NABE พยากรณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯปี 2011-2012


สำนักข่าว AP & Yahoo Finance ตีพิมพ์เรื่อง 'Economists cut growth forecasts for 2011 and 2012'  = "นักเศรษฐศาสตร์คาด (พยากรณ์) เศรษฐกิจปี 2001-2012/2553-2554 โตลดลง (โตช้า / ชะงักงัน)", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
.
นักเศรษฐศาสตร์แนวหน้าจากสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติ สหรัฐฯ (NABE) พยากรณ์ว่า ปีนี้ (2011/2553) เศรษฐกิจจะโต 1.7% ลดลงจากที่พยากรณ์ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม คือ 2.8% (พยากรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ = 3.3%)
.
ปี 2012/2554 จะโต 2.3% ลดลงจากที่พยากรณ์ในเดือนพฤษภาคม (3.2%) เช่นกัน
.
กลไกที่น่าจะทำเศรษฐกิจชะงักงัน หรือโตช้าได้แก่
.
(1). ราคาน้ำมันสูงขึ้น > มีการพยากรณ์ก่อนหน้านี้ว่า วิกฤติพลังงานเพิ่มเสี่ยงวงจรเศรษฐกิจตกต่ำ จากทุกๆ 6-7 ปีเป็นทุกๆ 3-4 ปี
(2). แผ่นดินไหว-ซึนามิ-นิวเคลียร์รั่ว-วิกฤติขาดไฟฟ้าในญี่ปุ่น ทำให้กระบวนการผลิตชะงักงัน เนื่องจากญี่ปุ่นควบคุมความลับในการผลิตชิ้นส่วนอีเล็คโทรนิคส์ไฮเทคจำนวนมาก
.
จีนส่งออกแร่ธาตุหายาก (rare earth) มากกว่า 90% ของโลก, ทว่า... ญี่ปุ่นควบคุมการแปรรูปแร่ธาตุเหล่านี้ประมาณ 50%
.
(3). ปัญหาหนี้ภาครัฐในยุโรปใต้ โดยเฉพาะกรีซ-โปรตุเกส-สเปน
.
(4). เกิดสภาพการเมืองแบ่งขั้ว-แบ่งสี-แบ่งฝ่าย ทำรัฐสภาสหรัฐฯ เกือบปรับเพดานหนี้ (debt ceiling) ไม่ทัน, เกิดการสูญเสียความเชื่อมั่นลุกลามไปทั่วโลก
.
ท่านโอบามาประกาศจะใช้นโยบายลดภาษีให้ทั้งคน-ธุรกิจที่มีรายได้ไม่มาก เพื่อกระตุ้นการสร้างงาน พร้อมกับเพิ่มค่าใช้จ่ายภาครัฐ, ขึ้นภาษีคนรวย-ธุรกิจที่มีรายได้สูงชดเชย เพื่อป้องกันหนี้ภาครัฐเพิ่ม)
.
สหรัฐฯ จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโปรแกรม $447bn = 13.41 ล้านล้านบาท
.
นโยบายทำนองนี้ใช้ได้ผลในไทยหลัง IMF มาแล้ว ต่างกันตรงที่ไทยใช้หลักการคล้ายท่านมูฮัมมัด ยูนุสในบังคลาเทศ คือ ปล่อยกู้ให้ธุรกิจขนาดเล็ก (SME), ลดอัตราดอกเบี้ยร่วมด้วย
.
ถ้าทำได้... น่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ได้มาก ทว่า... กว่าจะผ่านสภาได้, คงจะต้องลุ้นกันเหงือกแห้งทีเดียว
.
เนบ (NABE) แนะนำให้ใช้วิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ลดภาษี เพิ่มค่าใช้จ่ายภาครัฐ ลดอัตราดอกเบี้ย ฯลฯ
.
และให้ความเห็นว่า ความเสี่ยงเศรษฐกิจร้อนแรงเกิน (จากการกระตุ้น) เช่น ลดภาษี ลดอัตราดอกเบี้ย ฯลฯ ทำให้เศรษฐกิจโตเร็วหลังตกต่ำจนเกิด "เศรษฐกิจตกต่ำ 2-3 รอบ" มีความน่ากลัวน้อยกว่าเศรษฐกิจโตช้าในระยะยาว
ตรงนี้บอกนัยเราเหมือนกันว่า อัตราดอกเบี้ยในไทยคงจะขึ้นต่อไปได้ไม่มากแล้ว เพราะปัญหาใหญ่ที่เสี่ยงทั่วโลก คือ เศรษฐกิจโตช้ามากกว่าเงินเฟ้อ
.
อาจารย์นิด้าท่านหนึ่งสอนว่า ถ้ามองเศรษฐกิจเป็นกราฟ รูปลูกคลื่นคล้ายตัว 'S (sigmoid)' หรือคล้ายกระทะ หรือขนมครกที่วางชิดกัน หงายครึ่งหนึ่ง-คว่ำครึ่งหนึ่ง
.
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้กระตุ้นให้การเจริญเติบโตอยู่ในช่วงโค้งขึ้นนิดหน่อยทางบวก แต่จะไม่กระตุ้นจนถึงยอดของความโค้งขาบวก เพราะถ้าขึ้นสูงมากจะเสี่ยงลงเร็ว คล้ายกับการขึ้นไปถึงยอดเขาแล้ว จะถึงขาลงเร็ว
.
ท่านจีน ฮวง ประธานเนบ (NABE) ซึ่งเป็น 1 ใน 52 นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำที่เข้าร่วมการสำรวจความคิดเห็นรอบใหม่กล่าวว่า ปัญหาสำคัญตอนนี้ คือ ทั้งผู้บริโภค (ประชาชน) และภาคธุรกิจสูญเสียความเชื่อมั่น
.
คณะทำงานกังวลปัญหา 3 ข้อมากได้แก่
.
(1). อัตราการว่างงานในสหรัฐฯ ยังสูงอยู่ (9.1-9.2%)
.
(2). หนี้สินภาครัฐ (สหรัฐฯ)
.
(3). หนี้สินภาครัฐในยุโรปใต้
.
วิกฤติเศรษฐกิจปีนี้เกิดขึ้นเร็ว และเกือบไม่มีใครพยากรณ์ล่วงหน้าได้ (กราฟหุ้นทางเทคนิคของ wsj พยากรณ์เรื่องนี้ล่วงหน้าได้ถึง 1.5 เดือน)
.
กล่าวกันว่า ถ้ารู้สถิติของผลผลิตประเทศ (GDP), อัตราการว่างงาน, และ/หรือ ยอดขายสินค้าปลีกทั่วสหรัฐฯ ได้... จะพยากรณ์อัตราการเติบโตของโลกได้ล่วงหน้า!
.
ผู้เขียนสังเกตว่า BigC ของไทย (สังเกตที่ลำปาง) คงจะอาศัยข้อมูลการค้าปลีกพยากรณ์ล่วงหน้าได้ โดยสังเกตจาก "การลดราคากาแฟสกัดกาเฟอีน (สินค้าค่อนไปฟุ่มเฟือย)-นำออกจากชั้นสินค้า" ในปี 2008/2551 และในปีนี้ 2011/2553 (ก่อนสหรัฐฯ ถูกลดชั้นเครดิต 1.5 เดือนเช่นกัน) 
.
เศรษฐกิจสหรัฐฯ โตเร็ว 3% ในปี 2010/2553 หลังวิกฤติเศรษฐกิจ 2007-2009/2550-2552 ก่อนลดลงเหลือ 0.7% ในครึ่งแรกปีนี้ (2011/2553)
.
อัตราการว่างงานเดือนสิงหาคม 2554 = 9.1% ไม่พบยอดการจ้างงานใหม่ สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะชะงักงัน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจ้างงานได้มากน่าจะไม่โต
.
ขณะที่แรงงานภาคอุตสาหกรรมตกงาน, สหรัฐฯ กลับขาดแรงงานวิชาชีพ-แรงงานฝีมือในภาคบริการ โดยเฉพาะพยาบาล หมอทั่วไปที่จะไปอยู่ตามบ้านนอกมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคนในวิชาชีพเหล่านี้ทยอยกันเกษียณ (หมอขาดน้อยกว่า เนื่องจากหมอส่วนใหญ่ทำงานหลังเกษียณ)
แพทยสภาไทยรายงานผลการสำรวจปี 2552 ว่า หมอไทยเกือบ 100% (ถ้าไม่พิการ) ทำงานหลังเกษียณ โดยทำงานบางเวลา หันไปทำธุรกิจ หรืออาสาสมัคร แต่เกือบไม่มีหมอที่เกษียณแล้วอยู่เฉยๆ เลย
.
ตรงนี้บอกเราเช่นกันว่า ไทยเสี่ยงขาดพยาบาล ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในยุคเบบี้บูม (1946-1964) และทยอยกันเกษียณคล้ายสหรัฐฯ เช่นกัน
.
ถ้ารัฐบาลเพิ่มการผลิตสาขาขาดแคลน คือ กลุ่ม "หมอฟัน-พยาบาล-นักบิน-วิศวกร/สถาปนิกบางสาขา-นักบัญชี" จะเป็นขวัญใจเด็กๆ และคุณแม่-คุณพ่อทั่วไทยทันที เพราะจบมาแล้วมีงานดีๆ ทำไปตลอดชีวิต (ไทยเพิ่มผลิตหมอมากว่า 10 ปีแล้ว วิชาชีพที่เหลือเพิ่มน้อยมาก)
.
อาชีพเหล่านี้ขาดแคลนคล้ายกันทั่วโลก เนื่องจากโลกกำลังก้าวจากยุคอุตสาหกรรมไปสู่ยุคสังคมข้อมูลข่าวสาร (IT)
.
ไทยเสี่ยงขาดวิชาชีพเหล่านี้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากเราตั้งเป้าจะพัฒนาไปเป็นฮับ (ศูนย์กลาง) การท่องเที่ยว-รักษาพยาบาล-การบินในภูมิภาค
.
ถ้าจะเป็น "ฮับ" จริง... พยาบาล-หมอฟัน-หมอไทยจะต้องรับภาระในการดูแลคนไทย, นักท่องเที่ยว-นักธุรกิจต่างชาติ, และที่เพิ่มขึ้นเงียบๆ คือ ฝรั่ง-ญี่ปุ่น-เกาหลีอพยพเข้ามาแต่งงานกับคนไทยตามบ้านนอกมากขึ้น
.
NABE พยากรณ์ว่า อัตราการว่างงานเฉลี่ยในสหรัฐฯ ปี 2011/2553 = 9% จะลดลงเป็น 8.7% ในปี 2012/2552, และ 8.2% ในปี 2012/2553 แสดงว่า เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นอย่างช้าๆ!
.
สหรัฐฯ ต้องการการจ้างงานใหม่อย่างต่ำ 250,000 งาน/เดือน จึงจะลดอัตราการว่างงานได้ เนื่องจากแรงงานใหม่จากคนอพยพเข้า และเด็กรุ่นใหม่ทยอยกันเข้าสู่ตลาดแรงงาน
.
อัตราการสร้างบ้านใหม่จะไม่เพิ่มในปีนี้ ส่วนยอดขายรถใหม่เพิ่มเล็กน้อย จาก 11.6 ล้านเป็น 12.6 ล้านคัน
.
ปัจจัยที่ทำให้ NABE พยากรณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ-โลกจะไม่เลวร้ายนัก คือ ราคาน้ำมันซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี ควรมีค่าต่ำกว่า 100 นิดๆ = "ไม่เต็มบาท"
.
ราคาน้ำมันที่สูงเกิน = "เกินร้อย" ไป, ยิ่งมากยิ่งเสี่ยงต้นทุนสินค้า-บริการแพง, เงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
.
ปัจจัยที่อาจช่วยชะลอการเพิ่มราคาน้ำมันในอนาคต คือ รัสเซีย-สหรัฐฯ (Exxon / Esso) กำลังค้นหาแหล่งน้ำมันใหม่ใกล้ขั้วโลกเหนือ และการโค่นล้มกัดดาฟีในอิรัก
.
ราคาน้ำมัน (หน่วยดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) = $105 (พฤษภาคม 2554), $87 (กันยายน 2554), $90 (ธันวาคม 2554)
.
NABE จะนำเสนอพยากรณ์เศรษฐกิจใหม่นี้ในการประชุมประจำปีที่ดัลลัส 
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
 

> [ Twitter ]

  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 13 กันยายน 2554. ยินดีให้ท่านนำบทความทั้งหมดไปใช้ได้ > CC: BY-NC-ND.  
หมายเลขบันทึก: 460148เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2011 06:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม 2012 15:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท