คนส่วนมากเมื่อมารวมกลุ่มกัน และที่เข้ามาตามๆกัน มักคิดว่า
"กลุ่มจะให้อะไรกับเค้าได้บ้าง"
ในทางกลับกัน ถ้าทุกคนช่วยกันคิดว่า
"เราจะให้อะไรกับกลุ่มได้บ้าง"
กลุ่มจึงจะพัฒนารุดหน้าต่อไปได้
พิจารณา " ความสามารถในการทำงานของเครื่องจักร กับพื้นที่ให้สอดคล้องกัน" ถ้า Cap เหลือมาก ก็คือ ค่าเสียโอกาส"
คนส่วนมากเมื่อมารวมกลุ่มกัน
และที่เข้ามาตามๆกัน มักคิดว่า
"กลุ่มจะให้อะไรกับเค้าได้บ้าง"
ในทางกลับกัน ถ้าทุกคนช่วยกันคิดว่า
"เราจะให้อะไรกับกลุ่มได้บ้าง"
กลุ่มจึงจะพัฒนารุดหน้าต่อไปได้
ดำนาข้าวหอมมะลิ ๑๐๕ ไปแล้วตั้งแต่วันที่ ๒๙ สค. ตอนนี้กำลังงาม
...ทำอย่างไร...ทุกภาคส่วนจะเห็นความสำคัญของภาคเกษตร...อย่างจริงใจ...มากกว่านี้...เพราะชาวนาตอบไม่ได้ว่าใครจะสืบทอดอาชีพชาวนา...บางคนก็ชอบที่จะเอาชาวนามาอ้าง...เอาความยากจนของชาวนามาเป็นเครื่องมือ...หนุนนำตัวเองเข้าสู่อำนาจ...อยู่ตลอดเวลา...
ตอนนี้ ปักดำ แตกกอ ปล่อยเป็ด เรียบร้อยไปแล้วครับ
ลงบันทึก ไม่ทัน ครับ
ขอบคุณคุณผึ้งงาน ครับ
ความคาดหวัง ในการเปลี่ยนเเปลง จากคนอื่น คือ "รอ" แล้วก็ไม่รู้เมื่อไหร่ครับ กำหนดไม่ได้ สู้การ "ริเริ่ม" เปลี่ยนเเปลงที่จากภายใน "ตัวเอง"ไม่ได้ครับ ไม่เสียกำลังใจด้วย - - - กำหนดได้ดังใจ
ขอบคุณครับอ.โสภณ
เพราะตั้งใจทำ จึงได้มา ครับ เรื่องแบบนี้ไม่ "รอ"ใครมาช่วยครับ
ชอบแนวคิดที่คุณต้นกล้าได้นำเสนอในบันทึกนี้ (ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกอาชีพ ที่ผู้ประกอบการเป็นนายตัวเอง) ได้แก่
1) แนวคิดทางพุทธศาสนา "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" และแนวคิดทางจิตวิทยา "ความเชื่ออำนาจในตน (Belief of Internal Locus of Control)" หรือพูดง่ายๆ คือ "อัตลิขิต" (ตรงกันข้ามกับ พรหมลิขิต) คือ เชื่อว่า ตนเองเป็นผู้ที่สามารถบันดาลให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น ไม่ใช่คนอื่นหรือสิ่งอื่น คนที่เชื่อแบบนี้ จะใช้ความสามารถสูงสุดที่ตนเองมีอยู่เพื่อให้เกิดผลตามที่ต้องการ และจะเรียนรู้ พัฒนาทักษะ แสวงหาทรัพยากรสนับสนุนการทำงาน (5 Ms) เพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพของงาน
2) การทำงานระบบกลุ่ม ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะมีจุดอ่อนในเรื่องนี้ องค์ประกอบสำคัญของการทำงานระบบกลุ่มที่ดี สมาชิกกลุ่มต้อง (1) มีเป้าหมายร่วมกัน โดยนำเป้าหมายของกลุ่มมาเป็นเป้าหมายของตนเอง ไม่ใช่นำเป้าหมายของตนเองไปเป็นเป้าหมายของกลุ่ม (2) ทุกคนมีส่วนร่วมตามบทบาทที่สอดคล้องกับความถนัดของตน (3) ความสำเร็จหรือผลของงานเป็นความสำเร็จของกลุ่ม ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง (4) มีกิจกรรมย้อนกลับไปพิจารณาปัญหาอุปสรรคในการทำงานและหาทางป้องกันแก้ไข เพื่อหาทางเพิ่มประสิทธิภาพ/ประสิทธิผลของงานในโอกาสต่อๆ ไป