศเอธิโอเปียมีคนตายเพราะขาดอาหารวันละ 3,000 คน นักเศรษฐศาสตร์ทำนายว่าแต่ละวันประชากรโลก 2,000,000,000 คน(สองพันล้านคน)มีอาหารกินอิ่ม อีก 2,000,000,000 คน (สองพันล้านคน)มีอาหารกินอย่างเร้นแค้นและกินไม่อิ่ม ในขณะที่อีก 2,000,000,000 คน(สองพันล้านคน)ไม่มีแม้แต่จะกิน (ครบ 6,000,000,000 ล้านคนพอดี)
3.2 เกิดโรคระบาด (ในพระธรรมลูกาบทที่ 21 ข้อ 11และพระธรรมวิวรณ์บทที่ 6 ข้อ
ปัจจุบันโรคเอดส์ โรคอีโบล่า โรคฝีดาษลิง ล้วนแต่เป็นโรคสายพันธ์ใหม่ที่ยังไม่มียารักษาให้หายได้ โดยเฉพาะโรคเอดส์ที่เพิ่งค้นพบในปี 1982 ระยะเวลาอันสั้นแต่ปัจจุบันคนทั่วโลกติดเชื้อHIVนี้เข้าไปแล้ว 40,000,000 คน (สี่สิบล้านคน) ในจำนวนนี้ 1,500,000 คนเป็นเด็ก และในปี 1999ที่ผ่านมามีคนตายด้วยโรคเอดส์แล้ว 2,600,000 คน
(ในขณะที่ประเทศไทยคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีคนไทยติดเชื้อเอดส์ถึง 4,000,000คน)
4. เหตุการณ์ทางธรรมชาติ (จากพระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 7)
คัมภีร์ทำนายไว้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลก ซึ่งจะคร่าชีวิตคนเป็นแสนๆทีเดียว ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวในอเมริกา ญี่ปุ่น จีน อินเดีย อัฟกานิสถาน ตุรกี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ได้มีคนเสียชีวิตนับล้านคนและทรัพย์สินสูญหายมหาศาล ลำดับคร่าวๆได้ดังต่อไปนี้
- ปี ค.ศ. 1000 - 1008 มีแผ่นดินไหว 21 ครั้ง (ในช่วงระยะเวลา 800 ปี)
- ปี 1800 - 1900 มีแผ่นดินไหว 18 ครั้ง (เป็นเวลา 100 ปี)
- ปี 1900 - 1950 มีแผ่นดินไหว 33 ครั้ง (50 ปี)
- ปี 1950 - 1990 มีแผ่นดินไหว 93 ครั้ง (40 ปี)
- ปี 1990 - 1999 มีแผ่นดินไหว 103 ครั้ง (9 ปี)
หากสังเกตตัวเลขในวงเล็บจะพบว่า ระยะเวลายิ่งน้อยลงเท่าไหร่จำนวนของแผ่นดินไหวก็ทวีมากขึ้นเท่านั้น และทุกครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว จะมีคนเสียชีวิตนับพันขึ้นไป
5. เหตุการณ์ทางสังคม (จากพระธรรมมัทธิว บทที่ 21 ข้อ 12)
5.1 ความรักความผูกพันจะเยือกเย็นลง (พระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 12 และ 2ทิโมธีบทที่3ข้อ 1 - 4 )
มนุษย์จะเห็นแก่ตัว ความเกลียดชังจะทวีขึ้น การให้อภัยกันแทบจะไม่มี ความโหดร้ายทารุณจะทวีความรุนแรงขึ้น เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธ์สมัยนาซี และที่ประเทศเขมร มนุษย์ดุร้ายเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน
5.2 ความรักทำให้ครอบครัวมั่นคงกำลังเสื่อสลาย
สถิติรวมทั่วโลกมีการหย่าร้าง 50%ต่อปี โลกต้องสูญเสียเงินจำนวน 25,000,000 บาท(ยี่สิบห้าล้านบาท)ต่อปีในการทำแท้ง
6. เหตุการณ์ทางฟ้าอากาศ (จากพระธรรมมาระโก บทที่ 13 ข้อ 24 -25)
ใกล้วันที่พระเยซูคริสต์จะกลับมาท้องฟ้าจะแปรปรวน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวจะไม่ส่องแสง ลมฟ้าอากาศจะทำให้ฤดูกาลเปลี่ยนไป
7. ความรู้มนุษย์จะทวีคุณ (จากพระธรรมดาเนียลบที่ 12 ข้อ 4)
7.1 ความรู้ทางวิชาการ
ความรู้ของมนุษย์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกๆ 8 ปี ความรู้ที่ตีพิมพ์เป็นเล่มหนังสือนั้นเฉลี่ยแล้วปีละ 500,000 กว่าเล่ม ถ้าจะอ่านอย่างละเอียดต้องใช้เวลาถึง 1,0000000 ปีจึงจะอ่านจบ (แค่มหาลัยเชียงใหม่เดียวแต่ละปีมีวิทยานิพนธ์ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเล่มแล้ว) เทคโนโลยีและระบบComputorทำให้ความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะความรู้ของมนุษย์ทวีคุณขึ้นอย่างรวดเร็ว มีคนกล่าวว่าเด็กชั้นประถมปัจจุบัน รู้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากกว่านักวิทยาศาสตร์เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว
7.2 การสื่อสาร
เมื่อ 50 ปีที่แล้ว การส่งจดหมาย ระยะทาง 100 กิโลเมตรต้องใช้เวลา 7 วัน ปัจจุบันสามารถถ่ายทอดเนื้อหาหนังสือทางEncyclopedia 25 volumesประมาณ 35,000 หน้าโดยใช้เวลาเพียง 3 วินาทีทางอิเลคทริคส์เท่านั้น
7.3 การเดินทาง
ในสมัยจักรพรรดิ์ซีซาร์แห่งกรุงโรม (ซึ่งเคยเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งของมนุษย์โลก) และในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก การเดินทางไม่ต่างกันเลย คือ ใช้ม้าหรือสัตว์เป็นพาหนะ แต่ปัจจุบันเครื่องบินเจ็ทรุ่นใหม่สามารถบินรอบโลกได้โดยใช้เวลาเพียง 80 วินาทีเท่านั้น (1นาทีกับอีก20วินาที) และยานอวกาศสามารถบินทะลุทะลวงอวกาศได้ถึงชั่วโมงละ 200,000 ไมล์ (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า1 ไมล์เท่ากับ 3 กิโลเมตรครึ่งหรือเปล่า ไม่แน่ใจเหมือนกัน ใครชัวร์แชร์กันได้)
ทุกท่าน ท่านอาจเห็นว่านี่เป็นเรื่องเหลวไหล ชวนปวดหัวและตระหนกตกใจเปล่าๆ แต่ท่านลองพิจารณาดูว่าตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์โลกที่ผ่านมาใช่อย่างที่คัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวไว้หรือเปล่า ท่านอาจพบว่าเรื่องของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ในHOLY BIBLEเป็นเรื่องที่เหลวไหลและโกหกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาหรือเป็นเรื่องจริงที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา อยู่ที่ตัวท่านเองครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นบุรุษนามชื่อเยซูคริสต์ก็ต้องเป็นนักโกหกที่เก่งที่สุดในโลกเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามพระเยซูคริสต์บอกว่า อย่าตระหนกหรือตกใจเลย เหตุการณ์เหล่านี้จำเป็นต้องเกิด และยังตรัสอีกว่า
"เราเป็นทางนั้นเป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีใครไปถึงพระบิดา(สวรรค์)ได้ นอกจากมาทางเรา"
ไม่มีความเห็น