49.กิโลเมตรที่ 60

พ่อ-แม่หรือผู้ปกครองส่วนมากมักต้องการให้ลูกหลานรับราชการ....การได้เป็นข้าราชการถือว่าเป็นผู้มีเกียรติครอบครัวมีหน้ามีตา.....มีเงินเดือนกิน.....มีสวัสดิการ.......พ่อ-แม่ของผู้เขียนเช่นกันก็ต้องการให้ผู้เขียนสอบบรรจุเข้ารับราชการหลังจากเป็นครูโรงเรียนราษฎร์อยู่ 1 ปี.....ก็ไม่ผิดหวังสอบบรรจุเป็นครู 2 ที่โรงเรียนมัธยมศึกษาได้ที่ กทม.เริ่มเงินเดือนขั้นต้นในอัตรา 1,375 บาท ไต่เต้าเป็นอาจารย์ 1,2 โดยรับราชการที่นี่เป็นเวลา 3 ปี มีผลงานด้านพลศึกษาโดยสร้างแชมป์แบดมินตันของกรมพลศึกษาประเภททีมชุด 3 ปีซ้อน แล้วโอนย้ายมาอยู่ที่วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดอ่างทองอยู่ที่นี่ 8 ปี ผลงานทางด้านพลศึกษาสร้างแชมป์เซปักตะกร้อประเภททีมชุด 3 ปีซ้อน 2524-2526 เป็นโค้ชคนแรกที่ทำได้.......นักกีฬาทั้งสามชุดยังติดต่อเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นกันมาจนถึงปัจจุบัน....ผู้เขียนภูมิใจในตัวของพวกเขามากและพวกเขาจะนัดพบปะกันเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ถึงแม้บางคนจะล้มหายตายจากไปบ้าง....พวกเขาส่วนใหญ่รับราชการครู เป็นนักบิน 1 คน ทหารช่างเครื่องบิน 1 คนและอาชีพส่วนตัว......ชีวิตที่นี่มีทั้งความสุขความทุกข์คละเคล้ากัน.....ปี 30 ผู้เขียนย้ายไปรับราชการที่วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดชัยภูมิ...ที่ชัยภูมิมีผลงานทางด้านเซปักตะก้อโดยสามารถสร้างแชมป์ประเภททีมเดี่ยวหลายครั้ง.....และที่นี่ผู้เขียนสามารถสร้างนักเซปักตะกร้อติดทีมชาติไทยได้ 3 คน ชาย 1 คน หญิง 2 คน แต่สิ่งที่ผู้เขียนภูมิใจคือเป็นผู้นำจัดการแข่งขันเซปักตะกร้อมาราธอนพญาแลคัพในงานกาชาดจังหวัดชัยภูมิได้ติดต่อกัน 17 ปี ปัจจุบันเป็นถ้วยพระราชทาน........ที่ชัยภูมิเริ่มเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารเมื่อปี 38 ในตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยผู้อำนวยการ...ปี 40 ขยับเป็นรักษาการในตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการและผู้ช่วยผู้อำนวยการในปีเดียวกัน....การก้าวเข้าสู่ในตำแหน่งบริหารในสมัยก่อนลำบากมากต้องแสดงฝีมือในการทำงาน...หนักเอาเบาสู้...มีความอดทนสูง.....โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอดทนต่อผู้ใต้บังคับบัญชา.......การไปอบรมที่วัดไร่ขิงเป็นเดือนๆ ซึ่งตำแหน่งผู้เขียนได้มาโดยฝีมือ...ไม่ใช่ฝีปาก....ก็เป็นสิ่งที่ภูมิใจนะ...ปี 47 ตำแหน่งที่ชุมพรว่างผู้เขียนย้ายมาที่นี่....ปี 48 วิทยาลัยพลศึกษาเปลี่ยนโครงสร้างเป็นสถาบันการพลศึกษา............ผู้เขียนถูกคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองคณบดีคณะศิลปศาสตร์ (คณบดีอยู่ส่วนกลาง) ทำหน้าที่บริหารคณะครบ 4 ปี ถูกคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหาร...จนถึงปี 2553 ครบอายุ 60 ปี ก็เกษียณอายุราชการ....จากเงินเดือน 1,375 บาท จนมาถึงเงินเดือน 37,540 บวกเงินประจำตำแหน่งอีก 12,000 บาท  จากครู 2 อารย์ 1,2,3 มาจนถึงผู้ช่วยอธิการบดีระหว่างเส้นทางมันไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรได้....มันมากมาย  เหลือคณานับที่ต้องต่อสู้กับคำว่า "รับราชการ" มันมีทุกบทบาท..มีทุกรสชาด....แต่ผู้เขียนก็มีความภาคภูมิใจนะที่ผู้เขียนสามารถเดินทางมาจนถึงกิโลเมตรที่ 60....สวัสดีครับ.........