วันนี้เป็นอีกวันที่สูญเสียผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ไป ด้วยวัยเพียง 32 ปี เรารู้จักกันเพียงแค่ 2 เดือน ซึ่งคนข้างบ้านพาโรงพยาบาลด้วย ไข้ ไอ หอบ ผอมแห้ง กินไม่ได้ซักประวัติแล้วว่ากำลังรักษาวัณโรคปอดจากนราธวาส แต่ 1 เดือนที่ผ่านมาตามหาพ่อผู้ให้กำเนิดจึงจำเป็นต้องขาดยา วันที่มาตรวจพบ Sputum AFB 3+ เริ่มยาวัณโรคใหม่...รับยาไปเดือนครึ่งอาการทุกอย่างดีขึ้น มาตามนัดทุกครั้ง...แต่สิ่งที่ได้รับฟังจากผู้ดูแลและคนรอบข้างคือ...มีคนแช่งให้เค้าเสียชีวิตทุกวัน...พูดทุกวัน...แต่เค้าต้องอดทนกับสิ่งเร้าที่ได้ยินทุกวัน เพื่อพ่อที่แก่เฒ่า..ที่ดูแลเค้าเป็นอย่างดี
...วันนี้ได้รับโทรศัพท์ตอนเวลา 14.25 น.ว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้เสียชีวิตลงเมื่อ 10 นาทีที่ผ่านมา ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเลย โลงศพก็ไม่มี เงินทำบุญก็ไม่มี รถบรรทุกศพไปวัดก็ไม่มี เราจะทำยังไงดี เอ้าไม่เป็นไรเดี๋ยวจะช่วยเท่าที่ช่วยได้นะ
...หลังจากได้รับโทรศัพท์ก็ขอบริจาค 10 บาท 20 บาท ก็ร่วมกันทำบุญค่ะ เพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเสียชีวิตที่ยากไร้และอนาถา ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาพี่ๆน้องๆของโรงพยาบาลปะทิว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
...เวลา 15.00 น.ก็ขับรถเพื่อไปมอบเงินบริจาค ไปถึงวัดไม่มีใครสักคน ก็เลยถามชาวบ้านว่า..เค้าจัดงานที่ไหนอย่างไร คำตอบคือ ยังไม่มีรถทุกศพเลย ... หลังจากนั้นเราก็ไปที่บ้าน ..โอ้พระเจ้า มองดูรอบๆอาณาบริเวณเป็นหมู่บ้านชาวทะเลที่อยู่ติดริมชายหาด ลมพัดเบาๆมีบ้านหลังเล็กหลังคามุงใบจาก 4-5 หลัง ชาวบ้านอยู่กัน 10 กว่าคน สภาพบ้านที่อยู่ของผู้ติดเชื้อรายนี้ เสาไม้ไผ่ 4 ต้น เป็นเพิงหมาแหงน มีหลังคามุงจาก มีราวไม้ไผ่กั้นข้าง 2 ท่อน ทั้ง 4 ด้าน มีเสื่อ 1 ผืน หมอน 1 ใบ และผ้าห่มลายแดง 1 ผืน อยู่ท่ามกลางบ้านหลังเล็กๆดังกล่าว...ผู้เป็นพ่อยังยืนนิ่งอยู่กับลูกชาย ยังไม่ได้จัดการอะไรกับศพเลย...ขณะที่ยืนถามไถ่ความเป็นไปเป้นมากับชาวบ้าน ก็มีซาเล้ง 1 คันมาเคลื่อนย้ายศพไปวัด ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นก็ช่วยกันยกขึ้นรถซาเล้ง...
....หลังจากเคลื่อนย้ายศพไปแล้วก็ตามไปที่วัดยังไม่ได้จัดการอะไรเช่นกัน สักพัก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็ระดมชาวบ้านมาช่วยกันจัดเตรียมงาน ร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้ละมือ คนนี้ขนโต๊ะ คนนั้นยกเก้าอี้ จัดโต๊ะหมู่บูชา กวาดบริเวณงาน ไม่นานพื้นที่จัดงานก็สำเร็จ ภาพที่เห็นคือ ศรัทธาของชาวบ้าน น้ำใจพี่น้อง ทัศนคติที่มีต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวีในชุมชนเป็นไปในเชิงบวก ซึ่งหาได้ยาก ถึงแม้บางคนก็คิดเชิงลบ นั่นก็ส่วนน้อย...แต่เค้าก็มาช่วยให้งานสำเร็จเช่นกัน...
บทเรียนที่เราได้รับจากการทำงานเชิงรุกในการปรับเปลี่ยนทัศนคติของชุมชนที่มีต่อผู้ติดเชื้อประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง และต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในพื้นที่
....ขออโหสิกรรม และขอให้ดวงวิญญาณ ของเพื่อนผู้ติดเชื้อรายนี้ ไปสู่สุขติ เทอญ...
ความตายเหมือนน่ากลัว
ทั้งที่เป็นขบวนการเดียวกับการเกิด
ยามเกิดเรายิ้มหัวเราะดีใจ
ยามตายไฉนจึงร้องไห้
ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าน่าสนใจคะ
มีคนแช่งให้เค้าเสียชีวิตทุกวัน...พูดทุกวัน.
ข้อต่างระหว่างคนคนป่วยมะเร็ง กับผู้ป่วยเอดส์คือ
กรณีแรกมักได้รับความเห็นใจ
กรณีหลัง ความเห็นใจ หาได้ยาก ..แต่จบท้ายเรื่องนี้ ฟังแล้วมีความหวังคะ
ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ให้กำลังใจและข้อคิดเห็นค่ะ...