วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๔
เรื่อง ขอพิจารณาปรับเปลี่ยนสถานะบุคคลตามกฎหมายทะเบียนราษฎรที่เหมาะสมให้แก่ นายยอด ปอง และ นางลี ปอง
เรียน นายอำเภอแม่สาย
สิ่งที่ส่งมาด้วย
๑. บันทึกการสอบปากคำผู้ร้องของบางกอกคลินิก “กรณีศึกษา ยอด ปอง: คนไร้สัญชาติใน ท.ร.38/1 แห่ง มหาวิทยาลัยบูรพา” วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ โดย นางสาวปวีณา โกศลจิตกุล
๒. ข่าวของ นายยอด ปอง ใน คอลัมน์วิถีชีวิต หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ “อีกฉากชีวิตไร้สัญชาติ ยอด ปอง อีกเงาสะท้อนที่น่าคิด??”
สำเนาถึง
๑. ประธานเครือข่ายผู้เสียโอกาส กลุ่มชาติพันธุ์ และคนจนเมือง คณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย
๒. ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
๓. อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
๔. ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ
ด้วย โครงการบางกอกคลินิกเพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล กองทุนศาสตราจารย์คนึง ฦาไชย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ก่อตั้งขึ้นจากความตั้งใจของนักศึกษาปริญญาโทและนักศึกษาปริญญาเอกที่อาสาทำงานให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีปัญหาสถานะและสิทธิบุคคลที่เข้ามาร้องขอคำปรึกษากฎหมายจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีท่านรองศาสตราจารย์ ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร เป็นที่ปรึกษาของโครงการฯ โครงการบางกอกคลินิกฯ มีหน้าที่ (๑) ให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคลที่มีปัญหาดังกล่าวที่ร้องเข้ามาทางคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นการทั่วไป (๒) ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในกรณีที่เร่งด่วน หรือ กรณีที่สามารถพัฒนาเป็นต้นแบบการแก้ไขปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลอย่างเป็นระบบได้ และ (๓) ผลักดันให้เกิดการปฏิรูปกฎหมายนโยบาย หรือ ปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมายนโยบาย โดยใช้ข้อเท็จจริงของกรณีศึกษาเป็นพื้นฐานในการตรวจสอบความใช้ได้ของกฎหมายนโยบายรวมถึงการบังคับใช้กฎหมายนโยบายด้วย ทั้งนี้ หลักการในการดำเนินการของโครงการฯ จะให้เจ้าของปัญหาเป็นผู้แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองภายใต้การควบคุมดูแลของคณะทำงานของโครงการฯ
ในการนี้ กรณีของ “นายยอด ปอง” รวมถึง มารดา คือ “นางลี ปอง” ก็เป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่อยู่ในความดูแลของโครงการฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๙ และจากข้อเท็จจริง (โปรดดูสิ่งที่ส่งมาด้วย ๑) ทำให้สรุปได้ว่า แม้ว่า นายยอด ปอง และ มารดา จะเป็นบุคคลที่อพยพมาจากนอกประเทศก็จริง แต่ทั้งคู่ก็อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานกว่า ๑๖ ปี (ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๘) จนกระทั่งมีความกลมกลืนกับสังคมไทย แต่เนื่องจากทั้งคู่ได้ย้ายลงมาทำงานที่สวนกล้วยไม้ในจังหวัดสมุทรสาครในช่วงเวลาที่อาจจะมีการสำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จึงทำให้ทั้งคู่ต้องตกหล่นจากการสำรวจดังกล่าว อีกทั้งทำให้นางลี ปอง ต้องมาขึ้นทะเบียนแรงงาน และ นายยอด ปอง ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ติดตาม และถูกบันทึกในแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ท.ร.๓๘/๑) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๗ เป็นต้นมา
จากสถานการณ์ที่ได้กล่าวมาในข้างต้นส่งผลกระทบเชิงลบด้านสิทธิหลายประการแก่ทั้งคู่มาโดยตลอดจากการได้รับการบันทึกสถานะบุคคลที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว โดยเฉพาะ นายยอด ปอง ซึ่งเป็นเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาของไทย ไม่ว่าจะเป็น สิทธิในการพัฒนาสถานะบุคคลตามกฎหมายไทย หรือ สิทธิในหลักประกันสุขภาพซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานทางสาธารณสุขอย่างหนึ่ง
ดังนั้น เพื่อเป็นการปรับสถานะบุคคลตามกฎหมายทะเบียนราษฎรของทั้งคู่ให้เหมาะสม กล่าวคือ จากสถานะของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ใน ท.ร.๓๘/๑ มาเป็น บุคคลที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน (บุคคลกลุ่มที่ ๑ ตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล ตาม มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๔๘) ใน ท.ร.๓๘ ก นอกจากนี้ยังเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) พ.ศ.๒๕๐๙ ว่าด้วยสิทธิที่จะได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคคลตามกฎหมาย (ข้อ ๑๖) เพื่อให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากสภาวะความไร้รัฐและได้รับการรับรองสิทธิในสถานะบุคคลที่เหมาะสมในที่สุด ทางคณะทำงานโครงการฯ จึงพิจารณาและเห็นควรนำเรียนเรื่องดังกล่าวต่อท่านซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในพื้นที่เพื่อพิจารณาและแก้ไขปัญหาของบุคคลทั้งสองอย่างเร่งด่วน จักเป็นพระคุณยิ่ง
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
นางสาวบงกช นภาอัมพร
คณะทำงานโครงการบางกอกคลินิก
เพื่อให้คำปรึกษากฎหมายด้านสถานะและสิทธิของบุคคล
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สิ่งที่ส่งมาด้วย 1: http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/765/964/original_Attach-1.pdf
สิ่งที่ส่งมาด้วย 2: http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/765/965/original_Attach-2.pdf
ไม่มีความเห็น