เวลาเจอนายจอมละเมียด ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการฝึกตนให้เป็นคนสมบูรณ์แบบ (Perfectionist)
เวลาเจออุบัติเหตุ ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือคำเตือนว่าจงอย่าประมาทซ้ำอีกเป็นอันขาด
เวลาเจอศัตรูคอยกลั่นแกล้ง ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือบททดสอบว่าที่ว่า “มารไม่มีบารมีไม่เกิด”
เวลาเจอวิกฤต ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือบทพิสูจน์สัจธรรม “ในวิกฤตย่อมมีโอกาส”
เวลาเจอความจน ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือวิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต
เวลาเจอความตาย ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.dhammagift.com/content-คิดบวกชีวิตบวก-4-4444-69516-1.html
ขอบคุณมากคะ คนเรามีความคิด ความรับรู้แตกต่างกัน แม้แต่ นิยามคำว่า "คิดบวก" บ้างก็แปลว่า เพ้อฝัน หนีความจริง ไม่แก้ไข ซึ่งหากแปลเช่นนั้น คิดบวก ก็เป็นสิ่งอันตราย ดังที่เขานิยามคะ แต่หากแปลว่า คิดเพื่อทำสิ่งทีสร้างสรรค์ แก้ไขโดยไม่ต้องทำให้ใคร (แม้แต่ตัวเอง) เจ็บปวด ก็เป็น
แบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต
ขอสนับสนุน การคิดบวก...ความอิจฉา ริษยา ก็ได้บังเกิดมาจาการที่คนเรานั้นคิดในแง่ลบ..ความหึงหวง..ก็บังเกิดมาจากการที่คนเรานั้นคิดลบ...ความน้อยใจ..ก็บังเกิดจากการคิดในแง่ลบ...
ขอบคุณครับบทความดีๆแบบนี้..น่าส่งเสริมให้มีการเผยแผร่...
สวัสดีค่ะ คุณCMUpal, คุณครูอ้อย แซ่เฮ
และคุณครูติดดิน คิดบวก คิดในแง่ดี ไม่มีอคติ ก็จะทำให้จิตใจสบาย คิดลบจิตใจก็หม่นหมองไปเปล่า ๆ ค่ะ