KM00075 : ระบบประกันสุขภาพในไต้หวัน ตอนที่ ๒ (3 Idiots)

ยังคงเป็นวันแรกของการเดินทาง (๔ ก.ย.๕๔) จากตอนที่แล้วได้เล่าให้ฟังว่าระหว่างเดินทางไปที่พักอีกเมืองของไต้หวันตามที่ผู้จัดเตรียมไว้ให้ ระหว่างนั่งรถบัสเดินทางไป ได้มีโอกาสน้่งดูภาพยนตร์อินเดียเรื่องหนึ่งชื่อว่า "3 Idiots" (ไม่ขอแปลเป้นไทยนะครับเพราะกลัวแปลไม่ถูก) ต้องบอกว่าภาพยนต์เรื่องนี้เขียนบทได้ "สุดยอด" มากครับ เพราะหากพูดถึงภาพยนต์หรือหนังอินเดียแล้ว เราคงนึกถึงพระเอกนางเอกร้องเพลงวิ่งข้ามภูมเขาเป็นสิบลูก แล้วเรื่องนี้มีไหม? มีสิครับ ถ้าไม่มีก็คงไม่ใช่หนังอินเดีย แต่ก็มีไม่มากครับและจะว่าไปก็มีได้อย่างลงตัวและสมเหตุสมผล เลยทำให้หนังยิ่งสนุกเพิ่มขึ้น

เรื่องราวของหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศอินเดีย ที่ผู้ชายจะต้องเรียน "วิศวะ" ส่วนผู้หญิงก็ต้องเป็น "หมอ" (ดูไปก็เกือบคล้ายๆ บ้านเรา แต่ของเรายังไม่แยกเพศเท่านั้น) พระเอกของเราก็เป็นคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนวิศวะในสถาบันการศึกษาด้านวิศวะแห่งนี้ ในเรื่องชื่อว่า Imperial College of Engineering หรือ ICE ในเรื่องพระเอกจะมีเพื่อนสนิทอีก ๒ คน ซึ่งจะว่าไปทั้งสองคนก็ถูกกดดันโดยสังคม ครอบครัวให้มาเรียน ต่างจากพระเอกซึ่งเป็น "อัจฉริยะ" ทางด้านวิศวะ เพราะ "ชอบ" ดังนั้นพระเอกจึงต้องคอยช่วยเหลือเพื่อนทั้งสองแบบฮาๆ และมีสาระ จึงเป็นที่มาของ "3 Idiots"

ความสนุกของเรื่องไม่ใช่อยู่ที่ความฮาอย่างเดียว แต่แฝงไว้ด้วยสาระและมิตรภาพของคำว่าเพื่อน สำหรับคนใจอ่อนดูแล้วอาจ "น้ำตาไหลได้" ในเรื่องจะมี Profesor คนหนึ่งซึ่งเป็นอธิการบดี ที่เรียกว่า "เคี่ยว" สุดๆ ตอนปฐมนิเทศ Profesor ท่านนี้ได้ชูปากกาขึ้นมาหนึ่งด้ามแล้วบอกว่า "นี่คือปากกาของนักบินอวกาศ ที่เขาใช้เวลาหลายสิบปีในการคิดค้นขึ้น ซึ่งจะมอบให้กับคนที่พิเศษจริงๆ เท่านั้น และใน ๓๐ กว่าปีมานี้ยังไม่มีใครได้มันไป มีใครอยากได้บ้าง" นักศึกษาทุกคนยกมือขึ้น (ยกเว้นพระเอก) Profesor ยิ้มอย่างภาคภูมิใจบอกให้ทุกคนเอามือลง พระเอกของเรากลับยกมือขึ้น แล้วถามว่า "ถ้ามันลำบากขนาดนั้น ทำไมนักบินอวกาศไม่ใช่ดินสอล่ะครับ" Profesor?????  เรื่องนี้ผมเคยอ่านในหนังสือของ อ.วรากรณ์ แล้ว แต่มาดูในหนังก็ยังขำ เพราะหน้าตาของพระเอกซึ่งคล้ายกับ Mr.Bean กับ Profesor ที่ดูฮาๆ

ยังมีอีกหลายตอนครับที่ให้แง่คิดดี เช่น มีตอนหนึ่งมีนักศึกษาฆ่าตัวตายเพราะ Profesor ไม่ให้สอบผ่าน (เข้าใจว่าเป็นปัญหาจริงๆ ของอินเดีย) พระเอกของเราจึงพยายามไปบอก Profesor ให้เปลี่ยนวิธีการเรียนการสอน ทำให้ Profesor โมโหมาก ลากพระเอกมาที่ชั้นเรียนแล้วบอกว่าให้พระเอกสอนแทน พระเอกของเราก็ปล่อยมุกเด็ด (ต้องดูเองครับ) ซะจนฮากันทั้งห้อง ทำให้ Profesor ไม่พอใจบอกว่าพระเอกไม่เห็นสอนตามตำราเลย พระเอกเราก็บอกว่า "หากสอนตามตำราผมคงสู้ Profesor ไม่ได้แน่ แต่ผมกำลังสอน วิธีการสอน ให้ Profesor ต่างหาก" พูดจบก็วิ่งออกนอกห้องไป

เรื่องนี้พระเอกของเราจะเรียกว่า "คิดนอกกรอบ" ก็ไม่ใช่ ผมอยากใช้คำว่า "คิดในกรอบแบบเป็นธรรมชาติ" มากกว่า มีครั้งหนึ่งพระเอกพยายามอธิบายให้เพื่อนของเขาฟังว่า "การทำในสิ่งที่ตนรักต่างหาก คือการประสบความสำเร็จของชีวิต" (และนำมาซึ่งความสุขของชีวิต) และในตอนสุดท้ายเพื่อนของพระเอกทั้งสองคนก็เลือกที่จะทำให้สิ่งที่ตนรัก (ต้องดูเองอีกเช่นกัน)

คงต้องพอแค่นี้ก่อนนะครับ หากสนใจลองหาดูนะครับ (ไม่แน่ใจว่าในเมืองไทยจะมีหรือเปล่า เพราะลอง Search Google ดู ยังไม่มีใครพูดถึงกัน) หนังเรื่องนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2009 แล้วครับ  โดยเฉพาะบางคนที่ยังอาจค้นหาตัวเองไม่เจอ ลองดูเรื่องนี้นะครับ สรุปว่ายังไม่เข้าเรื่องตามหัวข้อเลย เอาไว้ตอนหน้าเข้าเรื่องแน่นอนครับ (วันนี้ขอเปลี่ยนเป็นโหมดบันเทิงครับ)

[ขจิต ฝอยทอง]

ตามมาเชียร์ครับ ตอนนี้งานยุ่งๆๆครับ