เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆครับที่จะต้องหยุดงานไปนานขนาดนี้ นับจากวันที่น้ำเริ่มเข้าท่วมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 เป็นค่ำคืนที่แสนโหดร้ายมากๆครับ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ที่น้ำเริ่มเข้ามายังตัว กศน.อำเภอพระนครศรีอยุธยา และ สำนักงานจังหวัด เวลาแค่ 2 ชั่วโมง น้ำขึ้นมาถึงระดับเกือบเอว สูงกว่าพนังปูนที่กั้นไว้ในแต่ละห้อง สิ่งที่พอจะทำได้คือ เอาสิ่งที่สำคัญ ยกให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เริ่มจากคอมพิวเตอร์ และเอกสารต่างๆ
คืนนั้นต้องอาศัยนอนที่ สำนักงานจังหวัดกับ ท่าน ผอ.ดิศกุล และนายฤทธิโรจ เพื่อเฝ้าระวัง จนกระทั่งเช้า
กลับไปพักผ่อนได้ไม่ถึง 10 นาที ต้องเดินลุยน้ำจากที่พักใช้เวลาเกือบชั่วโมง มาย้ายของให้สูงขึ้นไปอีก และกู้คอมพิวเตอร์ที่ได้รับความเสียหายบางส่วนขึ้นมา โดยมี อ.ทอมและอ.เตาะร่วมช่วยกันโดยที่ไม่รู้ว่า ไฟฟ้ายังไม่ได้ตัดกระแสไฟเลย แต่ก็โชคดีที่ไม่เป็นอะไร
เสร็จสิ้นภารกิจ กลับถึงที่พัก ต้องตัดสินใจย้ายไปที่อื่นเพราะไฟฟ้าและน้ำไม่มี สิ่งที่เก็บตุนไว้มีเพียงน้ำดื่มและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่ไฟฟ้าไม่มีจะเอาอะไรต้ม เดินทางไปถึงภาชี พร้อมนายฤทธิโรจ เวลา 18.00 น. พักผ่อนเต็มที่ เช้าวันต่อมาจึงชวนกันขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อจะเข้ามาช่วยเหลือในสำนักงาน แต่ก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากเส้นทางจากภาชีไปอุทัย กระแสน้ำไหลแรงมาก จึงเปลี่ยนเป็นการสำรวจพื้นที่แทน ตั้งแต่ พระแก้ว กระจิว ไปจนถึง ทางเลียบคลองรพีพัฒน์ อ.ท่าเรือ จึงกลับไปพักผ่อนอีกหนึ่งคืน โดยคอยติดตามข่าวสารอยู่เสมอ จนประสานงานให้กับ นศ บางคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ ตลอดคืนวันที่ 9 ต.ค. 54 วันที่น้ำท่วมเกาะเมือง เช้าวันที่ 10 ต.ค. 54 ตัดสินใจ เข้าไปตั้งหลักอยู่ที่ อ.ปากเกร็ด เพื่อนำรถยนต์ไปฝากที่บ้านญาติ วันที่ 11 ต.ค. 54 จึงกลับมาถึงบ้าน ที่ อ.วิเศษฯ จ.อ่างทอง แม้จะไม่ได้เดือดร้อนเรื่องน้ำท่วมมากนัก แต่ก็ไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ และในโอกาสนี้ หจก.ล ศรีทองคำ ร่วมกับ ชาวบางจักบางส่วน ทำข้าวกล่อง 500 ชุด พร้อมขนมและน้ำดื่ม ไปช่วยเหลือ คน อ.มหาราช เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 54 ที่ผ่านมา ถึงแม้จะไปช่วยที่ศูนย์ช่วยเหลือตามจุดสำคัญๆ ของ กศน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่ได้ แต่ก็เลือกที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้จากจุดนี้ ซึ่งผลลัพย์ที่ได้คงไม่ต่างกัน นั่นก็คือน้ำใจที่ให้คนไทยด้วยกัน นั่นเอง
อ่านแล้วทำให้รู้ข้อมูลต่างๆที่ยังไม่รู้ มากขึ้นครับ