หมอผีดีกว่าหมอหลวง (สมาธิ/กำลังใจบำบัด...๕)


“หมอผี” ที่คนสมัยนี้ดูถูกหนักหนานั้นแท้จริงแล้วเป็นระบบ “วิทยาศาสตร์ทางจิต” ที่ล้ำลึกยิ่ง ที่คนโบราณเขารู้กันมานาน แต่วันนี้ฝรั่งมาสอนให้เราดูถูก

หมอผีดีกว่าหมอหลวง

 

พอเอ่ยถึงหมอผี คนไทยสมัยนี้ส่วนใหญ่ (ที่เห่อการแพทย์ฝรั่ง) จะร้องยี้ทันที หาว่าล้าหลัง โง่ เซ่อ งมงาย

 

แต่หารู้ไม่ว่าบรรพบุรุษของเอ็งป่วยไข้กันมากหลายในสมัยโน้น ก็รอดตายกันมา จนมาสืบพันธุ์ให้ปูย่าเอ็งได้เกิดมา จนเอ็งก็ได้เกิดมาจนถึงวันนี้ ก็ล้วนบุญคุณหมอผีทั้งสิ้น ....ปากยังไม่ทันสิ้นกลิ่นน้ำมนต์ แหม..วันนี้เณรคุณ ด่าหมอผีผู้มีพระคุณหลาย

 

เมื่อประมาณพศ. ๒๕๓๓ ผมมีอายุได้ประมาณ ๓๕ มีบุญได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง (ภาษาอังกฤษ) จากหมอฮาร์วาร์ด ที่ท่านได้เขียนเล่างานวิจัยของท่านที่ไปวัดระดับภูมิต้านทานของพระธิเบตที่เข้าสมาธิ  พบว่าเซ็ลภูมิต้านทานเพิ่มแบบก้าวกระโดดพลันที่สมาธิเกิด (คลื่นสมองราบเรียบ) ....การค้นพบนี้ไม่ทราบว่าใครเป็นคนแรก ถ้าเป็นท่านนี้ สมควรได้โนเบล . (แต่จริงๆแล้ว พระพุทธเจ้าคือคนแรก)

 

หมอท่านนี้เล่าต่อว่า ท่านได้ทำการทดลองอีกอย่าง (ที่จริงๆ แล้วถือว่าผิดกฎหมาย แต่ในศาสนาพุทธถือว่าไม่ผิด เพราะไม่มีเจตนา) คือ ท่านรักษาคนไข้ด้วยการฉีดยา ซึ่งตัวยาประกอบด้วยสาระสำคัญมากคือ “น้ำเปล่า “

 

ท่านพบว่าการฉีดด้วยน้ำเปล่ามีอัตราการรักษาไข้ให้หายขาดได้ เท่าเทียมกับการฉีดด้วยยาราคาแพง คือ 75% ...มันน่าประหลาดมากๆๆๆๆๆๆ...โดยที่ท่านไม่ได้ให้ข้อสรุปอะไรต่อจากนี้

 

ผมอ่านจบ สรุปได้ด้วยตัวเองว่า กำลังใจ อันเกิดจาก ความเชื่อ นั่นแหละคือต้นเหตุแห่งการเยียวยา

 

ถ้าผม..วิศวกรเครื่องกล..ประกาศก้องว่า ผมจะฉีดน้ำเข้าเส้น รักษาไข้ให้หายได้ ขอจงมาฉีดบำบัดกับผมเถิด อัตราการรักษาให้หาย ไม่น่าเกิน 10% ...ทั้งที่เป็นตัวยาอันเดียวกันกับหมอฮาร์วาร์ดท่านนั้นทุกประการ ...ซึ่งแสดงว่าผลต่าง 65% มาจาก  “ความเชื่อ”  ศรัทธา หรือ กำลังใจนี่เอง

 

สมาธิ ความเชื่อ ศรัทธา ล้วนมีรากมาจากสิ่งเดียวกัน คือ “ความเข้ม” ของพลังจิต

 

เมือพลังจิตมีความเข้ม ก็จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพิ่มขึ้น ทำให้ต่อสู้กับเชื้อโรค และทำให้หายไข้ได้

 

พอหมอผีทำพิธี ท่องคาถา เรียกน้ำมัน พรมน้ำมัน  ..ยิ่งถ้าเป็นหมอชื่อดัง มีความขลัง คนไข้ก็ยิ่งเชื่อมั่น เกิดศรัทธา  ทำให้ระบบอิมมูนพุ่งกระฉูด ดังนั้นไข้ก็หาย 

 

 “หมอผี” ที่คนสมัยนี้ดูถูกหนักหนานั้นแท้จริงแล้วเป็นระบบ “วิทยาศาสตร์ทางจิต” ที่ล้ำลึกยิ่ง ที่คนโบราณเขารู้กันมานาน แต่วันนี้ฝรั่งมาสอนให้เราดูถูกระบบนี้  โดยที่พวกเขาเองว่าจริงๆ แล้วก็ไม่ต่างอะไรจากหมอผีนักหรอก เพราะมาหลอกคนโง่อย่างเราๆให้ “เชื่อ” ทฤษฎีง่าวๆ ของพวกเขาไปอย่างเซื่อง ๆ

 

โดยมีบริษัทยายักษ์ใหญ่ให้สปอนเซอร์อยู่ห่างๆ พร้อมรอยยิ้มย่อง จากการนับเงินจนเพลิน

หมายเลขบันทึก: 459371เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2011 22:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม 2012 19:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

พวกไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่รู้จักใช้สมองสติปัญญาของตัวเองว่าสิ่งไหนถูกไม่ถูก เชื่องมงายในสิ่งที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้มันจะเชื่อได้แค่ไหน ขนาดจับต้องได้คลำดูได้บางครั้งยังเชื่อไม่ได้

คนที่เขาตั้งตัวเป้นเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลายนั้น มันเป็นหนทางทำมาหากินของพวกเขาอย่างหนึ่ง ที่สามารถจะหลอกพวกสมองนิ่มว่าทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้แล้วจะรวย แต่ต้องเสียเงินค่าทำพิธีเท่านั้เท่านี้แล้วจะรวย พวกงมงายก็เชื่อเขา เสียเงินเสียทองบางคนถึงกับเสียตัว คนเราจะร่ำจะรวยจะดีจะชั่วมันอยู่ที่การกระทำ

คนเราไหว้พระสวดมนต์นั้นถือว่าดี เพราะเราเป็นชาวพุธ แต่ไหว้พระแล้วมาคุยกันแต่เริ่องเลขเรื่องหวย ผมว่ามันสวนกระแสกัน เพราะคนที่สวดมนต์ไหว้พระนั่งกัมมัฏฐานเขาจะต้องพยายามละความโลภ ความโกรธ ความหลง จะไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งเหล่านี้ ท่านผู้เป็นเจ้าสำนักน่าจะว่ากล่าวตักเตือน อบรมสั่งสอนบ้างนะครับ เดี๋ยวมันจะทำให้สำนักของท่านมัวหมองนะครับท่าน

บทเทศนา ของพระคุณเจ้า ว วชิรเมธีบางตอนพอจำไดัคือ คนที่สะเดาะเคราะห์ ท่านบอกว่า มาวิเคราะห์ดีกว่าไหม?.      

ศร้ทธาคือความเชื่อ แต่ต้องใช้ปัญญาพิจารณาว่าสื่งที่เราพบเราเห็นนั้นเชื่อได้แค่ไหน การใช้สมองใข้ปัญญานั้น จะต้องควบคุมด้วยสติจึงจะไม่เข้าข่าย เชื่องมงาย ไม่เชิ่อแต่ก็ไม่ลบหลู่ เชื่อต้องพิจารณา

ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม

นี้หรือมนุษย์ที่ยกย่องตัวเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐกว่าสัตว์เดรัจฉาน แต่บางครั้งมนุษย์บางพวกบางท่านเป็นผู้มีที่มีจิตใจที่โหดเหี้ย อุ๊ยพูดผิดขออภัยครับท่านโหดเหี้ยม กว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีกอายสัตว์มันนะ)

ต่างคนต่างจิต ต่างความคิด ต่างข้อมูล

แต่บอกได้ว่า หายไข้จากหมอผีมาหลายหน จึงมาให้เป็นของสาธารณสุขทุกวันนี้

ผู้หวังดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ท่านตั้งตัวเป็นเจ้าสำนักให้คนนุ่งขาวห่มขาว ไปไหว้พระสวดมนต์นั่งกรรมมัฏฐาน ผมขออนุโมทนาและยินดีด้วย แต่ท่านบอกเลขบอกเบอร์(หวย)นี่ซิ.?ผมว่าน่าคิดนะครับพี่น้อง ให้ลูกศิษย์ลูกหา งมงายผมว่ามันไม่ใช่?

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท