508 ตลาดอินเดีย...อยู่ที่ไหน


อยู่ที่ใจ

 

 

 

ตลาดอินเดีย...อยู่ตรงไหน

 

การพูดถึงเรื่องอินเดียในฐานะที่เป็นตลาดใหม่ สำหรับคนไทยไม่น่าสนใจมากนักเพราะมีทัศนคติที่ลบทำให้มองไม่เห็นตลาดนี้ชัดเจน อันว่าทัศนคติต่อคนอินเดียนี้ เป็นเรื่องที่จะต้องมีการรณรงค์และดำเนินการกันแก่ไขอย่างจริงจังเพื่อให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องกับอินเดียที่เปลี่ยนไปแล้ว ทัศนคติเป็นอุปสรรคทำให้นักธุรกิจไทยทุกระดับโดยเฉพาะขนาดกลางและเล็กไม่กล้าที่จะรุกอินเดียทั้งที่รู้ว่าตลาดอินเดียอาจจะน่าสนใจ การทำความเข้าใจในเรื่องทัศนคติจึงเป็นปัญหาแรกที่จะต้องดำเนินการ ทั้งหมดนี้ มิใช่เพื่ออะไร...แต่เพื่อผลประโยชน์ของคนไทยโดยรวมนั้นเอง 

ถามว่าตลาดอินเดีย อยู่ตรงไหน ก็เป็นคำถามที่จะต้องตอบและชี้ให้เห็นว่า อะไรคือความน่าสนใจของอินเดีย อะไรคือตลาด ตามปรกติ ที่ใดมีตลาด นักธุรกิจจะเข้าไปแข่งขันและแย่งชิงผลประโยชน์ที่นั่น อินเดียก็เช่นกัน ที่ใดเป็นตลาด นักธุรกิจไทยก็น่าจะเข้าไปแย่งชิง ฉะนั้นทัศนคติควรเป็นเรื่องที่จะต้องมองข้ามไปให้ได้หากจะแสวงหาผลประโยชน์ในโลกธุรกิจปัจจุบัน

 

มองให้ดี จึงจะเห็นโอกาส

เมื่อพูดถึงเรื่องทัศนคติแล้วก็ต้องมาพูดถึงเรื่องการมอง หากข้ามพ้นทัศนคติแล้วเราจะมองเห็นอินเดียตรงถูกต้องอย่างที่เป็นอยู่ซึ่งก็แน่นอนว่าอินเดียมีทั้งคนรวยและคนจน มีทั้งสิ่งที่ไม่พัฒนาและสิ่งที่พัฒนาแล้ว มีทั้งมาตรฐานและที่ไม่ได้มาตรฐาน มีทั้งสกปรกและสะอาด หรือพูดตามประสาชาวบ้านมีทั้งสวรรค์และนรกอยู่ด้วยกันแต่ในสิ่งที่ไม่พัฒนา สิ่งที่ไม่ดีไม่ได้มาตรฐานทั้งหมดนั้น ในมุมกลับก็คือโอกาสในด้านธุรกิจที่ยังเปิดอยู่ใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่อยากฝากให้นักธุรกิจไทยได้คิดกันต่อไป

 

ตลาดของผู้บริโภค

อินเดียเป็นตลาดของผู้บริโภคขนาดใหญ่แน่นอนเพราะประชากรพันสองร้อยล้านคน ล้วนกำลังต้องการการบริโภคสินค้าที่หลากหลายและในทุกวรรณะ การบอกว่าอินเดียเป็นประเทศที่ยากจนเพราะมีคนจนจำนวนมากกว่าคนรวย ก็ไม่ผิด แต่ในอินเดีย แม้จะมีระบบวรรณะซึ่งทำใหคนอยู่ในกลุ่มของตนเองได้อย่างไม่มีปัญหา ก็เป็นที่น่าสังเกตุว่าทุกวรรณะมีความต้องการและมีกำลังที่จะบริโภคสินค้าต่างๆ เช่นเดียวกับคนในประเทศอื่นๆ ยกตัวอย่างอาหาร แม้คนส่วนหนึ่งจะเป็นมังสะวิรัติแต่ก็เริ่มนิยมบริโภคอาหารที่หลากหลายและในรูแบบใหม่ๆ เช่น แมคโดนัล ปิสซ่าก็พัฒนามีเมนูอาหารสำหรับคนอินเดียที่เป็นมังสะวิรัติด้วย และนับวันจะได้รับความนิยมจากคนอินเดียรุ่นใหม่ คนฮินดูแม้ไม่บริโภคเนื้อวัวแต่ก็นิยมเนื้อไก่ แกะ แพะ ปลาและกุ้งเป็นอย่างมาก หรือตัวอย่างของสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ อินเดียเป็นตลาดที่ใหญ่มาก เรามักจะคิดกันว่าเฉพาะคนรวยเท่านั้นที่จะซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ แต่สำหรับอินเดีย ทุกวรรณะมีกำลังซื้อ ตามวรรณะของตนด้วยและวรรณะล่างซึ่งรวมถึงคนชั้นกลางรุ่นใหม่ของอินเดียด้วย มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงค่านิยมตอบรับกระแสโลกาภิวัฒน์เพิ่มมากขึ้น เราจึงได้เห็นคนชั้นกลางซึ่งมีจำนวน 300 ล้านคนเป็นอย่างน้อยนิยมสินค้าต่างประเทศ นิยมไปเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะการไปจัดงานแต่งงานในประเทศไทยโดยมีการใช้จ่ายโดยเฉพาะอัญมณีและเครื่องประดับจำนวนมากในประเทศไทย  ปีที่แล้ว 2553 ตัวเลขที่สำนักงาน ททท.ระบุไว้คือมีคนอินเดียไปเที่ยวเมืองไทยมากถึง 8 แสนคน ซึ่งจำนวนจริงน่าจะมากกว่านั้นและในปีนี้ 2554 คาดกันว่าจะมีคนอินเดียไปเที่ยวเมืองไทยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ซึ่งถือว่าชัดเจนในแง่ของกระแสการบริโภคของคนอินเดียรุ่นใหม่

ที่เห็นได้ชัดเจนอีกประการหนึ่งคือวิถีชีวิตของคนเมืองใหญ่ๆ เริ่มพัฒนาไปสู่ความทันสมัยมากขึ้น ปัจจัย 4 และปัจจัยอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามกระแสโลก ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคอาหารประจำวัน ที่คนนิยมออกไปทานอาการนอกบ้านมากขึ้น ภาพยนตร์ต่างประเทศเป้นที่นิยมมากขึ้นการมีมือถือ โทรทัศน์จอแบน รถยนต์และบ้านส่วนตัว สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเรื่องปรกติของคนชั้นกลางไปแล้ว รวมทั้งการการแต่งกาย

สิ่งที่เห็นได้ชัดถึงการเป็นตลาดที่น่าสนใจก็คือบริษัทไทยชั้นนำบางบริษัทได้เริ่ม”มองเห็น” และเริ่มรุกและขยายกิจการในอินเดียแล้ว เช่น บริษัทซีพีลงทุนผลิตอาหารสัตว์กุ้ง ไก่และปลา ป้อนคนอินเดียมานานหลายสิบปีแล้วและมีนโยบายขยายตลาดอย่างต่อเนื่องต่อไป บริษัทศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ตระหนักถึงความต้องการของคนชั้นกลางรุ่นใหม่ที่ต้องการมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น ขายผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์แวร์ในตลาดอินเดียและประสบผลสำเร็จอย่างสูงในขณะนี้

 

ตลาดบริการ

ตลาดภาคบริการในอินเดียถือว่ามีความน่าสนใจสำหรับต่างชาติที่จะเข้าไปลงทุน เหตุผลก็คือภาคบริการในอินเดียส่วนใหญ่ยังไม่มีคุณภาพ การขนส่งมวลชนที่ยังไม่มีมาตรฐานและไม่สะอาด โรงแรมที่มีคุณภาพยังมีน้อยกับความต้องการมาก โรงพยาบาล ไปรษณ๊ย์ โรงเรียน การจัดระบบสาธารณะต่างๆ การจัดการขยะ น้ำเสีย การบริการร้านอาหาร ทุกอย่างมีปัญหาความไม่มีมาตรฐานและถูกสุขลักษณะ แต่ก็นั่นคือสิ่งที่แสดงถึงความจำเป็นที่รอความต้องการที่สูงถึงระดับเมื่อไหร่ ก็จะต้องมีการปรับปรุงเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว คนอินเดียชั้นสูงและนักธุรกิจระดับชาติต่างต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของสัมคมอินเดียตรงนี้ หลายคนถึงกับบอกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีภาคบริการเข้มแข็ง คนอินเดียต้องเรียนรู้จากคนไทย 2 เรื่องคือความสะอาดและมารยาท สิ่งนี้คือภาคบริการที่เราสามารถเข้าไปให้บริการคนอินเดียได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็มีนักธุรกิจไทยเริ่มเห็นโอกาสตรงนี้แล้วเช่นกัน นั่นคือเครือดุสิตธานี ซึ่งได้เข้าไปร่วมทุนกับคนอินเดียสร้างโรงแรม รับบริหารกิจการโรงแรมระดับ 5 ดาวให้ โดยใช้ชื่อดุสิตธานี ในขณะที่ Harn Spa ธุรกิจของคนไทยอีกสาขาหนึ่งก็รุกตลาดคนอินเดียชั้นสูงที่ต้องการรับบริการที่มีมาตรฐานในด้านสปาซึ่งก็ดำเนินกิจการมาหลายปีแล้ว รวมทั้งกิจการโรงภาพยนตร์และโบว์ลิ่งที่เมเจอร์ซีเนเพล็กของไทยไปทำธุรกิจภาพยนตร์และโบวลิ่งในห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัยในอินเดีย นอกจากนั้นร้านสะดวกซื้ออย่าง 108 สมาร์ทช๊อปก็ไปเปิดร้านสะดวกซื้อในเดลีและเมืองใกล้เคียง 8-9 สาขา ซึ่งก็ปรากฏว่ากิจการประสบความสำเร็จด้วยดีเช่นกัน

ในหลายเมืองใหญ่ของอินเดีย แม่ครัวพ่อครัวชาวไทยก็ต่างไปทำงานให้บริการอาหารไทยอย่างยอดเยี่ยมประกาศศักดาในเรื่องของอาหารไทยให้คนอินเดียได้ประทับใจได้มากทีเดียว

ในด้านของความสะอาด ก็ยังเป็นงานบริการที่น่าสนใจและยังเปิดกว้าง เช่นการจัดระบบการทำความสะอาดของสถานที่สาธารณะเมือง การกำจัดขยะ ระบบการขนส่งและจราจรต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่รอการปรับปรุงในอนาคตไม่ว่าจะจากคนอินเดียเองหรือจากต่างชาติ

 

ตลาดงานก่อสร้าง

ที่ใดมีการก่อสร้างก็แสดงว่ามีเริ่มมีการปรับปรุงและการพัฒนาเกิดขึ้น ในอินเดียโครงสร้างพื้นฐานยังล้าหลังมาก เนื่องจากอินเดียเป็นประเทศใหญ่ การพัฒนาในด้านนี้ยังไม่กระจายสู่ทุกภาค รัฐใด เมืองใดที่เป็นเมืองสำคัญ เป็นศูนย์กลางการเมืองและธุรกิจที่มีคนชั้นสูงและพ่อค้าอยู่ก็จะได้รับการพัฒนาก่อน รัฐหรือเมืองที่เหลือก็ค่อยๆ พัฒนาไปกันเอง ความแตกต่างระหว่างรัฐ ระหว่างเมืองจึงห่างกันมาก แต่ก็นั่นแหละ เพราะความแตกต่างนี้ ในวันนี้จึงทำให้มีการส่งเสริมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศขนานใหญ่ ทำให้อินเดียเป็นตลาดของการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของภูมิภาคและของโลก บริษัทไทยเช่นอิตัลไทยและพฤกษาจึงไม่พลาดที่จะไปรุกตลาดนี้ซึ่งมีโครงการมากมายนับตั้งแต่สร้างถนน เขื่อน สนามบิน จนถึงรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่วนบริษัทพฤกษานั้นก็รุกด้วยการสร้างบ้านราคาย่อมเยาว์สำหรับคนชั้นกลางรุ่นใหม่ที่ต้องการบ้านพักอาศัยเป็นของตนเองซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของคนรุ่นหนุ่มรุ่นสาวของอินเดีย และกิจการที่ผ่านมาของบริษัทพฤกษาถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างดีในตลาดอินเดีย ยังไม่นับโครงการสร้างถนนและสนามบินตามเมืองต่างๆ อีก 400 เมืองในอนาคตซึ่งบริษัทอิตัลไทยมองและเล็งอยู่ ถ้าเรามองเห็นงานตรงนี้ ก็จะเห็นโอกาศในตลาดอินเดีย

 

ตลาดท่องเที่ยว

ในขณะที่คนอินเดียนิยมไปเที่ยวเมืองไทยในแต่ละปีมากถึง 8 แสนคนนั้น สร้างรายได้ให้คนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ในส่วนของอินเดีย คนไทยเองก็นิยมไปเที่ยวอินเดียโดยเฉพาะสังเวชนียสถานทั้ง 3 แห่ง (1 แห่งอยู่ในเนปาล) แต่ที่น่าสนใจก็คือตลาดอินเดียด้านการท่องเที่ยวนั้นใหญ่และมีศักยภาพสูงโดยเฉพาะด้านวัฒนธรรมและโบราณสถานรวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ตามตัวเลขที่มีการสำรวจมีคนต่างชาติไปเที่ยวอินเดียปีละประมาณ 5 ล้านคน ซึ่งนับว่ายังน้อยมาก ทั้งที่อินเดียมีสถานที่น่าท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกอยู่กว่า 14 แห่ง ทั่วประเทศ อุปสรรคสำคัญของอินเดียคือโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ดีพอ

ในแง่ของการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา ตลาดนี้ถือเป็นตลาดของชาวพุทธจากทั่วโลก ที่ต่างประสงค์จะมาสักการะสังเวชนียสถานที่พระพทุธจ้าตรัสรู้ที่พุทธคยา ที่พระพทุธเจ้าแสดงปฐมเทศนาที่สารนาถและที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานที่กุสินารา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะข้ามไปเนปาลเพื่อสักการะลุมพินีสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าด้วย จึงเป็นตลาดของชาวพุทธหลายสิบล้านคนไม่ว่าจะเป็นจากจีน ญี่ปุ่นไต้หวันและธิเบต แต่ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่พัฒนา จึงทำให้รองรับนักท่องเที่ยวได้เพียงประมาณปีละ 3 ล้านคน  ดังนั้นโอกาสทางธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในอินเดียโดยเฉพาะด้านศาสนาจึงยังมีศักยภาพสูงมาก รอเวลาให้ผู้ที่เห็นโอกาสเข้าไปให้บริการและพัฒนา ทั้งนี้ฤดูการแสวงบุญของชาวพุทธจะเริ่มเดือนตุลาคมถึงมีนาคมของทุกปีซึ่งเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบาย บริษัทการบินไทยได้เปิดเที่ยวบินพิเศษ บินตรงจากกรุงเทพฯ – คยา-- พาราณสีและกรุงทพฯ ซึ่งมิได้มีเฉพาะชาวพุทธไทยเท่านั้นที่ใช้บริการแต่ชาวพุทธจากประเทศพุทธในเอเชียและเพื่อนบ้านเช่นเวียดนาม ลาว กัมพูชา ต่างก็ใช้บริการการบินของไทยทั้งนั้นเนื่องจากสายการบินไทยเป็นสายการบินต่างชาติเดียวที่บินจากกรุงเทพฯไปลงคยา และนับวันผู้แสวงบุญจากประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การที่สายการบินไทยอื่นๆ เช่นแอร์เอเชียเปิดเส้นทางบินไปอินเดียจึงเป็นการยืนยันศักยภาพของตลาดการท่องที่ยวอินเดียได้เป็นอย่างดี

นอกจากนั้นการให้บริการทัวร์และบริการที่เกี่ยวข้องเช่นการจัดการการเดินทางในประเทศอินเดีย โดยเครื่องบิน รถไฟและรถยนต์ ที่พักราคาย่อมเยาว์ อาหารก็ล้วนเป็นธุรกิจที่มีอนาคตในการนำนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยและเอเชียตะวันออกฉียงใต้มาอินเดีย สิ่งเหล่านี้จะเกิดไม่ได้เลยหากนักธุรกิจไทยยังมีทัศนคติที่ลบต่ออินเดีย

ดังนั้นถามว่าตลาดอินเดียอยู่ที่ใด ก็ตอบว่าอยู่ที่ทัศนคติ ถ้าไม่ปรับทัศนคติ แม้อินเดียจะเปลี่ยนไปเพียงใด ก็จะมองไม่เห็นตลาดอินเดีย หรือว่าเราอยากเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ยังมองไม่เห็นโอกาสในอินเดีย

 

หมายเลขบันทึก: 463787เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2011 10:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 23:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเปิดโลกทัศน์ ที่มีให้อ่านอย่างจุใจ

ต.ค. ถึง มี.ค. ปี 53 อาจวางแผนไปพุทธคยาพร้อมครอบครัว หากไม่ติดอะไรคะ

เพิ่งทราบว่าแอร์เอเชียจะเปิดสายการบินตรง

Ico48

โอ้ อนุโมทนาสาธุด้วยครับ การไปเยือนแดนพุทธภูมิ แค่คิดก็ได้บุญแล้ว ยิ่งได้พาครอบครัวไปด้วยก็ยิ่งเป็นเสมือนสารถีบุญ สาธุครับ

แอร์เอเชียเป็นโลว์คอสแอร์ไลน์ ค่าโดยสารถูกดีครับ

อย่าลืมเตรียมกายเตรียมใจและเตรียมการเดินทางนะครับ จะได้เก็บเกี่ยวสิ่งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจด้วยครับ สาธุครับ

 

อยากกลับไปเยือนพุทธภูมิอีกบ้างเหมือนกันนะครับ

ขอโทษคะ ดึกแล้วตาลาย ปี 55 ขอบคุณคะ

Ico48

ปี 2012 มีการฉลองบุดด้าชะยันตี ครบรอบ 2600 ปีของการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้านะครับ 

 

Ico48

เอาใจช่วยให้ได้ไปตามที่ตั้งใจนะครับ

 

Ico48

แดนพุทธภูมิ ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงครับ ยังเป็นห้องเรียนทางจิตวิญญานที่ให้ปัญญาเสมอ

ขอเพียงเราเปิดใจกว้าง เรียน ดู รู้ เล่นและผจญภัยไปนี่ละครับ

สวัสดีค่ะ

มาอธิษฐาน

ขอให้ได้ไปอินเดีย

ขอบคุณทิมดาบครับ สำหรับดอกไม้กำลังใจ

หากมีโอกาส ไปหมู่บ้านไทผาเกที่อัสสัมนะครับ

สวัสดีค่ะ

แวะมาหาความรู้ค่ะ

ขอบคุณสำหรับสาระดีๆค่ะ

สักวันคงจะได้ไปบ้างค่ะ

Ico48

ตั้งจิตอธิษฐานครับ ก็จะได้ไป สาธุ

สวัสดีค่ะ

ท่านเป็นท่านทูตที่ได้ทำหน้าที่ ทั้งเชิญขวน และเสนอมุมมองใหม่ให้ อย่างนี้ คนไำทยนักธุรกิจ ไม่ไปขยายธุรกิจแล้วก็เสียดายนะคะ

ดูจากรายการสารคดีคนอินเดียชอบใส่ทองมาก คนไทยเราฝีมือก็ปราณีต วิจิตรบรรจง ตลาดทองน่าจะไปได้สวย อินเดียเป็นตลาดใหญ่เลยนะคะ

ในชั่วชีวิตหนึง ก็อยากไปอินเดียค่ะ คงต้องอธิษฐาน...ทุกสิ่งอย่างมีจังหวะ เวลา และโอกาส...ขอแล้วจักรวาลก็จะให้ เชื่ออย่างนั้นค่ะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆนะคะ

Ico48

สาธุครับ

ตลาดอินเดียเป็นตลาดใหญ่ครับ ใหญ่มากเพราะมีผู้บริโภคมากถึง พันสองร้อยล้าน อยู่ที่เราจะนำเสนอสินค้า บริการและการลงทุนให้คนกลุ่มนี้

ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปอินเดียครับเพราะเป็นแดนพุทธภูมิ

ขอให้สมปรารถนาครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท