ขออนุญาติ copy ข้อความจากอีกบันทึก (http://gotoknow.org/blog/jesda/46019) มาลงไว้ที่นี่ด้วยนะครับ
ส่วนตัวแล้วชอบกิจกรรมขับรถ รู้สึกว่าสนุกดี ได้เรียนรู้ที่จะไว้ใจซึ่งกันและกัน ถ้ารถไม่ไว้ใจคนขับก็จะวิ่งไม่ค่อยออก แต่ถ้ารถกับคนขับไว้ใจกันก็จะวิ่งฉิวไปด้วยกัน สนุกจนเมื่อยขาเลยครับ
กิจกรรมที่ชอบอีกกิจกรรมนึงคือ Hug (กอด) ฟังดูทีแรกก็เฉยๆ แต่พอใด้ลองกอดกับคนที่ตั้งใจ ก็จะสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดีได้ครับ
แต่กิจกรรมที่รู้สึกไม่ค่อยชอบ คือกิจกรรม Sufi Dance ที่ให้มองมือแล้วหมุนตัว รู้สึกไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่กับการรู้สึกว่างเปล่าเพียงชั่ววินาที กับสภาพร่างกายที่ต้องรับภาระสำหรับกิจกรรมนี้
สิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงานคิดว่าการอบรมทำให้รู้จักตนเองมากขึ้น รู้ว่ามีข้อเสียอย่างไร คงต้องพยายามปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นครับ
สุดท้ายขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ (คณะฯ) ที่ทำให้ได้ไปอบรมนพลักษณ์ครั้งนี้ ประเมินโดยรวมให้ B+ ครับ :-)
ชฎาพร ลักษณ์ 3 คะ
คงต้องสารภาพอย่างจริงใจคะว่า ตอนเข้าอบรมครั้งแรก ไม่ค่อยเข้าใจและเต็มใจเท่าไร เนื่องจากยังไม่รู้ถึงสิ่งที่จะได้ (ได้ยินแต่เค้าเล่าให้ฟัง) แม้ว่าเมื่อผ่านอบรมครั้งที่ 1 มาแล้วก็ตาม ก็ยังไม่แน่ใจว่าได้อะไรมากนัก แต่เมื่อจบกระบวนการของการอบรมครั้งที่ 2 แล้ว คิดว่าได้คำตอบพอสมควร สรุปคราวๆ ดังนี้
1. ทำให้นึกถึงคำสั่งสอนของศาสนาพุทธ มากขึ้น ตัวเองคิดว่าคล้ายๆ กันคะ เช่นว่า จงมอบแต่สิ่งดีๆ เถิด อย่างไปมองสิ่งไม่ดีของเขา จงยอมรับและปล่อยวาง ซึ่งก็จะทำให้จิตใจสบายขึ้น ฯลฯ ก็ทำให้คิดปลงๆ ได้มากขึ้น (จริงๆ แล้วก็ทำอยู่เป็นประจำคะ)
2. ทำให้เราได้รับรู้และเข้าใจคนอื่นมากขึ้น ผลักดันให้เกิดความรู้สึกเห็นใจเค้า คิดและอยากทำดีให้เค้า
3. ทำให้เราได้บอก/เล่า ในสิ่งที่เราไม่เคยจะมีเวลาบอก/เล่าให้ฟัง กับเพื่อนๆ น้องๆ ในที่ทำงาน รวมทั้งได้รับฟังคำพูดจากหลายๆ คน ซึ่งเป็นคำพูดในสิ่งที่เวลาเราอยู่ในที่ทำงานไม่เคยจะได้ยินคำนี้ออกมาเลย ซึ่งก็ทำให้เกิดกำลังใจที่ดีเชียวคะ
4. ได้เห็นแววตา สายตา ท่าทางพร้อมคำพูดที่ออกมาอย่างจริงใจ รวมทั้งการแสดงออกซึ่ง ความเอื้ออาทร ความเป็นห่วงเป็นใย ความปรารถนาดี ซึ่งในสังคมไทยความเป็นชายและหญิง หรือผู้ใหญ่กับเด็ก ทำให้สื่อสารตรงนี้ในที่ทำงานได้ยากมาก
5. ในส่วนตัวเอง ก็ได้แสดงออก ถึงความรู้สึก การกระทำของแต่ละกิจกรรม กับทุกคนอย่างเต็มที่ เฉพาะในแง่ดีๆ คะ เพราะคิดว่าเสียเวลาทั้งทีแล้ว หากเราตั้งใจก็คงจะได้รับความรู้ และความรู้สึก ที่แท้จริงและนำกลับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ คุยกันสนุกขึ้น
สุดท้ายนี้ก็คงต้องขอบคุณคณะ และทีมงานผู้จัดทุกท่านคะ
ชฎาพร
มีใครจะไปกับผมอีกรอบไหมครับ ^_^
แต่มีที่ยังไม่ค่อยเข้าใจก็เรื่อง ลักษณ์ย่อย อ่ะครับ อยากรู้ว่ามันสำคัญตรงไหน จะเป็นไปได้หรือไม่ที่คนในลักษณ์นั้น แต่มีลักษณะไม่ตรงกับ หมายเลขนั้นๆ ในลักษณ์ย่อย
หรือที่ไม่ตรงก็เพราะอิทธิพลของปีก
ดีจังที่เข้ามาเว็บนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่รู้สึกดีคะที่ได้รู้และได้อ่านจากเพื่อนๆ แล้วก็เลยอยากเขียนมัง
ดีจังที่คณะจัดให้มีอบรมนพลักษณ์ อย่างที่อาจารย์จีว่า ทำให้ความรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น รู้สึกดี มีความสุขกับตัวเองมากขึ้น ซึ่งนพลักษณ์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รู้สึกอย่างนี้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะคงต้องมีการปรับปรุงตัวอีกหลายอย่างมากประกอบ ก็คงต้องแล้วแต่บุคคลว่าจะทำอย่างไรให้เหมาะกับตนเองนะคะ แต่อย่างน้อยก็ดีใจที่มีการเปิดใจกันมากขึ้น เพราะการที่เราจะอยู่รวมกันก็ต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน จึงจะได้ทำให้เกิดความสนิทใจ อย่างน้อยก็ดีใจที่ได้ทำงานในคณะนี้ กับคนที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน ดังนั้นเราควรจะช่วยกันทำให้ช่วงเวลาที่เราได้รู้จักให้มีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น ขจัดสิ่งที่ทำให้เราไม่มีความสุขลดลง ช่วย ๆ กันนะคะ
และปิ๋มยังอยากจะบอกเพื่อน ๆ อีกว่า จะมีโครงการสวดมนต์เย็นนะคะ ขณะนี้กำลังเตรียมการหาเบาะเพื่อเราจะได้นั่งสบายนิดหนึ่งนะคะ แต่มีแน่ ไม่บังคับกันนะคะ คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีจึงอยากจะบอก ไม่ซีเรียสนะ ใครสนก็เข้า ไม่สนก็ไม่เป็นไร สบาย ๆ คะ
ขอบคุณเจษฎาที่กระตุ้นเว็บนี้ให้ทำงานอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าพวกเราที่ผ่านการฝึกอบรมนพลักษณ์มาแล้ว คงเหงาๆ ว่า ทำไมคณะเราจึงไม่ค่อยได้พูดคุยเรื่องนี้กันอีกสักเท่าไร
ผมขอแจ้งว่า เราจะมีการจัดให้พูดคุยกันอีกภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ครับ และอาจจะจัดการฝึกอบรมนพลักษณ์เบื้องต้นกับผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ เจ้าหน้าที่ หรือนักศึกษาของคณะเรา ประมาณเดือนสิงหาคมนี้ครับ
ใครที่ยังไม่แน่ใจในตัวเอง หรือมีปัญหาอยากพูดคุยกับผม เชิญได้ครับ อย่าเกรงใจ
ถ้าใครเหงา ก็แวะไปคุยกันในกระดานสนทนาของสมาคมนพลักษณ์ไทยบ้างก็ได้นะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ
http://board.dserver.org/n/noppaluk/
หรือเว็บไซด์สมาคมฯ www.enneagramthailand.com