ภาคค่ำเมื่อวาน...วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554
ผมโชคดีที่ได้นั่งดูข่าวพระราชสำนัก…
และในช่วงทีมทหารและจิตอาสา...ร่วมบรรจุอาหาร อาทิ ไข่ต้ม หมูหยอง หมูแผ่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม ในถุงที่ลอยน้ำได้ และอยู่ในสภาพปลอดภัยเมื่อนำไปโปรยทางเฮลิคอปเตอร์
นับเป็น Routine to Research (R2R) ชิ้นแรกที่ผมสัมผัสและงดงามยิ่งนัก
และอีกช่วง ... พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทอดพระเนตรการทดสอบการโปรยถุงอาหารประทังชีพจากเฮลิคอปเตอร์ลงน้ำ
โดยใช้เฮลิคอปเตอร์เบล 412EP จากฝูงบิน 201 กองบิน 2 จังหวัดลพบุรี มาทำการทดสอบโปรยถุงอาหารประทังชีพในระยะความสูง 20 ฟุต 50 ฟุต และ 100 ฟุต เพื่อหาระดับความสูงที่เหมาะสมสำหรับนำไปสู่การปฏิบัติจริง ให้ผู้ประสบภัยสามารถรับถุงอาหารได้อย่างปลอดภัย ...ผู้ต้องการอาหาร ให้แสดงสัญลักษณ์ให้เฮลิคอปเตอร์เห็นอย่างชัดเจน เช่น ใช้ธง หรือเสื้อผูกปลายไม้ไว้บนหลังคา
นับเป็น R2R กระหน่ำซ้ำอีกรอบ...ยิ่งงดงามอีกเท่าตัว
เมื่อผมพบข้อมูลอีกว่า...การทดสอบวันนี้ พบว่าการโปรยในทุกระยะมีความเหมาะสมให้ปรับไปแต่สภาพของแต่ละพื้นที่สำหรับการช่วยเหลือ ซึ่งจะได้ขยายผลไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยฉุกเฉินในครั้งต่อไป
ผมเห็นคุณค่า และการขยายคุณค่า ของ R2R ทั้ง 2 ชิ้น ผ่านการตีความหมายของผม
เป็นตัวอย่างงาน R2R ที่ให้เราได้เรียนรู้ และมองว่า กระบวนการ R2R ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ยากเย็น เพียงเรามีใจต้องการพัฒนางานของเรา ด้วยทรัพยากรที่มีรายล้อมตัว และที่สำคัญ “ใจ” ที่ต้องการช่วยเหลือผู้อื่น
ถึงแม้ผมไม่เก่งและเชี่ยวชาญด้านการวิจัยเลย..
แต่ผมเห็นว่า...ประเทศไทยของเราต้องใช้การวิจัยในการพัฒนาประเทศ เรามีนักวิชาการที่เก่งมาก...ถ้าเราใช้กระบวนการวิจัยมาจัดการปัญหาน้ำท่วม ตั้งแต่การตั้งคำถาม…ทบทวนวรรณการหรือประสบการณ์จากประเทศที่เคยประสบปัญหา เช่น เนเธอร์แลนด์ ...การเก็บข้อมูล....การวิเคราะห์ข้อมูล...เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน...และสรุปผล...
…คงจะดีไม่น้อยกว่า...มากกว่าการคุยกันโดยไม่มีความเป็นเหตุเป็นผลมาถกกัน
ซึ่งผมมองว่า...ประเทศของเราต้องเผชิญปัญหาเหล่านี้อีกทุก ๆ ปีอยู่แล้ว...เราต้องวิจัยในการจัดการปัญหาน้ำท่วม หรือ วิจัยการดำรงชีวิตท่ามกลางน้ำท่วม
เอาผลการวิจัยที่ผ่านกระบวนการวิจัยมาคุยกัน...ร่วมดำเนินการร่วมกัน...เอาผลประโยชน์ของประเทศเป็นตัวตั้ง…พวกเราจะผ่านวิกฤตการณ์ทั้งหลายร่วมกัน
ผมเชื่ออย่างนั้น...และผมให้กำลังใจทุก ๆ ท่าน นะครับ...
....................................................
ที่มา : http://www.krobkruakao.com
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงเปิดศูนย์สำรองและประกอบอาหารประทังชีพเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2554 เวลา 16.36 นาที พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปยังหอประชุมอดิศร ค่ายอดิศร อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี ทรงเปิดศูนย์สำรองและประกอบอาหารประทังชีพเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ในการนี้ประทานพระวโรกาสให้ผู้สนับสนุนเฝ้าถวายเงินและสิ่งของ พร้อมกับประทานถุงยังชีพพระราชทานแก่ตัวแทนผู้ดูแลศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดสระบุรี
ทั้งนี้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากสภากาชาดไทย ร่วมกับจังหวัดทหารบกสระบุรี และศูนย์ทหารม้าค่ายอดิศร จัดตั้งศูนย์สำรองและประกอบอาหารประทังชีพเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ขาดแคลนอาหาร สืบเนื่องจากเหตุการณ์อุทกภัยที่น้ำเหนือไหลเข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล คาดว่าน่าจะใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้เส้นทางสู่ภาคใต้จะถูกตัดขาด ขณะที่เส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังมีปัญหาในการสัญจร อาจมีผลให้เกิดการขาดแคลนอาหาร จึงต้องเตรียมสำรองอาหารเพื่อรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
โดยศูนย์แห่งนี้จะเป็นที่สำรองอาหาร และประกอบอาหาร สามารถเก็บได้นานไม่น้อยกว่า 7 วัน รวมทั้งจะเป็นแหล่งบรรจุอาหารประทังชีพเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ซึ่งจะนำไปโปรยทางเฮลิคอปเตอร์ให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่รถไม่สามารถเข้าถึง โดยทางศูนย์ฯ ได้เปิดรับวัตถุดิบประกอบอาหาร อาทิ เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และอาหารแห้ง ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาสามารถนำมาบริจาคได้ที่ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี หรือศาลาจังหวัดทุกจังหวัด ขณะนี้มีถุงอาหารประทังชีพสำรองแล้วกว่า 1,000 ถุง
พร้อมกันนี้ได้ทอดพระเนตรการบรรจุอาหารประทังชีพเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ซึ่งมีอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยากสภากาชาดไทย รวมทั้งจิตอาสาไปร่วมบรรจุอาหาร อาทิ ไข่ต้ม หมูหยอง หมูแผ่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม ในถุงที่ลอยน้ำได้ และอยู่ในสภาพปลอดภัยเมื่อนำไปโปรยทางเฮลิคอปเตอร์
นอกจากนี้ภายในค่ายอดิศรยังมีรถประกอบอาหารเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) สามารถผลิตอาหารกล่องปรุงสุกได้วันละ 3 พันชุด นำไปแจกจ่ายตามศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่จังหวัดสระบุรี วันละ 2 มื้อ ในการนี้ทรงปรุงแกงเขียวหวานไก่ประทานด้วย
จากนั้นประทับรถยนต์ที่นั่งไปยังสระน้ำโครงการพระราชดำริภายในค่ายอดิศร ทอดพระเนตรการทดสอบการโปรยถุงอาหารประทังชีพจากเฮลิคอปเตอร์ลงน้ำ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์เบล 412EP จากฝูงบิน 201 กองบิน 2 จังหวัดลพบุรี มาทำการทดสอบโปรยถุงอาหารประทังชีพในระยะความสูง 20 ฟุต 50 ฟุต และ 100 ฟุต เพื่อหาระดับความสูงที่เหมาะสมสำหรับนำไปสู่การปฏิบัติจริง ให้ผู้ประสบภัยสามารถรับถุงอาหารได้อย่างปลอดภัย ซึ่งผู้ต้องการอาหาร ให้แสดงสัญลักษณ์ให้เฮลิคอปเตอร์เห็นอย่างชัดเจน เช่น ใช้ธง หรือเสื้อผูกปลายไม้ไว้บนหลังคา
การทดสอบวันนี้ พบว่าการโปรยในทุกระยะมีความเหมาะสมให้ปรับไปแต่สภาพของแต่ละพื้นที่สำหรับการช่วยเหลือ ซึ่งจะได้ขยายผลไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยฉุกเฉินในครั้งต่อไป ทั้งนี้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) สภากาชาดไทย จะนำถุงอาหารประทังชีพเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ไปปฏิบัติจริงบนถนนบรมราชชนนี หลังสถานีรถไฟศาลาธรรมสพณ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้
จากนั้นเสด็จไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราววัดบัวลอย อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ในการนี้ถวายถุงยังชีพพระราชทานแด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณร 36 รูป แล้วทรงเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ที่มาพักพิงภายในศูนย์
น่าชื่นชมในความเมตตาทุกวิถีทางเพื่อให้ถุงยังชีพถึงมือประชาชน โดยตรงเช่นนี้ค่ะ
เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆครับ
R2R คือความเรียบง่าย ตรงไปตรงมา แต่นำไปสู่การพัฒนา..
เมื่อผู้บริหารประเทศ เห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศชาติ มากกว่าผลประโยชน์ของตนและพรรค
วิกฤตการณ์ทั้งหลาย ย่อมจะผ่านไปด้วยดีครับ..
ขอบคุณครับคุณหมอ
เราต้องเชื่อมั่น...ประเทศของเรา
มีคุณงามความดีคุ้มครอง มากกว่า...คุณไม่งามความไม่ดี
อันนี้ก็ต้อง R2R ต่อไปนะคะ
สวัสดีค่ะคุณหมออิสาน
สบายดีนะคะ ส่งกำลังใจกับ อาร์ทูอาร์
มาบอกว่า ภาพใหม่ จับได้ที่ท่าเรือ ไว้จะนำภาพเต็มๆ กะบรรยากาศมาให้ชมนะคะ
แซบนัวเที่ยงวัน อ้อ วันก่อนดูหนังเรื่อง เีปียโนนี้เพื่อเธอ .. ระลึกถึงเธอคุณหมอกะหนุ่มทิมดาบเลยค่ะ
เลื่อมใสในมุมมองค่ะ (^_^)