กิจกรรมพอเพียงสู่ชุมชนโดยโครงงานอาชีพ
ความเป็นมา
กิจกรรมพอเพียงสู่ชุมชนโดยโครงงานอาชีพเป็นกิจกรรมที่ได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจากสถานศึกษาสู่ชุมชน โดยได้จัดกิจกรรมกลุ่มสนใจสมุนไพร และนำสมาชิกในกลุ่มได้จัดทำโครงงานน้ำยาล้างอเนกประสงค์จากมะกรูด (โดยได้รับงบประมาณภายนอก ของชุมชนบ้านอัมพวันจำนวน 50,000 บาท) นำผลผลิตออกจำหน่ายให้เด็กได้มีรายได้ระหว่างเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และเป็นโครงงานที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของสถานศึกษา ได้นำไปขยายผลสู่ผู้ปกครองนักเรียนเครือข่าย (ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน) ในปีการศึกษา 2552 และทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ได้นำไปนำเสนอและจัดนิทรรศการหลายแห่ง ทั้งในสถานศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบล,สำนักงานจัดหางานจังหวัดแพร่ จากนั้นได้คิดเพิ่มเติมต่อยอดเป็นโครงงานอื่น ๆ อีกมากมาย เช่นจัดทำโครงงานเจลล้างมือสมุนไพร โครงงานแปรรูปหม่อน โครงงานน้ำส้มสายชูพร้อมดื่ม(ไวน์เปรี้ยว) ทำยาไล่ยุงตะไคร้หอม โครงงานทำขนมไทยสมุนไพร โครงงานการจักสานไม้ไผ่เป็นของใช้ การถักใบเตยตั้งโต๊ะ ส่งเสริมการปลูกผัก การทำน้ำหมักชีวภาพจากขยะผลไม้และการแยกขยะเพื่อเป็นรายได้ของเด็ก ซึ่งมีพื้นฐานประยุกต์การใช้จุลินทรีย์ E M และให้คนในชุมชนรู้จักการประหยัดและรักษาสิ่งแวดล้อม
ความมุ่งหมาย
1. การประชาสัมพันธ์ข่าวสารความเคลื่อนไหวทางโรงเรียนให้ชุมชนได้รับทราบ
2. การบริหารงบประมาณ , ทรัพยากรในชุมชนและใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
3. การติดตามพฤติกรรมนักเรียนโดยทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ออกกลางคัน
4. ในชุมชนรู้จักพอเพียงในชีวิตประจำวัน
ขอบข่าย
1. นักเรียนที่จัดทำโครงงานอาชีพอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นสมาชิกกลุ่มสนใจสมุนไพร จำนวน 17 คน(เป็นนักเรียนที่มีฐานะทางครอบครัวยากจน มีความขยัน ตั้งใจทำงาน ไม่ยุ่งเกี่ยวสารเสพติด มีจิตอาสาสละเวลาหลังเลิกเรียนและในวันหยุด)
2. เป็นลักษณะโครงงานอาชีพ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ลดรายจ่าย
เพิ่มรายได้ โดยมีพื้นฐานประยุกต์การใช้จุลลินทรีย์ E M,สมุนไพรบางชนิด และให้คนในชุมชนรู้จักการประหยัดและรักษาสิ่งแวดล้อม โครงงานที่ประสบผลสำเร็จสู่ชุมชนคือน้ำยาล้างอเนกประสงค์มะกรูดและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหม่อน
3. ผลผลิตจากโครงงานอาชีพสามารถเป็นสินค้าจำหน่ายในชุมชนหรือร้านค้าสหกรณ์โรงเรียน ได้อย่างต่อเนื่อง
4. กิจกรรมโครงงานของนักเรียนขยายผลไปสู่ผู้ปกครองนักเรียน ,ชุมชนบ้านอัมพวัน , องค์การบริหารส่วนตำบลเตาปูน ,นำไปจัดนิทรรศการให้สาธารณชนได้รับรู้และทุกคนที่ได้เรียนรู้กิจกรรมนำไปทำเองที่บ้านได้
วิธีดำเนินการ
1. ศึกษาหลักสูตร สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ซึ่งการพัฒนานักเรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดนั้น จะช่วยให้นักเรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ คือ 1. สมรรถนะในการสื่อสาร 2. สมรรถนะในการคิด 3. สมรรถนะในการแก้ปัญหา 4. สมรรถนะในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี โครงงานอาชีพจึงได้สอดแทรกในกิจกรรมแนะแนว เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะในการใช้ทักษะชีวิต ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
สมรรถนะในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงานและการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงและสภาพแวดล้อมและการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
มาตรฐานการแนะแนว ด้านคุณภาพผู้เรียน มาตรฐานที่ 2 ผู้เรียนสามารถวางแผนชีวิตในด้านการศึกษา ด้านอาชีพ ด้านส่วนตัวและสังคม มาตรฐานที่ 4 สถานศึกษามีการบริหารและการจัดการงานแนะแนวอย่างเป็นระบบ
2. แสวงหาครูภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้มามีส่วนร่วมจัดกิจกรรมในโรงเรียน (จัดกิจกรรมแบบฐานเรียนรู้ ทั้งนี้ได้มีบทบาทในหลักสูตรสถานศึกษา สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น)และการต่อยอดพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยไปแหล่งเรียนรู้หรือหาความรู้เพิ่มเติมจากผู้ที่สามารถผลิต ผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญด้านกิจกรรมการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ประยุกต์ใช้วัตถุในท้องถิ่น ฯลฯ
3. ได้นำกิจกรรมแปรรูปสมุนไพรมาปฏิบัติในห้องเรียน ในกิจกรรมแนะแนวจัดเป็นการสอนแบบโครงงานต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์ให้นักเรียนได้ไปทดลองใช้ , ผู้ปกครองได้ร่วมใช้ เมื่อทุกคนที่ใช้ตอบรับว่าพึงพอใจในผลงาน จึงจัดทำขยายผลปริมาณมากขึ้น มีนักเรียนสนใจทำหลายคน ฝึกคิดค้นเพิ่มเติมสร้างสรรค์ นำเสนอในแบบเอกสารและจัดเป็นนิทรรศการโครงงานอาชีพ
4. โครงงานอาชีพมีองค์กรในชุมชน หน่วยงานทางราชการจากอำเภอ ให้ไปจัดนิทรรศการเช่น การประเมินกำนันตำบลเตาปูนดีเด่น,เทศบาลตำบลห้วยหม้าย,โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 31,การประเมินครูสอนดีประจำตำบลเตาปูน,การประกวดโครงงานอาชีพในจัดหางานจังหวัดแพร่,โรงเรียนแกนนำเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา ของสพป.แพร่ เขต 1 และได้รับการตรวจเยี่ยมจากคณะปลัดจังหวัดแพร่ ปลัดอำเภอสอง,ศึกษานิเทศน์ ของสพป.แพร่ เขต 1
5. การได้สร้างความเป็นผู้นำให้นักเรียน มีความรู้ความสามารถที่จะถ่ายทอดให้ผู้อื่นรับรู้ในกิจกรรมที่ดำเนินงานและนำไปสู่ชุมชนพอเพียง และนักเรียนมีจิตอาสา ในปีการศึกษา 2553 ครูและนักเรียนได้เป็นวิทยากรด้านโครงงานอาชีพและการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปขยายผลในชุมชน ให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของสพป.แพร่ เขต 1 ,โรงเรียนบ้านดอนแก้ว ตำบลห้วยหม้าย,โรงเรียนบ้านท่าวะ ตำบลสะเอียบ และองค์การบริหารส่วนตำบลเตาปูน
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
1. ครู ที่ทุ่มเท เสียสละเวลาการทำงานให้แก่เด็กเพราะการสอนกิจกรรมโครงงานต้องใช้เวลาจึงจะเห็นผลและมีความเป็นไปได้ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือจัดทำเป็นรายได้เสริมและตัวครูต้องเป็นที่รู้จัก ยอมรับของคนในชุมชน ซึ่งต้องไปเป็นวิทยากรขยายผลให้คนในชุมชนได้
2. นักเรียนมีจิตอาสา ต้องมีความขยัน ติดตาม เอาใจใส่ผลงาน และสละเวลาในช่วงวันหยุดได้
3. โครงงานอาชีพขยายผลเข้าสู่ชุมชน มีจุดเน้นที่การประหยัด ใช้สมุนไพรที่มีอยู่ในท้องถิ่นและมีตามฤดูกาล ซึ่งจะลดรายจ่ายของครอบครัวลงได้ เมื่อได้เรียนรู้สามารถที่จะทำเองได้
4. งบประมาณที่สนับสนุน สามารถนำไปลงทุนเป็นสินค้าที่จำหน่ายได้และมีทุนหมุนเวียน รายได้ส่วนหนึ่งแบ่งปันให้สมาชิกในกลุ่ม
5. ตลาดนัดวิชา เพื่อเผยแพร่ผลงาน สินค้าในโครงการเพื่อการจำหน่ายสู่ตลาดที่กว้างขึ้นหรือเป็นที่ต่อสาธารณชน
ผลการดำเนินงาน ความสำเร็จและความภาคภูมิใจ
1. การประชาสัมพันธ์ของทางโรงเรียน โครงงานอาชีพกิจกรรมเป็นที่รู้จัก
2. การบริหารงบประมาณไม่สูญเปล่า ลงไปสู่นักเรียน/คนในชุมชนมีส่วนร่วม
3. ชุมชนบ้านอัมพวัน มีการลดรายจ่ายในครอบครัว รู้จักรักษาสุขภาพของตน
รักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นชุมชนพอเพียงใน อำเภอสองที่ได้รับการคัดเลือกชุมชนดีเด่น
4. การสร้างความเป็นผู้นำให้กับนักเรียน สามารถเป็นวิทยากรให้กับชุมชนได้
5. การได้รับรางวัล ระดับสพฐ. การจักสานไม้ไผ่เป็นของใช้ ปีการศึกษา 2552
ระดับสพป. แพร่ เขต 1 ,ระดับภาคเหนือ(มีโครงงานหลากหลายกิจกรรม)/การชื่นชมผลงานของนักเรียน
ชื่นชมและขอให้กำลังใจค่ะ